ในโลกออนไลน์ปัจจุบันมีประเด็นเกี่ยวกับ ‘ประจำเดือน’ ผุดขึ้นมากมายและหลากหลาย นอกจากจะมีกลุ่มผู้หญิงที่ใช้วงจรฮอร์โมนช่วยยับยั้งการมีประจำเดือน หรือกลุ่มผู้หญิงที่หลงใหลในประจำเดือนของตนเองแล้ว ยังมีอีกกลุ่มหนึ่งที่ปล่อยให้ประจำเดือนไหลเองตามธรรมชาติโดยไม่ใช้ผ้าอนามัย หรือที่เรียกว่า ‘Free Bleeding’
จะเรียกว่าเป็นเทรนด์ใหม่ก็คงไม่ใช่ เพราะเรื่องนี้มีการกล่าวถึงในโลกออนไลน์มาตั้งแต่ปี 2004 ซึ่งผู้ใช้ชื่อซาราห์ (Sarah) เป็นคนตั้งกระทู้ลงในบล็อก All About My Vagina ว่าเธอไม่รังเกียจที่จะแยกซักกางเกงในอ่าง หรือปล่อยให้ประจำเดือนไหลเปื้อนผ้าปูที่นอนในบางคราว เธอเพียงแค่อยากรู้สึกสบายตัวเมื่อถึงวันนั้นของเดือนบ้าง
แปดปีถัดมา นิตยสาร Vice ตีพิมพ์ภาพของเอมมา อาร์วิดา บายสตรอม (Emma Arvida Bystrom) เป็นซีรีส์หัวข้อ ‘There Will Be Blood’ นำเสนอภาพถ่ายพอร์เทรตผู้หญิงที่มีคราบประจำเดือนเปื้อนบนเสื้อผ้า จนทำให้กลายเป็นประเด็นถกเถียงกันใหญ่โต สืบเนื่องมาจนถึงยุคปัจจุบัน และกลายเป็นกระแสเคลื่อนไหวทั้งในกลุ่มเฟมินิสต์ และแอนตี้เฟมินิสต์ เกี่ยวกับการพูดคุยเรื่องประจำเดือนอย่างเปิดเผย ไปจนถึงเรื่องปริมาณขยะจากผ้าอนามัยใช้แล้ว
Free Bleeding ในภาคปฏิบัติ
อันเน (Anne) เจ้าของบล็อก Trainyabrain เป็นแม่ลูกสองชาวเยอรมัน วัย 33 ปี เขียนเล่าถึงประสบการณ์ของตนเอง ระหว่างที่มีประจำเดือน แต่กลับไม่ยอมพึ่งพาผ้าอนามัยทั้งแบบผืนหรือแบบสอด เธอเลือกที่จะเข้าห้องน้ำทุกๆ 20-30 นาที ปล่อยให้เลือดประจำเดือนของเธอไหลออกเอง และกลับมาใช้ชีวิตประจำวันแบบปกติ
อันเนเปิดช่องทางสื่อสารทางยูทูบ Natürliche Fruchtbarkeit (ภาวะเจริญพันธุ์ตามธรรมชาติ) ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ตามธรรมชาติและการเฝ้าสังเกตวงจรของตนเอง เธอศึกษาและทดลองด้วยตนเอง จนมาถึงประเด็นเกี่ยวกับประจำเดือน เธอก็ลองวิธีปล่อยไหลตามธรรมชาติ โดยไม่ใช้ผลิตภัณฑ์สังเคราะห์
ครั้งแรกที่เริ่มทดลองวิธีธรรมชาตินั้น เธอพยายามไม่พกพาผ้าอนามัยติดตัว แต่เตรียมแค่ผ้าพับบางๆ ไว้สำหรับกรณีฉุกเฉิน ช่วงเวลานั้นเธอทำงานอยู่ที่โฮมออฟฟิศ จึงมีเวลาและโอกาสมากพอที่จะเฝ้าสังเกตร่างกายของตนเองอย่างจดจ่อได้ ช่วงสองวันแรกอันเนต้องเข้าห้องน้ำทุกๆ 20 นาที เมื่อรู้สึกตัวว่ามีเลือดประจำเดือนไหล
ในช่วงมีประจำเดือน เยื่อบุโพรงมดลูกจะหลุดออกมาพร้อมเลือด และถูกระบายผ่านปากมดลูกออกมาทางช่องคลอด โดยปกติแล้วการมีประจำเดือนประมาณสามถึงสี่วันนั้น ร่างกายจะสูญเสียเลือดประมาณ 60 มิลลิลิตรเท่านั้น
มาเรีย (Maria) หญิงชาวออสเตรียนวัย 53 ปี เป็นอีกคนที่ค้นพบทางเลือกโดยการทดลองด้วยตนเอง เธอเขียนเล่าประสบการณ์ลงในบล็อก Widerstandistzweckmäßig ที่เธอรายงานเกี่ยวกับการปล่อยประจำเดือนไหลตามธรรมชาติเช่นเดียวกัน
มาเรียทดลองครั้งแรกเมื่อตอนอายุสี่สิบปลายๆ ช่วงที่เธอเริ่มเข้าสู่วัยทอง และมีประจำเดือนมากผิดปกติจนประสบปัญหากับผ้าอนามัยแบบสอด ซึ่งเธอต้องเปลี่ยนทุกๆ 45-60 นาที ทำให้ช่องคลอดของเธอแห้งและรู้สึกเจ็บ
