เพียงวันเดียวก่อนจะถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2020 ซึ่งเป็นวันแรกที่กฎหมายความมั่นคงของฮ่องกงที่มีเป้าหมายเพื่อจัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลบังคับใช้ มีรายงานว่า บริษัทคอนซูลัมซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในลอนดอนชนะการประมูลส้ญญาจ้างให้ปรับปรุงชื่อเสียงของฮ่องกงเป็นเวลา 1 ปี ด้วยค่าจ้าง 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

คอนซูลัมก่อตั้งโดยทิม ไรอันและกุนเธอร์ บุชเชล ในปี 2013 เขี่ยวชาญในพื้นที่ตะวันออกกลาง โดยเฉพาะซาอุดีอาระเบีย ก่อนหน้านี้ เพิ่งทำงานปรับภาพลักษณ์ใหม่ให้กับมกุฏราชกุมารโมฮัมเหม็ดบินซัลมานแห่งซาอุดีอาระเบีย หลังเหตุการณ์ฆาตกรรมนักข่าวจามัล คาช็อกกิ

รัฐบาลฮ่องกงให้เหตุผลต่อการจ้างบริษัทปรับปรุงภาพลักษณ์ว่า เนื่องจากที่ผ่านมาภาพลักษณ์ของฮ่องกงได้รับความเสียหายจากพฤติกรรมก่อจลาจลและความรุนแรงของกลุ่มผู้ประท้วง การจ้างบริษัทพีอาร์นี้ก็เพื่อแก้ไขความรับรู้เหล่านี้ต่อชุมชนโลก ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนการฟื้นฟูเศรษฐกิจของฮ่องกง

สิ่งที่สำนักงานบริการข้อมูลข่าวสารฮ่องกงต้องการก็คือ การจัดการวิกฤต ในเอกสารสรุปเนื้อหาสัญญาที่เขียนขึ้นใหม่เมื่อต้นปีนี้มุ่งไปที่การนำเสนอภาพลักษณ์ว่า “ฮ่องกงเป็นพื้นที่ซึ่งเหมาะแก่การลงทุน ทำธุรกิจ ทำงานและใช้ชีวิต” 

ทั้งนี้คอนซูลัมจะพัฒนากลยุทธ์การสื่อสาร การตลาดและการโฆษณาเพื่อเน้นให้เห็นถึงการฟื้นตัวของฮ่องกง และเสริมสร้างความมั่นใจต่อนักลงทุน บริษัทจะเป็นตัวแทนของรัฐบาลในเวทีนานาชาติเพื่อทำหน้าที่แก้ไขการรับรู้ต่อฮ่องกง 

ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามหาบริษัทพีอาร์ต่างประเทศเพื่อเป็นตัวแทนของรัฐบาล ในช่วงการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลเมื่อปี 2019  แต่หลายบริษัทไม่ผ่านการประมูลหรือไม่ยอมรับงานนี้โดยให้เหตุผลว่าอาจเป็นความขัดแย้งทางจริยธรรมและกังวลว่าจะกระทบกับลูกค้ารายอื่น

นอกจากนี้บริษัทพีอาร์ในฮ่องกงเองก็วิจารณ์ว่า  รัฐบาลควรจะแก้ไขที่ต้นตอของปัญหามากกว่า เพราะกลยุทธ์ในการจัดการวิกฤตที่ดีที่สุดสร้างขึ้นจากข้อเท็จจริง และความสามารถในการรับผิดชอบ

ที่มา:

https://www.theguardian.com/world/2020/jun/30/hong-kong-government-hires-london-pr-firm-to-improve-image

https://www.provokemedia.com/latest/article/$6m-‘relaunch-hong-kong’-pr-tender-awarded-to-middle-east-firm-consulum

https://www.scmp.com/news/hong-kong/politics/article/3091096/relaunch-hong-kong-pr-contract-worth-us62-million-goes-firm

ภาพ: REUTERS/Tyrone Siu

Tags: