Photo: Gustau Nacarino, Reuters/profile
หลังสร้างชื่อเสียงจากการเป็นเครือข่ายผู้ให้บริการสัญญาณมือถือในประเทศจีนมาเป็นเวลานาน Huawei บริษัทที่พึ่งก้าวเข้าสู่วงการธุรกิจผลิตโทรศัพท์มือถือเพียงไม่กี่ปีก็ก้าวขึ้นมาเป็นค่ายผู้ผลิตมือถือเบอร์ 3 ของโลกได้เป็นผลสำเร็จ ตามหลังเพียงบริษัทยักษ์ใหญ่อันดับ 2 อย่าง Apple และเบอร์ 1 ของโลกอย่าง Samsung ที่ครองตลาดด้วยเม็ดเงินจำนวนมหาศาลกว่า 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2559 ที่ผ่านมา Huawei ได้จัดงานเปิดตัวโทรศัพท์รุ่นใหม่อย่าง Mate 9 ที่เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี โดยรุ่นธรรมดามีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 699 ยูโร (ประมาณ 27,000 บาท) และรุ่นพิเศษ Porsche Design มีราคาอยู่ที่ 1,395 ยูโร (ประมาณ 54,000 บาท) โปรดักต์ใหม่จาก Huawei มีจุดเด่นด้านปัญญาประดิษฐ์ ที่เรียนรู้พฤติกรรมผู้บริโภคและตอบสนองอัตโนมัติด้วยการนำเสนอแอปพลิเคชันที่มีการใช้งานเป็นประจำ
ทั้งนี้ เป้าหมายต่อไปของแบรนด์มือถือยักษ์ใหญ่จากแดนมังกรคือการแซงหน้า Apple ขึ้นไปเป็นแบรนด์มือถืออันดับ 2 ของโลกภายในระยะเวลา 2 ปีข้างหน้า!
ริชาร์ด ยู (Richard Yu) ประธานบริหารบริษัท Huawei ให้สัมภาษณ์ในงานเปิดตัวดังกล่าวไว้ว่า “เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ตอนที่พวกเราประกาศว่าต้องการจะขายโทรศัพท์มือถือ คนส่วนใหญ่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าพวกเราบ้า! ตอนที่พวกเราบอกว่าอยากจะขายมือถือสัก 100 ล้านเครื่อง พวกเขาก็บอกว่าเราบ้าอีก!”
มีข้อมูลระบุว่า Huawei กลายเป็นแบรนด์มือถืออันดับที่ 3 ของโลก หลังจากในช่วงไตรมาสที่ 3 พวกเขาสามารถส่งออกมือถือได้มากกว่า 33.6 ล้านเครื่อง ครองส่วนแบ่งทางการตลาดในสัดส่วน 9% ขณะที่ Apple และ Samsung ส่งออกมือถือไปกว่า 45.5 ล้านเครื่อง และ 75.3 ล้านเครื่อง ครองส่วนแบ่งทางการตลาดในสัดส่วน 12% และ 20.1% ตามลำดับ
ยูกล่าวถึงโอกาสในการแซงคู่แข่งด้วยกลยุทธ์การพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าไว้ว่า “พวกเราจะค่อยๆ ล้มพวกเขา (Apple) อย่างเป็นขั้นเป็นตอน ด้วยนวัตกรรมต่อนวัตกรรม เรายังมีโอกาสอีกมากมาย ทั้งปัญญาประดิษฐ์, Virtual Reality หรือ Augmented Reality มันคงเหมือนกับการแข่งรถ ที่ทุกๆ การเลี้ยวโค้งย่อมมีโอกาสให้คุณได้แซงหน้าคนอื่นๆ เสมอ”