จากทดสอบเชิงนิเวศ พบว่า การใช้ผ้าอนามัยแบบสอดและแบบผืนนั้นมีความปลอดภัยไม่ต่างกัน กรณีศึกษาเมื่อปี 2017 ระบุผลการทดสอบผ้าอนามัยแบบสอดที่มีจำหน่ายในตลาดยุโรป 14 ยี่ห้อจากจำนวน 15 ยี่ห้อ ให้ผลลัพธ์ ‘ดีมาก’ ส่วนผ้าอนามัยแบบผืนจำนวนห้าในหกยี่ห้อให้ผลลัพธ์ดีเช่นเดียวกัน ทั้งที่ในปี 2007 เคยมีการตรวจพบเจอสารกระตุ้นมะเร็งในผ้าอนามัยแบบสอด ตราบถึงทุกวันนี้ปัญหาดังกล่าวหมดไปแล้ว แต่สำหรับบางคนยังมีปัญหาอื่นเกี่ยวกับการใช้ผ้าอนามัยแบบสอด อย่างกรณีของมาเรีย
กระทั่งเธอเริ่มหยุดใช้มัน และหันมาทดลองวิธีปล่อยไหลตามธรรมชาติ หรือใช้ผ้าพับบางๆ สำหรับซับแทนผ้าอนามัย ปัญหาความเจ็บปวดค่อยๆ คลายไป
ตอนเริ่มทดลองในช่วงมีประจำเดือน มาเรียเฝ้ามองนาฬิกาตลอดเวลา และต้องเข้าห้องน้ำทุกๆ 20 นาที ระหว่างนั่งที่โถส้วม เธอกดหน้าท้องบริเวณสะดือ และเอียงกระดูกเชิงกรานไปข้างหน้าเล็กน้อย เพื่อเพิ่มแรงกดบนมดลูกและระบายเลือด ช่วงกลางคืนเธอเข้าห้องน้ำราวสองครั้ง พบว่าเลือดประจำเดือนไหลน้อยลงจนเธอรู้สึกประหลาดใจ
มองย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์
ในความจริง ผู้หญิงรู้จักวิธีการจัดการกับเลือดประจำเดือนมานับพันปีแล้ว อย่างเช่นการใช้เยื่อสำลี เศษผ้า หรือใบหญ้าในสมัยกรีกโบราณ วิวัฒนาการผ้าอนามัยเริ่มเป็นจริงเป็นจังขึ้นในยุโรปช่วงกลางศตวรรษที่ 19 มีการผลิตผ้าอนามัยแบบผืนขึ้นมา แต่ก็ยังมีผู้หญิงน้อยคนที่ใช้ โดยเฉพาะผู้หญิงในท้องถิ่นชนบท ที่ปล่อยให้ประจำเดือนของตนเองไหลตามธรรมชาติ และเป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้หญิงสมัยโบราณมีประจำเดือนน้อยกว่าผู้หญิงในยุคสมัยใหม่ สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะยุคก่อนผู้หญิงมีลูกดก ตัวเลขเฉลี่ยอยู่ที่ 6 คน อีกทั้งอายุขัยของผู้คนในศตวรรษที่ 18 เฉลี่ยอยู่ที่ 30 ปี กระทั่งถึงศตวรรษที่ 20 ผู้คนเริ่มอายุยืนขึ้นถึง 50 ปี
ข้อดีและข้อเสียของ Free Bleeding
สำหรับมาเรียแล้ว ข้อดีของการปล่อยประจำเดือนไหลตามธรรมชาติคือ หมดปัญหาเรื่องความเจ็บปวดจากการใช้ผ้าอนามัย ส่วนข้อเสียในช่วงเริ่มแรกคือ การที่ต้องเข้าห้องน้ำบ่อยทุกๆ ยี่สิบนาที แต่ก็เป็นปัญหาในช่วงแรกเริ่มเท่านั้น เพราะเมื่อเวลาผ่านไป ช่วงห่างจะอยู่ที่สองถึงสามชั่วโมงต่อครั้ง จนเธอเริ่มรู้วงจรของมัน และสามารถปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตของตนเองได้
อันเนรู้สึกดีกับทางเลือกใหม่ของเธอตรงที่ได้รู้จักและคุ้นเคยกับตนเองมากขึ้น อีกทั้งเธอยังรู้สึกว่าเป็นผลดีต่อสภาพแวดล้อมด้วย การใช้ผ้าพับซับเลือดประจำเดือนแทนผ้าอนามัยนั้น เธอไม่ต้อง ‘ใช้แล้วทิ้ง’ แต่สามารถนำมาซักเพื่อใช้ซ้ำครั้งได้
ข้อเสียที่เห็นได้ชัดคือ การเข้าห้องน้ำบ่อยครั้ง ซึ่งอาจไม่สะดวกนักสำหรับใครที่ต้องทำงานนอกบ้าน หรือระหว่างการเดินทาง สำหรับผู้หญิงหลายคนแล้วดูไม่สะดวกนัก ที่ในแต่ละเดือนจะต้องเข้าห้องน้ำหนึ่งถึงสองวันทุกๆ 20 นาที
อ้างอิง:
https://helloclue.com/articles/culture/whats-all-fuss-about-free-bleeding-why-does-it-matter
https://trainyabrain-blog.com/?s=freie+menstruation
https://widerstandistzweckmaessig.wordpress.com/2015/05/21/mull-reduzieren-wahrend-den-tagen-teil-5/