ว่ากันว่า ในช่วงทศวรรษ 2010 ชุมชนออนไลน์สำหรับเลสเบี้ยนที่ใหญ่ที่สุดในไทย คือสังคมเสมือนจริงที่เรียกว่า ‘บอต’ วัยรุ่นหญิงรักหญิงสมัยนี้อาจหาแฟนกันได้จากหลายช่องทางโซเชียลฯ พวกเธอมีกระทั่งแอปพลิเคชันหาคู่สำหรับหญิงหญิงโดยเฉพาะ
แต่หากย้อนกลับไปราว 10-15 ปีก่อนหน้า เราจะพบว่า มีวัยรุ่นหญิงรักหญิงจำนวนมากเริ่มหาและมีแฟนจากการเล่นบอต
แม้มีที่มาจากคำว่า ‘Robot’ แต่ในภาษาอินเทอร์เน็ตของยุคนั้น คำนี้ไม่ได้ให้เซนส์ของโปรแกรมอัตโนมัติอย่างที่ในยุคนี้เราเห็นกันบ่อยๆ ในคำว่า แชตบอต (Chatbot) เว็บบอต (Webbot) หรือสแปมบอต (Spambot) แต่สื่อถึงบัญชีผู้ใช้งานประเภทหนึ่ง ที่มีตัวตนสมมติหรืออวตาร (Avatar) ในพื้นที่ออนไลน์
ตัวตนที่ตั้งอยู่บนรูปภาพและข้อมูลพื้นฐานของผู้อื่น ก่อนจะได้รับการกำหนดบทบาท หน้าที่ ภารกิจ โครงเรื่อง สังกัด หรือกระทั่ง ‘โพซิชัน’ ขึ้นมาให้ผู้ใช้ได้สวมบทบาท
คอลัมน์ Gender สัปดาห์นี้ The Momentum เปิดฉากเดือนแห่งการเฉลิมฉลองด้วยประเด็นพื้นที่เควียร์ ในยุคไม่กี่ปีก่อนประเทศไทยจะเปิดทางรัก ให้ผู้มีความหลากหลายทางเพศสมรสอย่างถูกกฎหมาย เราขอนำทางผู้อ่านเควียร์เจนวายตอนปลายและเจนซีตอนต้น ที่ใช้ชีวิตวัยรุ่นในยุค 2010 ย้อนวัยกลับไปมองวันวานผ่านบทสนทนากับอดีต ‘คนเล่นบอต’
โลกสองใบในวัยขบเผาะ
“คำว่า ‘บอต’ ตามนิยามของคุณมีความหมายว่าอย่างไร”
เมื่ออาย (นามสมมติ) ในวัยยี่สิบกลางๆ ได้ฟังคำถามแรก เธอตอบอย่างฉะฉานหลังใช้เวลาคิดเพียงน้อยนิดว่า บอตคือโลกใบที่สอง ซึ่ง ณ ชั่วขณะหนึ่งจนถึงไม่นานมานี้ เคยสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าโลกใบแรก ในโลกใบนี้อายพบเพื่อนแท้ พบรัก พบกระทั่งครอบครัวขนาดย่อมๆ
ก่อนอื่น อายเท้าความให้เราฟังถึงที่มาที่ไปของสังคมบอต สำหรับเธอนี่คือชุมชนออนไลน์ที่ริเริ่มขึ้นจากความชื่นชอบ ที่คนกลุ่มหนึ่งมีต่อศิลปินเคป็อปร่วมกันโดยแท้ สอดคล้องกับข้อมูลในบทความด้านสังคมและมานุษยวิทยาของ อภิษฐา ดวงมณี ที่ระบุต้นตอของวัฒนธรรมดังกล่าวว่า มาจากการที่กิจกรรมบนเว็บไซต์แฟนคาเฟ่ของเกาหลีใต้แพร่เข้ามาในไทย พัฒนาจากเดิมที่ศิลปินตัวจริงเข้ามาโต้ตอบกับแฟนคลับหรือโต้ตอบกันเองมาเป็นการที่แฟนคลับสวมบบทบาทเมมเบอร์ที่ชื่นชอบ
