ถ้าพูดถึงเมืองที่จัดเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติแล้ว ชื่อแรกๆ ที่คนส่วนใหญ่มักนึกถึงก็คงจะเป็น เทศกาลเมืองคานส์ เมืองเวนิส เมืองเบอร์ลิน เมืองอัมสเตอร์ดัม หรือที่ใกล้บ้านเราที่สุดก็คงจะเป็นเมืองปูซาน แต่หลายคนอาจจะนึกไม่ถึงว่า เมืองหลวงพระบาง ซึ่งตั้งอยู่แนบชิดสนิทกับแดนไทยอย่างมากนั้น ก็มีเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกับเขาด้วย และเป็นหนึ่งในเทศกาลที่น่ารัก มีเสน่ห์ และมีเอกลักษณ์มากที่สุดงานหนึ่งเลยทีเดียว
เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติหลวงพระบาง (Luang Prabang Film Festival) หรือเรียกสั้นๆ ว่า LPFF เริ่มต้นขึ้นโดย กาเบรียล คูเปอร์แมน (Gabriel Kuperman) ชาวอเมริกันที่เดินทางมาท่องเที่ยวหลวงพระบาง โดยมีจุดประสงค์แรกเริ่มเดิมทีคือมาท่องเที่ยวเท่านั้น แต่! เมื่อเขาได้มาสัมผัสกับความน่ารักของเมืองนี้ก็ทำให้ตกหลุมรักในทันที และหาทางใช้ชีวิตอยู่ที่นี่แบบยาวๆ โดยไม่มีกำหนดเวลาเดินทางกลับในหัวเลย
ด้วยอาชีพการงานเดิมของคูเปอร์แมนที่นิวยอร์กนั้นคลุกคลีอยู่ในแวดวงโทรทัศน์และภาพยนตร์ เขาจึงตัดสินใจเอาวิชาความรู้และคอนเน็กชันที่ตัวเองมีมาใช้เพื่อหาทางสร้างรายได้ในการดำรงชีวิตที่นี่ จึงคิดถึงการทำเทศกาลภาพยนตร์ประจำปีของเมืองนี้ขึ้นมา เพราะที่หลวงพระบางไม่มีโรงหนัง และดูจากสภาพบรรยากาศต่างๆ ก็เหมาะเจาะกับการจัดงานแบบนี้มาก คูเปอร์แมนพยายามหาทางติดต่อประสานความร่วมมือกับรัฐบาลลาวและหน่วยงานอิสระต่างๆ จากทางอเมริกาจนเกิดเป็นงานนี้ขึ้นมาได้ นี่จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติหลวงพระบาง ซึ่งจัดต่อเนื่องมาทุกปีตั้งแต่ปี 2010
ปีนี้นับเป็นปีที่ 7 แล้วสำหรับ LPFF โดยมีระยะเวลาการจัดงานทั้งหมด 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 2-7 ธันวาคม 2016 โปรแกรมหลักๆ จะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ Day Venue และ Night Venue
Day Venue เป็นโปรแกรมภาคกลางวัน สถานที่จัดงานคือโรงแรม Sofitel Luang Prabang เป็นการฉายแบบอินดอร์ ห้องฉายจุผู้ชมได้ประมาณ 200 คน ซึ่งหนังที่เอามาฉายในช่วงกลางวันจะเป็นหนังอาร์ตหรือหนังแนวทดลองต่างๆ ซึ่งอาจจะมีกลุ่มคนดูค่อนข้างเฉพาะและเข้าถึงยากหน่อย ผู้ชมส่วนใหญ่เท่าที่เห็นเป็นชาวตะวันตกที่มาเที่ยวหรืออาศัยอยู่ที่นี่
ส่วน Night Venue เป็นโปรแกรมภาคกลางคืน สถานที่จัดงานคือ Handicraft Market ซึ่งเป็นลานดินกว้างๆ ที่อยู่ใจกลางเมือง เนื่องจากที่หลวงพระบางไม่มีโรงหนังเป็นเรื่องเป็นราวแบบเมืองอื่นๆ ลักษณะการฉายจึงเป็นแบบเอาต์ดอร์ หรือนึกภาพง่ายๆ ก็คือเหมือนหนังกลางแปลงบ้านเรานั่นเอง บรรยากาศจะต่างจาก Day Venue มาก มีผู้ชมมากกว่า 1,000 คน หนังจะแมสกว่า และมีโปรแกรมประเภทบันเทิงเริงใจต่างๆ มากมายมาประกอบระหว่างการฉายหนังแต่ละเรื่องด้วย เช่น การแสดงของคนท้องถิ่น คอนเสิร์ต และเกมร่วมสนุกต่างๆ
ในเทศกาลนี้ มีหนังทั้งหมด 32 เรื่องจากประเทศต่างๆ ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ถูกคัดเลือกโดยคณะกรรมการตัวแทนจากแต่ละประเทศ ซึ่งมีหนังไทยที่ได้มาฉายในงานทั้งหมด 8 เรื่องด้วยกัน และ เดอะดาวน์ เป็นคนธรรมดามันง่ายไป หนังสารคดีจาก a day STUDIO ก็ได้รับคัดเลือกให้มาฉายในงานนี้ด้วยในคืนวันที่ 7 ธันวาคม ซึ่งเป็นคืนสุดท้ายที่ถือเป็นไฮไลท์ของงาน
นอกจากนี้ LPFF 2016 มีโปรแกรมใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น การ Pitching Project, Film Commissions และเวิร์กช็อปต่างๆ รวมถึงยอดผู้ชมที่มากกว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยตลอดงานทั้ง 6 วันนั้นมีผู้เข้าร่วมประมาณ 20,000 คนด้วยกัน
คูเปอร์แมนกล่าวว่า แม้ทุกๆ ปีที่ผ่านมาจะมีผู้ชมมาเข้าร่วมในเทศกาลมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เขาก็ไม่ได้คาดหวังจะให้งานขยายจนใหญ่โตมากไปกว่านี้ เพราะอยากเก็บรักษาบรรยากาศของงานไซส์ประมาณนี้ไว้ให้เป็นเทศกาลเล็กๆ น่ารัก ทั้งยังสามารถมองเห็นผู้ชม มีปฏิสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดสนิทสนม และคงความเป็นหลวงพระบางแบบดั้งเดิมเอาไว้
ตราบใดที่หลวงพระบางยังคงรักษาความเป็นเมืองมรดกโลกที่มีเสน่ห์และน่ารักดังเช่นที่เป็นอยู่ คูเปอร์แมนยังคงหลงรักเมืองนี้และใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ ตราบนั้น LPFF จะยังคงเป็นเทศกาลประจำปีที่อยู่คู่กับหลวงพระบางต่อไป
DID YOU KNOW?
LPFF จัดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปี ใครยังไม่มีแผนเดินทางท่องเที่ยวสำหรับธันวาคมปีหน้า ขอแนะนำว่างานนี้ควรเป็นหนึ่งในงานที่น่าบรรจุไว้ในตารางของคุณ