เมื่อเช้าวันอังคารที่ผ่านมา โทนี่ ชุง นักเคลื่อนไหวประชาธิปไตยฮ่องกง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมบริเวณร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ตรงข้ามสถานกงสุลสหรัฐฯ หลังมีรายงานว่าเขากำลังยื่นเรื่องขอลี้ภัยไปสหรัฐฯ จนนำไปสู่การตั้งข้อหา ‘มุ่งแบ่งแยกดินแดน’ ภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ 

กลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย ‘เฟรนด์ ออฟ ฮ่องกง’ ระบุว่า มีนักเคลื่อนไหวประชาธิปไตยทั้งหมด 5 ราย ที่ทางองค์กรให้ความช่วยเหลือด้านเอกสารลี้ภัยมาโดยตลอด โดยโทนี่ ซุง เป็นหนึ่งในนักเคลื่อนไหวที่กำลังเข้าไปยื่นเรื่องขอลี้ภัยในสถานกลสุลสหรัฐฯ ในเช้าวันดังกล่าว แต่กลับโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าจับกุมเสียก่อน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจออกแถลงการณ์ระบุว่า ตำรวจได้เข้าจับกุมนักเคลื่อนไหวชาย 2 คนและหญิงสาว 1 คน 

ภายหลัง กลุ่มนักศึกษาประชาธิปไตยฮ่องกง “Studentlocalism” ยืนยันว่า นักเคลื่อนไหวทั้ง 3 คนที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุม คือ โทนี่ ชุง อดีตแกนนำของกลุ่ม และ วิลเลี่ยม ชาน และ ยานนี่ โฮ อดีตสมาชิก โดยที่ทั้งสามรายถูกอัยการตั้งข้อหาว่ามีความผิดฐานเผยแพร่ข้อความที่มีเนื้อหา ‘ปลุกระดมมุ่งแบ่งแยกดินแดง’ ลงโซเชียลมีเดีย และข้อหาฟอกเงิน ซึ่งเป็นข้อหาเดิมที่โทนี่ ชุง เคยได้รับ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา 

ด้านโฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออกมาปฏิเสธการให้ความเห็นในเรื่องนี้ และยืนยันว่าการขอลี้ภัยไปยังสหรัฐฯ จะกระทำได้หลังเดินทางถึงสหรัฐฯ แล้วเท่านั้น แม้ว่าจะเคยมีกรณีนักเคลื่อนไหวบางรายได้รับสถานะผู้ลี้ภัยทันทีเมื่อยื่นคำร้องที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง ก็ตาม 

ล่าสุด อัยการได้สั่งฟ้อง โทนี่ ชุง ในความผิดฐานร่วมตีพิมพ์และเผยแพร่บทความที่มีเนื้อหา ‘ปลุกระดมมุ่งแบ่งแยกดินแดน’ กับพรรคพวกระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน 2018 – 9 มิถุนายน 2020 และความผิดฐานฟอกเงินผ่าน Paypal และบัญชีส่วนตัวระหว่างวันที่ 19 มกราคม 2019 – 29 กรกฎาคม 2020 อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตว่าช่วงเวลาดังกล่าวที่อัยการสั่งฟ้อง ล้วนเป็นช่วงเวลาที่เกิดขึ้นก่อนมีการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งส่งผลให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างต่อการบังคับใช้กฎหมายย้อนหลัง 

ตั้งแต่กฎหมายความมั่งคงแห่งชาติฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ตัวเลขของชาวฮ่องกงที่ยื่นขอสถานะผู้ลี้ภัยในต่างประเทศได้สำเร็จก็เพิ่มจำนวนมากขึ้น โดยรัฐบาลสหรัฐฯได้ยืนยันว่า ทางรัฐบาลจะให้ความสำคัญแก่ผู้ลี้ภัยชาวฮ่องกงเป็นอันดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม การให้สถานะผู้ลี้ภัยแก่ชาวฮ่องกงอาจกลายเป็นการเติมเชื้อไฟในความขัดแย้งทางการทูตระหว่างจีนกับสหรัฐฯให้รุนแรงมากขึ้น และอาจส่งผลเสียต่ออนาคตของสถานกงสุลสหรัฐฯในฮ่องกงด้วยเช่นกัน 

ที่มา:

https://www.scmp.com/news/hong-kong/law-and-crime/article/3107576/teenager-arrested-outside-us-consulate-hong-kong

https://edition.cnn.com/2020/10/28/asia/hong-kong-chung-arrested-intl-hnk/index.html

https://www.bbc.com/news/world-asia-china-54729054

ภาพ ISAAC LAWRENCE / AFP