และเนื่องจากเว็บไซต์ดังกล่าวมีชื่อว่า UFO Town ในทศวรรษ 2000 ตอนปลายจนถึง 2010 ตอนต้นๆ เราจึงมักรู้จักการเล่นบอตในนามของ ‘ยูโฟ่คลับ’ ก่อนค่อยๆ เปลี่ยนมาเรียกด้วยชื่อที่สั้นลงและความหมายกว้างขึ้นว่า ‘บอต’ ตามลำดับ และพอถึงจุดหนึ่งการเล่นบอตก็แตกแขนงออกมาจากกิจกรรมระหว่างแฟนคลับ-ศิลปิน และ/หรือกิจกรรมโปรโมตศิลปิน กลายมาเป็นกิจกรรมกลุ่มเพื่อจุดประสงค์ส่วนตัวมากขึ้น ทั้งยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานขึ้น
ที่น่าสนใจคือ ธรรมชาติของบอตนั้นมีความแตกต่างกันไปตามแต่แพลตฟอร์มที่เล่นด้วย อายและเพื่อนๆ จะสร้างคอมมูฯ ขึ้นด้วยห้องแชตไลน์เป็นหลัก ในขณะที่แพลตฟอร์มอื่นๆ ก็จะใช้ฟังก์ชนเฉพาะที่มีบนแพลตฟอร์มของตนเอง เช่น สยามโซนใช้ระบบกระทู้-คอมเมนต์ควบคู่กับ MSN เด็กดีใช้ระบบบทความนิยาย ทวิตเตอร์ใช้ระบบแฮชแท็ก
โดยจากประสบการณ์ลองผิดลองถูก อายรู้สึกได้ถึงความแตกต่างทางวัฒนธรรมของบอตในทวิตเตอร์ที่นิยมบทสนทนามุ่งเน้นเรื่องเพศ (Sexting) มากกว่าอย่างมีนัยสำคัญ ดังที่บทความของ 101 World เขียนถึงวัฒนธรรมการยืมเมจเอาไว้เมื่อปี 2019 เธอจึงสบายใจที่จะสิงอยู่คอมมูฯ ตามห้องแชตไลน์ที่ตนคุ้นเคย
รู้ตัวอีกทีอายก็เปลี่ยนแฟนผู้หญิงที่อยู่ในชุมชนบอตมานับครั้งไม่ถ้วนในวัยมัธยมต้นที่เคยมีแฟนเป็นผู้ชายในชีวิตจริงมาแค่คนเดียวเท่านั้น จากความรับรู้ของเธอ ผู้เล่นชายถือเป็นชนกลุ่มน้อยในสังคมบอตที่ไม่ใช่คนทุกกลุ่มก้อนจะอ้าแขนรับ
“เป็นที่รู้กันว่าไม่ว่า ‘เมจ’ จะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง สร้างคาแรกเตอร์ให้เป็น ‘โพ’ รุกหรือรับ ส่วนใหญ่ผู้เล่นที่นั่งอยู่หลังตัวตนบอตก็เป็นผู้หญิงแทบทั้งหมด เลยเกิดความรู้สึก Insecure บางอย่างขึ้นเวลาเราต้องคุยกับบอต ‘เรียลชาย’ ซึ่งก็มีอยู่ไม่มาก สักราวๆ 10% ได้
“ทั้งที่ตัวเราในชีวิตจริงเราก็มีแฟนเป็นผู้ชายได้นะ แต่ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกไม่ดึงดูดกับผู้ชายในนั้นเลย ในโลกของบอต เสน่ห์มันมาจากไม่กี่อย่าง มี Aesthetic ที่ปรากฏในการตกแต่งโปรไฟล์ ภาษาที่พิมพ์ออกมาในข้อความ และน้ำเสียงที่ได้ยินตอนคอลรวม ซึ่งเดาว่า น่าจะเป็นสิ่งที่เด็กผู้ชายยุคนั้นไม่ถนัดกันเท่าไร บอตที่ป็อปมากๆ ส่วนใหญ่เลยมักเป็นบอตเรียลหญิง” อายเล่า
“สิ่งหนึ่งที่ทำให้การมีแฟนในโลกบอตสนุกมากๆ คือตัวตนในชีวิตจริง ไม่ว่าจะในแง่ของหน้าตา พื้นเพ หรือฐานะ มันมีผลค่อนข้างน้อย เราสามารถสร้างสรรค์ตัวตนของเราขึ้นมาแบบไหนก็ได้ อาจจะเหมือนหรือแตกต่างกับตัวตนในชีวิตจริงของเราแค่ไหนก็ได้ ไม่มีใครมาตัดสินกันเรื่องนี้
