อายุที่เพิ่มขึ้น อาจเป็นเหตุให้หลายคนปฏิเสธที่จะทำหรือไม่ทำในบางเรื่อง แต่สำหรับ เทา พอร์ชอน-ลันช์ (Tao Porchon-Lynch) สตรีวัย 99 ปี อายุไม่ใช่ข้ออ้างสำหรับเธอที่จะหยุดทำในสิ่งที่รัก หรือเริ่มต้นเรียนรู้และทำสิ่งใหม่ๆ 

เทา พอร์ชอน-ลันช์ (Tao Porchon-Lynch) ลูกครึ่งฝรั่งเศส-อินเดีย เกิดเมื่อปี 2461 เติบโตมากับลุงและป้าในพอนดูเชอรี อาณานิคมขนาดเล็กของฝรั่งเศสบนผืนดินฝั่งตะวันออกของอินเดีย เริ่มเรียนโยคะที่อินเดียตั้งแต่วัยเยาว์ และเคยร่วมเดินขบวนกับ มหาตมะ คานธี ซึ่งเป็นเพื่อนกับลุงของเธอในการรณรงค์ทางการเมือง

ในวัยสาว เธอเดินทางกลับฝรั่งเศสแผ่นดินเกิดของบิดา ที่นั่นเธอคือนางแบบแฟชั่นที่ได้รับความนิยมอย่างสูง หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 เทาย้ายไปสหรัฐอเมริกา และเข้าสู่วงการมายาของฮอลลีวูด โดยมีผลงานภาพยนตร์หลายเรื่อง ได้ร่วมแสดงกับดาราดัง อย่างเอลิซาเบธ เทย์เลอร์ ในเรื่อง The Last Time I Saw Paris

ระหว่างนั้นเธอศึกษาเพิ่มเติมกับปรมาจารย์ด้านโยคะ และเปิดสอนโยคะให้กับนักแสดงหญิงและชายโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย หลังเลิกจากอาชีพนักแสดงในปี 2510 เธอเปิดสอนโยคะอย่างเป็นทางการในนิวยอร์ก และก่อตั้ง Westchester Institute of Yoga ขึ้น มีผู้สนใจจากทั่วโลกมาเรียนโยคะกับเธอ

อายุไม่ใช่ข้ออ้าง สำหรับครูสอนโยคะที่อายุมากที่สุดในโลก

เทาเริ่มเรียนเต้นบอลรูมตอนอายุ 87 เธอบอกว่าการเคลื่อนไหวไปตามจังหวะเร็วช้าของดนตรีนั้นสนุกสนานมาก เปรียบได้กับแชมเปญที่กำลังระเบิดพวยพุ่งออกจากขวด เทาบอกว่าเธอสามารถเต้นได้เกือบครบทุกจังหวะทั้งที่โลดโผนอย่างสวิง ไปจนถึงฟอกซ์ทรอท

อันตอน บิโลโซรอฟ (Anton Bilozorov) ครูผู้สอนและคู่เต้นวัย 26 ปีของเธอบอกว่า เทาเป็นแรงบันดาลใจให้กับทั้งตัวเขา รวมไปถึงนักเรียนคนอื่นๆ ในชั้นเรียนของเขาด้วย

ปีที่แล้ว เทาได้รับการบันทึกจากกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดว่า เป็นนักเต้นบอลรูมหญิงที่มีอายุมากที่สุดในโลก และย้อนไปในปี 2555 เธอยังได้รับการบันทึกจากกินเนสส์ให้เป็นครูสอนโยคะที่มีอายุมากที่สุดในโลกในวัย 93 ปีอีกด้วย เธอบอกว่าไม่ควรปล่อยให้ข้ออ้างเรื่องอายุ มาคอยกำหนดว่าทำอะไรได้หรืออะไรทำไม่ได้ เทาเล่าว่ายังขับรถยนต์ไปไหนมาไหนด้วยตัวเอง ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้ผู้พบเห็น เธอจะตอบคำถามคนช่างสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า แล้วทำไมฉันจะขับรถยนต์เองไม่ได้ล่ะ

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เทาเข้ารับการผ่าตัดหลายครั้ง ในปี 2542 เธอหกล้มรุนแรงจนต้องผ่าตัดเปลี่ยนสะโพกเทียมและใส่แท่งเหล็กดามกระดูกที่ขา หลายปีต่อมาเธอหกล้มอีก ข้อมือได้รับบาดเจ็บต้องผ่าตัดเปลี่ยนชิ้นส่วนกระดูกข้อมือ แพทย์ที่ทำการผ่าตัดบอกเธอว่าจะไม่สามารถทำโยคะได้อีกแล้ว แต่เธอไม่เชื่อ หลังจากนั้น เธอส่งภาพถ่ายตัวเองขณะทำโยคะท่าดอกบัวไปให้หมอ เธอเล่าว่าหลังจากได้รับภาพถ่ายใบนั้น หมอเรียกเธอว่า ผู้หญิงมหัศจรรย์

เทาบอกว่าภายในร่างกายคนเรามีพลังงานไหลเวียนอยู่และเคลื่อนไหวเป็นจังหวะที่เรารู้สึกได้ เป็นวัฏจักรหมุนเวียนดังเช่นต้นไม้เก่าแก่ที่มีอายุยืนยาวนับร้อยปี เธอเปรียบว่า ต้นไม้มักดูเหมือนจะตายเมื่อฤดูหนาวมาถึง แต่สุดท้ายก็จะผลิใบออกดอกบานสะพรั่งและมีชีวิตชีวา

เทาเล่าว่า มีนักเรียนวัย 6 ขวบในชั้นเรียนโยคะถามเธอว่า จะทำอะไรหลังเกษียณแล้ว เธอตอบว่า ฉันจะไม่เกษียณหรอก ฉันจะเต้นรำไปเรื่อยๆ ไปให้ถึงดาวโลกดวงต่อไปเลย

Tags: , , ,