ปัจจุบัน Huawei และยู มีความพยายามอย่างยิ่งที่จะรุกหนักเบิกตลาดโซนยุโรป ไม่ว่าจะเป็น ประเทศอย่างเยอรมนี (งานเปิดตัวโทรศัพท์รุ่นใหม่ที่มิวนิก)ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร ประกอบกับปัญหาที่ Apple ต้องดิ้นรนอย่างหนักสังเกตได้จากการออกผลิตภัณฑ์ดีไซน์ใหม่ๆ ออกมา หรือแม้แต่วิกฤตการณ์ Samsung กับปัญหามือถือรุ่นเรือธง ย่อมเป็นโอกาสที่ดีที่ Huawei จะได้แหวกผ่านช่องว่างระหว่าง 2 แบรนด์มหาอำนาจขึ้นมาได้เสียที
“ทีละขั้นทีละตอน เรากำลังจะสามารถเอาชนะด้านความไว้วางใจและความภักดีของผู้บริโภคได้ มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความเชื่อมั่นและความภักดี” ยูกล่าวปิดท้าย
Photo: Huawei
กลยุทธ์ Collaboration ผูกมิตรแบรนด์อื่น เสริมจุดแข็งตัวเอง
การเป็นแบรนด์น้องใหม่ในวงการมือถือให้โดดเด่นและเป็นที่จับตาในช่วงระยะเวลาอันสั้นถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากถึงยากมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในยุคที่แบรนด์มหาอำนาจอย่าง Samsung และ Apple ยืนจังก้าประจันหน้าแยกเขี้ยวใส่กัน ไม่ยอมให้แบรนด์มือถือรายอื่นแทรกตัวขึ้นมา เช่นนั้นแล้ว Huawei มีกลยุทธ์ใดที่จะพาตัวเองทะยานขึ้นมาจ่อบั้นท้าย Apple เช่นนี้
วิธีพัฒนาเทคโนโลยีในแบบ Huawei มักจะเน้นจับมือกับแบรนด์พันธมิตรชื่อดังทั้งหลาย แล้วจับฟีเจอร์เด่นๆ ของกัลยาณมิตรแบรนด์ดังเหล่านั้นยัดใส่ผลิตภัณฑ์ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น กล้องจากแบรนด์ Leica ที่เริ่มผูกมิตรกันมาตั้งแต่ รุ่น P9 ลากยาวมาจนถึง Mate 9
Photo: Huawei
ระบบเสียงในแท็บเล็ต MediaPad M3 จาก Harman/Kardon แบรนด์ผู้ผลิตเครื่องเสียงชื่อดังจากประเทศสหรัฐอเมริกา และล่าสุดกับ Mate 9 Porsche Design มือถือดีไซน์ไฮเอนด์ราคาไฮเอนด์ยิ่งกว่า ซึ่งเชื่อว่าแบรนด์รถชื่อดังจากเยอรมนีได้มีส่วนร่วมในการออกแบบ และ Mate 9 ก็น่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการขายรถ Porsche อีกด้วย
การทำการตลาดในรูปแบบ Collaboration ของ Huawei ถือว่าเป็นวิธีที่ฉลาดล้ำนำเทรนด์วงการมือถือมากๆ เพราะนอกจากจะเป็นการใช้แบรนด์ดัง และจุดแข็งของแบรนด์เหล่านั้นส่งเสริมแบรนด์ของตัวเองให้เป็นที่รู้จักได้อย่างรวดเร็วแล้ว พวกเขายังได้กลุ่มลูกค้าที่มาจากแบรนด์พันธมิตรอีกด้วย
Photo: Gustau Nacarino, Reuters/profile
Samsung ล้ม แต่ Apple ไม่ใช่ผู้รับประโยชน์อย่างเต็มที่?