“อย่างเราเอง เป็นผู้หญิงตัวสูงที่เอเนอร์จีตัวเล็กตัวน้อยหน่อย ปกติสเป็กเราเลยเป็นคนตัวสูงกว่า แต่แฟนบอตคนแรกที่เรารักมากๆ เขาเป็นสาวห้าวตัวเล็ก มีโอกาสได้ไปเจอตัวจริงครั้งหนึ่ง เขาสูงแค่อกเราเอง! (หัวเราะ) แต่ถึงอย่างนั้นเรื่องเรียลที่ไม่ตรงสเป็กก็มีผลกับความชอบของเราที่มีต่อเขาน้อยมาก
“อย่างที่บอกไปเลย คำพูดคำจา คารม และเสียงของเขาซึ่งสำคัญกว่ามากในแกรมมาร์ของคนเล่นบอต มันยังคงทำให้เราใจเต้นได้อยู่ สิ่งหนึ่งที่ทุกวันนี้ก็ยังจำไม่ลืมว่าทำให้เราชอบเขามากคือเสียง เขาเป็นผู้หญิงเสียงทุ้มแบบที่เราชอบเลย”
เมื่อพื้นที่เสมือนจริง ‘เอื้อ’ ให้เกิดรักได้มากกว่า
คำถามถัดมาที่อายได้รับคือ “คิดว่าในยุคของเรา คนพบรักกันในชีวิตจริงยากขึ้นกว่ายุคก่อนๆ หรือเปล่า”
เธอตอบว่า “เราว่าสิ่งนี้นี่แหละคือเหตุผลที่เด็กวัยรุ่นยุคเราส่วนหนึ่งมาสิงบอตกัน เพราะความรักในชีวิตจริงมันไม่ได้หากันง่ายขนาดนั้น ไม่ใช่แค่ความรักในเชิงโรแมนติกเท่านั้นนะ แต่รวมถึงมิตรภาพที่ยั่งยืน และครอบครัวที่เป็นเซฟโซนด้วย
“โดยเฉพาะในวัยเรียนที่เรายังเดินทางไปไหนมาไหนไกลๆ เองตามใจไม่ได้ ยิ่งเป็นเด็กต่างจังหวัดที่ไม่ได้เข้าถึงขนส่งสาธารณะ หรือมีพื้นที่สาธารณะให้แฮงเอาต์กันมากมายด้วยแล้ว พอมีช่องทางที่สามารถใช้ในการแสดงออกถึงตัวตนด้วยวิธีต่างๆ คนก็เลยมารวมตัวทำนั่นทำนี่ด้วยกัน
“ใครที่ไม่เคยเล่นอาจจะนึกไม่ออก ในแต่ละกลุ่มจะมีกฎระเบียบต่างๆ และภารกิจให้ทำตามแล้วแต่โอกาส ห้องแชตแต่ละห้องแทนพื้นที่ที่มีฟังก์ชันแตกต่างกันไป เช่น ห้องหนึ่งเป็นคาเฟ่ ห้องหนึ่งเป็นบาร์ อีกห้องเป็นสระว่ายน้ำ แล้วเราก็จะโรลเพลย์กันเหมือนเราอยู่ที่นั่นจริงๆ
“จริงๆ คอนเซปต์ของห้องพวกนี้ขึ้นก็อยู่กับธีมที่คนในกลุ่มชื่นชอบด้วย เช่น ช่วงหนึ่งกลุ่มของเราทำภารกิจธีมแฮร์รี พอตเตอร์กัน ก็จะมีชานชาลาที่ 9¾ ตรอกไดแอกอน ห้องนั่งเล่นรวมของแต่ละบ้าน ห้องต้องประสงค์
“ส่วนกิจกรรมที่ทำมีตั้งแต่ทำควิซแฟนพันธุ์แท้ ดูหนังด้วยกันผ่าน Rave ถ้ามีคนกดพอสเพื่อแชตกัน หนังของทุกคนก็จะพอสเหมือนกันหมด ส่วนเวลาจัดปาร์ตี้ก็จะมีคนรับบทดีเจคอยรันเพลงในคอลจริงๆ พวกเราสรรหาสารพัดแอปฯ และเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้ในการเชื่อมโยงประสบการณ์ของแต่ละคนเข้ามาเสมือนว่า เราอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ปิดเทอมบางช่วง เราใช้เวลาด้วยกันทั้งวันติดต่อกันเป็นสัปดาห์ แม้ว่าในความเป็นจริงจะอยู่กันคนละซอกคนละมุมของประเทศเลยก็ตาม”
