เรื่องสรรพนามเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่มักจะถูกหยิบยกขึ้นมาเมื่อพูดถึงเรื่องความหลากหลายทางเพศ เพราะการเลือกใช้สรรพนามใดๆ ย่อมเป็นการเหมาไปโดยปริยายว่าใครคนนั้นเป็นเพศใด ขณะที่คำเหล่านั้นอาจไม่ได้ตรงกับเพศสภาพของคนนั้นๆ เสียทั้งหมด
สถาบันจอห์น เอฟ เคนเนดี้ แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พยายามแก้ปัญหานี้ด้วยการออกสติกเกอร์ให้นักศึกษาแปะลงบนป้ายชื่อก่อนเข้าคลาสเรียน เพื่อให้มีการเรียกขานกันอย่างสะดวกใจทั้งฝ่ายผู้เรียกและผู้ถูกเรียก โดยตัวเลือกที่มีได้แก่ She/Her, He/Him, They/Them ซึ่งไม่ระบุเพศ และ Ze/Hir ซึ่งระบุความเควียร์
ย้อนไปเมื่อปี 2015 มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเป็นสถาบันการศึกษาแห่งแรกๆ ที่ยินยอมให้นักศึกษาเลือกใช้คำที่เป็นกลางทางเพศได้ในการลงทะเบียนเรียน และเมื่อมาถึงปี 2020 ก็ได้ขยายไปสู่การนำคำเหล่านั้นมาใช้จริงในการปฏิสัมพันธ์ระหว่างเรียนด้วย
ผู้ริเริ่มแนวคิดนี้คือดิเอโก การ์เซีย บลูม นักศึกษาที่ใช้ปากกาเคมีเขียนระบุเพศ He/Him ลงบนป้ายประจำตัวนักศึกษาเมื่อปีการศึกษาที่ผ่านมา ทำให้นักศึกษาหลายคนเริ่มระบุสรรพนามที่ตนเองสะดวกใจลงบนป้ายชื่อของตัวเองบ้าง ในปีนี้ทางสถาบันจึงจัดเตรียมสติกเกอร์เอาไว้ให้เสร็จสรรพ ไม่ต้องใช้ปากกาเขียนกันเองอีกต่อไป
สติกเกอร์เหล่านี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่อาจช่วยให้นักศึกษาวางตัวเกี่ยวกับเพศสภาพของตนได้ง่ายขึ้น ก่อนหน้านี้หลายมหาวิทยาลัยต่างพยายามตอบรับต่อความหลากหลายทางเพศด้วยวิธีการหลากหลาย เช่น มหาวิทยาลัยไอโอวาที่แจ้งให้นักศึกษาสามารถส่งอีเมลหาอาจารย์ผู้สอนตั้งแต่ต้นเทอม เพื่อแจ้งว่าสะดวกใจกับสรรพนามแบบใด
อย่างไรก็ตามการปรับใช้สรรพนามระบุเพศที่หลากหลายขึ้นไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่ายๆ แม้แต่ในสหรัฐอเมริกาก็ตาม เช่น ในมหาวิทยาลัยมินเนโซตา ต้องใช้เวลากว่า 3 ปีในการถกเถียงเพื่อออกนโยบายให้นักศึกษาระบุสรรพนามที่ตนเองสะดวกใจได้ หรือที่มหาวิทยาลัยชอว์นีในรัฐโอไฮโอ ก็มีศาสตราจารย์ผู้สอนวิชาปรัชญาวัย 62 ปี ที่ปฏิเสธจะเรียกนักศึกษาข้ามเพศด้วยสรรพนามแบบผู้หญิง เนื่องจากสำหรับเขาแล้วมันผิดต่อหลักศาสนา เมื่อทางมหาวิทยาลัยออกจดหมายเตือน สมาคมคริสเตียนในโอไฮโอก็ออกมาประณามมหาวิทยาลัยที่ก้าวก่ายการสอนของศาสตราจารย์และไม่เคารพความเชื่อทางศาสนาของเขา
กลับมาที่เรื่องสติกเกอร์ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ฝ่ายอาจารย์เองก็พบว่ามันช่วยให้พวกเขาเครียดน้อยลงว่าจะใช้สรรพนามที่สร้างความอึดอัดให้กับนักศึกษา เช่น อาจารย์ธีโอดอร์ สโวโรนอส วัย 33 ปี ยอมรับว่าเขาไม่ต้องหมกมุ่นกับการจดจำว่านักศึกษาคนไหนสะดวกใจให้เรียกตนเองด้วยสรรพนามใด
ทางด้านบลูม ผู้ริเริ่มการระบุสรรพนามลงบนป้ายชื่อนักศึกษากล่าวกับนิวยอร์ก ไทมส์ ว่าเขาอยากให้มีการใช้สติกเกอร์เหล่านี้อย่างแพร่หลาย “ยิ่งมีคนใช้มันมากเท่าไร มันก็ยิ่งส่งต่ออิทธิพลมากขึ้นเท่านั้น และมันก็ทำให้คนยอมรับกันและกันได้มากขึ้นด้วย”
ที่มา:
https://www.nytimes.com/2020/02/19/us/gender-pronouns-college.html
https://www.citylab.com/life/2015/09/ze-or-they-a-guide-to-using-gender-neutral-pronouns/407167/