หลังเกิดวิกฤตการณ์มือถือระเบิดใน Samsung Galaxy Note 7 จนทำให้ค่ายผู้ผลิตมือถือจากเกาหลีใต้สั่งยกเลิกการผลิต Note 7 ตลอดกาล เพื่อรักษาเสถียรภาพความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคและภาพลักษณ์ของแบรนด์ไม่ให้ย่ำแย่ไปกว่าเดิม หลังจากนั้นไม่นาน Apple ก็ได้ปล่อย iPhone 7 และ 7 Plus ออกมา คนส่วนใหญ่จึงพากันตั้งข้อสังเกตกันว่า “หรือนี่อาจจะเป็นลู่ทางในการโกยแนบจากฝั่ง Apple”
ศุภเดช สุทธิพงศ์คณาสัย อดีตผู้ดำเนินรายการ ‘แบไต๋ไฮเทค’ กลับไม่มองเช่นนั้น เจ้าตัวเชื่อว่าผู้ที่ได้รับประโยชน์จากเหตุการณ์นี้ อาจจะไม่ใช่ Apple
“ทั้ง 2 ค่ายเป็นแบรนด์มือถือที่มีจิตวิญญาณและรสนิยมต่างกัน Samsung อาจจะเป็นต่อ Apple ด้านจำนวนการขาย แต่ยอดขายโดยรวมก็ไม่ทิ้งห่างกันสักเท่าไร ผมคิดว่าแบรนด์ที่ได้รับประโยชน์จากเหตุการณ์นี้ที่สุดไม่ใช่ Apple แต่คือ Huawei เพราะตอนนี้พวกเขาคือแบรนด์มือถือแอนดรอยด์อันดับ 2 ของโลก
“Huawei มาในจังหวะที่ดีมาก เพราะตอนที่ Note 7 เกิดปัญหา ยอดขาย Huawei P9 และ P9 Plus เพิ่มขึ้นถล่มทลาย เพราะอดีตลูกค้ามือถือแอนดรอยด์จาก Samsung Galaxy Note 7 ก็อาจจะมองหาทางเลือกใหม่จากแบรนด์อื่นๆ ประกอบกับในช่วงเวลานั้น Huawei ทำการตลาดแรง พวกเขาจึงได้รับผลพลอยได้จากปัญหาของ Samsung ไปเต็มๆ”
ศุภเดชทิ้งท้ายว่า “ปัจจุบัน มือถือแอนดรอยด์จากจีนกำลังมาแรงมากๆ แบรนด์ต่างๆ เริ่มตื่นตัวและคึกคักกัน เป็นมือถือที่มาในคอนเซปต์เดียวกันทั้งหมด คือเครื่องถูก แต่สเปกเทพ คุณสมบัติเรือธง แต่มาในราคาเรือใบ”
น่าจับตาไม่น้อยว่าในอนาคต แบรนด์มือถือจากประเทศจีนอย่าง Huawei จะสามารถเดินหมากตามเกมของตัวเอง โค่น Apple หรือแม้แต่ Samsung ลงจากบัลลังก์เจ้าแห่งมือถือได้หรือไม่?และเมื่อถึงเวลานั้นจริงๆ ผู้บริโภคจะมีทัศนคติและท่าทีต่อมือถือจากแดนมังกรเปลี่ยนแปลงไปเช่นไร…
อ้างอิง:
– http://www.channelnewsasia.com/news/business/international/huawei-wants-to-beat-apple-in-smartphones-in-two-years-exec/3260438.html
– http://www.anandtech.com/show/10815/huawei-mate-9-porsche-design-launched-curved-55inch-1440p-kirin-960-6gb256gb-1300-nonus
DID YOU KNOW?
Huawei เป็นสปอนเซอร์สนับสนุนสโมสรฟุตบอลชื่อดังทั่วโลกอย่างมากมายนับตั้งแต่ปี 2014 ทั้ง Paris Saint-Germain (ฝรั่งเศส), Rayo Vallecano (สเปน), Galatasaray S.K. (ตุรกี), Boca Juniors (อาร์เจนตินา), ทีมฟุตบอลชายเซอร์เบีย และ Arsenal (อังกฤษ) โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับรายหลังที่ Huawei ลงทุนดึงนักฟุตบอลคนสำคัญของทีมอย่าง อเล็กซิส ซานเชซ เพื่อใช้ในการปลุกกระแสแบรนด์ Huawei ในประเทศชิลี (ทีมชาติของซานเชซ)