ในเวลานี้ที่คอมมูฯ บอตเริ่มค่อยๆ เลือนหายไปจากช่องทางโซเชียลฯ อายระลึกถึงเพื่อนๆ รวมถึงอดีตคนรักของเธอในฐานะกลุ่มคนที่มีส่วนสำคัญอย่างมากต่อการเติบโตของเธอ
“ฟังแล้วอาจจะรู้สึกว่าเหลือเชื่อ แต่มีหลายเรื่องราว หลายประสบการณ์ หลายทักษะความรู้ที่เราได้มาจากสังคมบอต รสนิยมการดูหนังฟังเพลงที่กว้างขวางของเราก็มีเบ้าหลอมเป็นเพื่อนในบอต แอปฯ และโปรแกรมหลายอย่างก็ใช้คล่องเพราะเล่นบอต
“และที่สำคัญคือสกิลการจีบ การเต๊าะ ลูกล่อลูกชนต่างๆ ที่ใช้กับคนคุยในชีวิตจริงนี่ก็ได้มาจากการมีแฟนบอตล้วนๆ เพราะการจีบกันในสังคมบอตมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ไม่มีการ ‘บังเอิญ’ เดินไปให้เขาเห็นหน้าที่โรงอาหารหรือหน้าเสาธง ไม่มีการกดใจสตอรีหยอกให้เขาสงสัย ยังไงเราก็ต้องเป็นฝ่ายเข้าหาเท่านั้น แต่จะทำยังไงให้ดูเป็นธรรมชาติ และในขณะเดียวกันก็ต้องทำให้เขาจดจำเราได้ด้วย”
เป็นเวลากว่าสิบปีที่อายใช้ชีวิตช่วงวัยรุ่นในสังคมออนไลน์ขนาดใหญ่ไปพร้อมๆ กับสังคมออฟไลน์ ปัจจุบันแม้จะเลิกเล่นบอตไปแล้ว แต่ก็ยังคงติดต่อกับเพื่อนบางส่วนที่รู้จักจากโลกบอต มีทั้งกลุ่มที่ยังพอนัดเจอกันได้ และกลุ่มที่ไม่ได้คุยด้วยมากมายแต่ยังคงติดตามกันอยู่ทางบัญชีโซเชียลฯ ที่แลกเรียลกันไว้
กลุ่มแชตที่อายเป็นสมาชิกมาหลายปียังไม่หายไปไหน เพื่อนบางคนก็ยังคงเหลือร่องรอยเอาไว้ในโปรไฟล์เป็นรูปศิลปิน ตัวอักษรพิเศษ และชื่อแฝง แต่แทบไม่มีใครส่งข้อความอะไรเข้ามา พอเล่ามาถึงตอนนี้ อายกล่าวว่าอีกไม่นานวัฒนธรรมบอตก็คงถึงเวลาเลือนหาย กลายเป็นเพียงความหลังที่มีคนเพียงหยิบมือคอยจดจำ
แต่เธอรู้ดีว่าตัวเองไม่มีวันลืม
อ้างอิง
ศุภาวรรณ คงสุวรรณ์. (2019). #ยืมเมจ for what? ปรากฏการณ์ทางเพศรูปแบบใหม่ในสังคมเสมือน. The 101 World. https://www.the101.world/roleplay_for_sex/.
อภิษฐา ดวงมณี. (2021). โลกของ “บอต” ศิลปินเกาหลีในทวิตเตอร์: ชาติพันธุ์นิพนธ์ของชุมชนออนไลน์. 25645908030587VNJ [สังคมวิทยาและมานุษยวิทยามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร]. https://ethesisarchive.library.tu.ac.th/thesis/2021/TU_2021_5908030587_11993_21704.pdf.
Turner, J. (2020). If You Remember These 7 Things, You’re A Certified K-Pop Veteran. Koreaboo. https://www.koreaboo.com/rewind/kpop-veteran-check-old-past-apps-fan.
Tags: RP, Roleplay, เล่นบอต, Gender, ยืมเมจ, ความสัมพันธ์, ยูโฟ่, UFO, บอตศิลปินเกาหลี, ตัวตน, ชุมชนออนไลน์, BOT, บอท, บอต, QUEER IS HERE