ขณะที่ทั่วโลกมีความต้องการถุงมือยางทางการแพทย์มหาศาลเพื่อต่อสู้กับวิกฤตโควิด-19  บริษัท Top Glove Corp Bhd ในมาเลเซียเป็นผู้ผลิตถุงมือยางทางการแพทย์ 200 ล้านชิ้นต่อวันเปิดเผยว่า การปิดประเทศอย่างเข้มข้น 1 เดือนทำให้ซัพพลายเออร์บรรจุภัณฑ์ปิดตัวลง ส่งผลให้โรงงานมีกล่องบรรจุถุงมือเหลือใช้แค่ 2 สัปดาห์

คำสั่งล็อกดาวน์ของรัฐบาลสั่งให้ปิดโรงงานทั้งหมดตั้งแต่ 18 มีนาคม แล้วให้แต่ละโรงงานที่ผลิตสินค้าจำเป็นยื่นขออนุญาต เพื่อขอยกเว้น

ขณะที่ 80% ของโรงงาน 44 แห่งของบริษัทซึ่งใช้เครื่องจักรทำงานแทนคนเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ Top Glove เองได้รับผลกระทบไม่มากนักจากปัญหาขาดแคลนแรงงานในช่วงล็อกดาวน์ แต่ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ไม่สามารถผลิตสินค้าได้มากเพียงพอ

ลิมวีไช กรรมการบริหารบริษัทให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ไม่สามารถส่งถุงมือแก่โรงพยาบาลต่างๆ ได้ โดยไม่ใส่กล่อง ตอนนี้โรงพยาบาลต้องการถุงมือมาก บริษัททำตามความต้องการได้แค่ 50% เท่านั้น

ผู้ผลิตถุงมือและฝ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้รับการยกเว้นจากรัฐบาล ให้สามารถจ้างพนักงานมาทำงานได้ครึ่งหนึ่ง แต่ซัพพลายเออร์ผลิตกล่องรายหนึ่งกล่าวว่า ปิดโรงงานแล้ว ถึงแม้ว่าบริษัทจะอยู่ในข้อยกเว้น แต่ก็ต้องได้รับอนุญาตก่อน 

สมาคมผู้ผลิตถุงมือยางมาเลเซียกล่าวว่า ได้พยายามเจรจากับทางการเกือบทุกชั่วโมงให้ภาคอุตสาหกรรมนี้กลับมาทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ก็เจรจากับซัพพลายเออร์สารเคมี และต้องการความมั่นใจว่าเครื่องพิมพ์กำลังจะได้รับอนุญาต รวมทั้งบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย อย่างการขนส่ง  รัฐมนตรีกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมระหว่างประเทศกล่าวเมื่อวันที่ 24 มีนาคมว่า ได้รับคำร้องขอเปิดทำการในช่วงล็อกดาวน์มหาศาล และกำลังร่วมมือกับอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อผลิตสินค้าจำเป็น

เดนิส หลอ ประธานสมาคมผู้ผลิตถุงมือยางมาเลเซียกล่าวว่า โรงงานสามารถผลิตถุงมือยางได้แต่ไม่มีของใส่สำหรับบรรจุ นอกจากนี้ผู้ผลิตถุงมือยางต้องพึ่งพาพนักงานที่เหลืออยู่ครึ่งเดียวให้ทำงานล่วงเวลา ระหว่างช่วงปิดประเทศ ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น 30% แต่ลูกค้าก็ยอมรับ

ประเทศพัฒนาแล้วมีความต้องการใช้ถุงมือยางทางการแพทย์ 70% ของโลก สหรัฐอเมริกาใช้ถุงมือยางมากกว่าจีน 10 เท่า ความต้องการถุงมือยางที่สูงขึ้นมากทำให้องค์การอาหารและยา สหรัฐอเมริกา หรือ FDA ยกเลิกการห้ามนำเข้าถุงมือยางจากบริษัทหนึ่งของมาเลเซียที่ก่อนหน้านี้ถูกสั่งห้าม เพราะใช้แรงงานบังคับ ส่วนสหราชอาณาจักร กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการสังคมเรียกร้องให้ทางการมาเลเซียให้ความสำคัญกับการผลิตและส่งออกถุงมือยาง เพราะมันเป็นของที่สำคัญที่สุดในการต่อสู้กับวิกฤตโควิด-19  ตั้งแต่ 20 มีนาคม

คำสั่งซื้อถุงมือยางของ Top Glove เพิ่มขึ้น 2 เท่าตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ และอาจจะเพิ่มเป็น 5 เท่าภายใน 6 เดือนข้างหน้า สมาคมคาดว่าความต้องการถุงมือยางจะเพิ่มขึ้น 16% ในปีนี้ มาเลเซียมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 65% ส่วนไทยอยู่ที่ 18% และจีน 9%

ที่มา:

https://www.reuters.com/article/us-health-coronavirus-malaysia-packaging/virus-fight-at-risk-as-worlds-medical-glove-capital-struggles-with-lockdown-idUSKBN21C11W

https://fortune.com/2020/03/24/coronavirus-healthcare-workers-medical-gloves/

https://www.thestar.com.my/business/business-news/2020/03/21/rubber-gloves-from-oversupply-to-shortage-due-to-pandemic-and-mco

ที่มารูป: REUTERS/Bazuki Muhammad