ย้ายโต๊ะทำงานมานั่งในกลาสเฮาส์ ที่มีเมนูอร่อยคอยเสิร์ฟตั้งแต่เช้าจดค่ำที่ Good Thingz Happen

Good Thingz Happen หรือ ‘GTH’ เป็นไลฟ์สไตล์คาเฟ่น่านั่งที่ออกจะอยู่ในเส้นทางที่ต้องซอกแซกสักหน่อยสำหรับคนที่ชินกับการเดินทางใจกลางเมือง แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ใช้ชีวิตในย่านประชาชื่น งามวงศ์วาน หรือใกล้เคียง น่าจะคุ้นชินเส้นทางลัดจากประชาชื่นไปวิภาวดีรังสิตกันอยู่พอสมควรและคงมองหาร้านนี้ได้ไม่ยาก แต่ต่อให้คุณไม่ชินเส้นทางนี้ แล้วอยากจะได้ที่แฮงก์เอาต์สักที่ที่เปลี่ยนบรรยากาศอันจำเจ หรือกระทั่งย้ายมุมทำงานชั่วคราวควบคู่กับการพักผ่อนได้ทั้งวัน จัดประชุมสัมมนากลุ่มเล็ก ไปจนถึงไพรเวตปาร์ตี้ ที่นี่คือ Co-Living Community ที่อยากจะบอกว่ามาเถอะ เพราะมันคือโอเอซิสอีกแห่งของเมืองกรุงที่มาแล้วไม่อยากจะถอนตัวกลับไปง่ายๆ 

เหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราตกหลุมรักเรือนกระจกหลังนี้คือความโล่งโปร่งชวนสบาย โครงสร้างของร้าน Good Thingz Happen ออกแบบให้มีหลังคาทรงสูงที่โปร่งไปทั้งหลัง ตกแต่งในสไตล์ลอฟต์และอินดัสเตรียล ดึงเอาความร่มรื่นของต้นไม้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของร้าน เปิดรับแสงธรรมชาติจนเหมือนนั่งอยู่กลางสวนที่อากาศเย็นสบายทั้งวัน คุณศุภอรรถ อ่อนละมัย เจ้าของสถานที่แห่งนี้ซึ่งคร่ำหวอดอยู่ในงานสายโรงแรมและธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มมายาวนาน ตั้งใจให้เป็นพื้นที่ของความสุข ทั้งจากบรรยากาศและอาหารหลากสไตล์ 

เราชอบมุมบนระเบียงชั้นลอย ซึ่งอยู่ติดกับโซน Library & co-working lounge ที่มีหนังสือให้เลือกมาอ่านเล่นได้และค่อนข้างสงบเมื่อเทียบกับชั้นล่างซึ่งมีจำนวนโต๊ะอยู่มากกว่า นอกจากนี้ยังมีห้องประชุมขนาดกลาง 3 ห้องที่สามารถปรับให้เชื่อมกันเป็นห้องสัมมนาได้ และบางวันก็จัดเวิร์กช็อปหรือคลาสพิเศษที่น่าสนใจ อย่างที่เคยจัดมาก็เช่นคลาสทำอาหารเมนูสุขภาพ คลาสฝึกการพูดเป็นพิธีกร  ที่ทุกคนสามารถสมัครเข้าร่วมเวิร์กช็อปได้เพียงติดตามข่าวสารทางแฟนเพจของร้าน 

Good Thingz Happen เสิร์ฟอาหารฟิวส์ชั่น ทั้งไทย อิตาเลียน ญี่ปุ่น ที่เน้นการปรุงแบบโฮมเมดด้วยกรรมวิธีการปรุงแบบต้นตำรับ เราสั่งจานง่ายๆ อย่างสลัดออนเซนมาชิมก่อน ก่อนที่จะนึกขึ้นได้ว่าไม่น่าจะง่ายอย่างที่คิด เพราะการจะทำไข่ออนเซนให้ออกมาสวยและได้ความเยิ้มของไข่ที่พอดีนั้นไม่ใช่เรื่องที่ใครทำก็ได้ ต้องใช้ความเชี่ยวชาญและฝึกปรือกันพอสมควร ที่นี่ทำไข่ออนเซนออกมาได้แบบไม่มีที่ติ เมื่อคลุกเข้ากับน้ำสลัดที่ราดมาบนผักออร์แกนิกสดกรอบ ขนมปังกรอบ และเบคอนกรอบแล้ว จานนี้หมดเกลี้ยงภายในไม่กี่นาที 

สลัดออนเซน

ข้าวกะเพราดุหมูตุ๋น

จานที่สองที่กำลังรอเราอยู่ คือ ‘Pork Happen Rib’ ซี่โครงหมูย่างซอสที่ยั่วลิ้นเราตั้งแต่คำแรก เป็นซี่โครงกระดูกอ่อนที่เนื้อเยอะ แถมนุ่มจนแทบละลาย เทคนิคของความนุ่มฉ่ำนี้มาจากการหมักเข้ากับซอสสูตรของทางร้านนานถึง 24 ชั่วโมง แล้วนำมาตุ๋นต่ออีก 18 ชั่วโมง เชฟแนะนำให้เรากินชิ้นแรกแบบปกติก่อนเผื่อให้ได้สัมผัสรสชาติที่แท้จริง ชิ้นต่อๆ ไปค่อยบีบเลมอนเพิ่มความจัดจ้าน และยิ่งดีกว่านั้นเมื่อเราซุยเนื้อมาวางบนขนมปังกระเทียมสไตล์ฝรั่งเศสแล้วกัดกร้วมไปคำเดียว สมแล้วที่ทำไมขั้นตอนการปรุงถึงยาวนานขนาดนั้น เรียกว่าจานนี้เป็นจานเด็ดของร้านเลยก็ว่าได้ 

Pork Happen Rib

ควรอย่างยิ่งที่จะเว้นที่ว่างไว้ให้กับพิซซาแป้งสดที่เพิ่งออกจากเตากรุ่นๆ แป้งพิซซาของที่นี่เป็นสูตรอิตาเลียนที่มีความหนาของแป้งแบบที่เรียกว่า Perfecto ซึ่งอยู่กึ่งกลางระหว่างบางกรอบและหนานุ่ม สูตรลับจากครัวคือเชฟจะตีแป้งแบบอิตาเลียน นวดมือ และมีวิธีการผสมและพักแป้งแบบสองขั้นตอน ทุกอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ได้โดว์ที่สมบูรณ์แบบ ก่อนทาด้วยซอสที่เคี่ยวเอง มีให้เลือกหกหน้าคือแฮมเห็ด ฮาวายเอี้ยน เป็ปเปอโรนี อิตาเลียนซอสเซจ เวจจี้ และมาการิต้า ที่แต่ละหน้าใส่มาแบบเต็มเครื่องทำให้ทุกคำได้รับรสชาติและรสสัมผัสเท่าเทียมกันหมด

พิซซาแป้งสด

ถ้าใครคิดถึงเมนูแบบไทยๆ และชอบกลิ่นจัดจ้านของกะเพรา ลองสั่ง ‘ข้าวกะเพราดุหมูตุ๋น’ ที่จะทำให้เราอยากล้วงเคล็ดลับกันไปถึงก้นครัว เชฟจะนำข้าวไปผัดกับซอสกะเพราให้เข้าเนื้อก่อน แล้วจึงนำหมูตุ๋นที่ผ่านการตุ๋น 4 ชั่วโมงลงไปคลุกเคล้า ราดด้วยไข่ข้นเนื้อนุ่ม จานนี้ไม่แนะนำให้กินแบบแยกคำ เพราะการให้ในหนึ่งคำนั้นมีทั้งข้าว ไข่ หมูตุ๋น จะให้รสชาติที่เข้ากันกว่า 

บาร์กาแฟแบบโอมากาเสะ

นอกจากสามเมนูที่เล่ามา ยังมีลิสต์อีกยาวเหยียดที่รอให้เข้าไปชิม อย่าง Lunch Set ซึ่งเริ่มต้นที่ 79 บาท เป็นเมนูอาหารจานเดียว ที่มีทั้งสุกี้ ก๋วยเตี๋ยวคั่ว ข้าวผัดรถไฟ ข้าวไก่คาราเกะ ทุกจานจะเสิร์ฟมาพร้อมกับสลัดผักและซุปใส มีของว่างอร่อยง่ายอย่างเฟรนช์ฟราย ปีกไก่อบซอส แซลมอนบอล รอให้เราสั่งเพื่อไม่ให้โต๊ะว่าง หรือจะสั่งจานหลักอย่างสเต็กเนื้อ สเต็กแซลมอน ไก่กอร์ดองเบลอ พาสต้า ที่ต้มเส้นและปรุงแบบจานต่อจาน มีทั้งรสชาติจัดจ้านแบบไทยอย่างผัดขี้เมา ผัดฉ่า ผัดพริกแห้งกระเทียม หรือเข้มข้นแบบอิตาเลียนต้นตำรับอย่างคาโบนาร่า ครีมไข่กุ้ง อากรีโอ โอลิโอ ที่น่าจะถูกใจคอพาสต้าเข้าสักจาน 

วาฟเฟิล แฟมิลี่

จบมื้อมาถึงของหวาน ที่หนึ่งในเมนูหลากหลายนั้นเราเทใจให้ ‘วาฟเฟิล แฟมิลี่’ ด้วยเนื้อวาฟเฟิลที่กรอบนอกนุ่มใน ท็อปปิ้งด้วยวิปครีมและผลไม้สดตามฤดูกาล ทำให้ของหวานจานนี้ยิ่งสดชื่นเข้าไปอีก ส่วนใครที่เสพติดกาแฟ ที่นี่มีกาแฟที่เสิร์ฟแบบพิเศษ ด้วยบาร์กาแฟแบบโอมากาเสะในมุมดริปที่มีบาริสต้าเตรียมกาแฟคัดสรรมารอไว้ให้เราเลือก กับกาแฟเคนยา ชิดาโม ฮันนี บรั่นดี เรดไวน์ ซึ่งสองอย่างหลังนี้ทำให้เราได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ของกาแฟดริปที่น้อยที่จะมอบให้ได้