ปัจจุบัน การแข่งขันฟุตบอลพยายามใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยตัดสินการแข่งขัน เพื่อลดข้อผิดพลาดจากกรรมการที่เป็นมนุษย์มากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับรายการพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ที่มีการนำเทคโนโลยี VAR (Video Assistant Referee) หรือการตัดสินจังหวะสำคัญโดยใช้ภาพวิดีโอ เข้ามาเกี่ยวข้องนับตั้งแต่ฤดูกาล 2019-2020 เป็นต้นมา
ถึงกระนั้นตลอด 4 ปีที่ผ่านมา กลับมีการตั้งคำถามถึงความโปร่งใสของผู้ตัดสินที่มีบรรทัดฐานและความเที่ยงตรง ในการใช้เทคโนโลยี VAR กับแต่ละทีมหนักแน่นไม่เท่ากัน จนในบางครั้งแฟนฟุตบอลรู้สึกว่า สโมสรที่รักของพวกเขาอาจจะได้คะแนนการแข่งขันที่ดีกว่านี้ หากไม่มีการตัดสินที่น่ากังขาของ VAR เข้ามาเกี่ยวข้อง
หากถามว่า VAR มีส่วนสำคัญกับเกมพรีเมียร์ลีกอย่างไร คงต้องย้อนกลับไปในการแข่งขันพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2022-2023 ซึ่งอ้างอิงข้อมูลจาก Planetfootball และ ESPN โดยใช้หลักเกณฑ์ว่า หากในเกมการแข่งขันเป็นไปตามการตัดสินของกรรมการในสนาม โดยไม่มีเทคโนโลยี VAR เข้ามาแทรกแซงจะเป็นอย่างไร
ผลปรากฏว่า มีจำนวนประตูทั้งหมด 54 ประตู ที่ถูกกลับคำตัดสินว่าเป็นจังหวะล้ำหน้าถึง 36 ประตู และมีกรณีการฟาวล์ในกรอบเขตโทษจำนวน 27 ครั้ง ซึ่งมีทั้งหมด 12 ครั้ง ที่ VAR ตัดสินว่าเป็นโมฆะ
ทั้งนี้ ทีมที่ได้รับผลประโยชน์จากการกลับคำตัดสินโดย VAR คือสโมสรแอสตันวิลลา ที่ได้แต้มเพิ่มมากถึง 11 แต้ม ส่งผลให้ทีมสิงห์ผงาดทำอันดับเข้ามาแข่งขันในรายการยูฟ่ายูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก (UEFA Europa Conference League) ในฤดูกาล 2023-2024 แทนที่จะจบฤดูกาลในอันดับที่ 9 หากไม่มีเทคโนโลยี VAR ช่วยในการตัดสิน
ด้านทีมในกลุ่ม Big 6 ของพรีเมียร์ลีก สโมสรลิเวอร์พูลคือทีมที่ได้ผลประโยชน์จาก VAR ถึง 6 คะแนน กลับกันแมนเชสเตอร์ซิตี้คือสโมสรที่เสียผลประโยชน์จากเทคโนโลยี VAR มากถึง 5 คะแนน
ขณะที่ในฤดูกาล 2023-2024 ที่กำลังแข่งขันกันเข้มข้นดุเดือด ก็มีการพูดถึงความถูกต้องของการตัดสินโดย VAR และกรรมการที่เป็นมนุษย์บ้างแล้ว โดยเฉพาะในการแข่งขันระหว่างลิเวอร์พูลกับท็อตแนมฮอตสเปอร์ ที่มีใบแดงเกิดขึ้น 2 ใบ และมีการจับล้ำหน้าลูกยิงของ หลุยส์ ดิอาซ (Luis Díaz) แนวรุกชาวโคลัมเบียของทีมหงส์แดง ที่ค้านสายตาแฟนบอลทั่วทั้งโลก
แม้ในเวลาต่อมา องค์กรผู้ตัดสินอังกฤษ (PGMOL) ออกมาแถลงยอมรับข้อผิดพลาดในเกมการแข่งขันดังกล่าว โดยเฉพาะในจังหวะการทำประตูของหลุยส์ ดิอาซ ที่ถูกตัดสินว่าเป็นลูกล้ำหน้า ว่าเป็นความผิดพลาดของกรรมการและทีม VAR
ไม่ช้า ทีมลิเวอร์พูลออกแถลงตอบกลับทันควันว่า พวกเขารับทราบถึงแถลงการณ์ยอมรับความผิดพลาดขององค์กรผู้ตัดสินอังกฤษแล้ว ทว่าไม่สามารถยอมรับข้อผิดพลาดร้ายแรงเช่นนี้ได้ เนื่องจากการตัดสินใจของ ไซมอน ฮูเปอร์ (Simon Hooper) ผู้ตัดสินในเกมวันนั้น และทีมผู้ตัดสินในห้อง VAR กำลังทำให้ความสวยงามและความยุติธรรมในเกมลูกหนังพังทลาย
ดังนั้น จากสถิติเมื่อฤดูกาล 2022-2023 ที่คะแนนการแข่งขันของแต่ละสโมสรในสังกัดพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เพิ่มขึ้นและลดลงมากจากการตัดสินของ VAR ที่ยังถูกตั้งคำถามถึงความเที่ยงตรงและเหมาะสม จึงน่าสนใจไม่น้อยว่า ในฤดูกาลนี้ เทคโนโลยีดังกล่าวจะส่งผลต่อคะแนนของแต่ละทีมมากน้อยแค่ไหน
และที่สำคัญ คือองค์กรผู้ตัดสินอังกฤษจะตอบคำถามที่ค้างคาใจแฟนฟุตบอลในตอนนี้ว่า เทคโนโลยีดังกล่าวถูกนำใช้เพื่อให้การแข่งขันได้รับความยุติธรรมจริงหรือ?
ที่มา:
– https://www.planetfootball.com/quick-reads/premier-league-clubs-ranking-who-was-most-affected-var
– https://www.thesun.co.uk/sport/22512070/premier-league-var-brentford-aston-villa/
– https://www.liverpoolfc.com/news/liverpool-fc-statement-5
– https://www.premierleague.com/news/3709629
Tags: พรีเมียร์ลีก, VAR, อังกฤษ, ลิเวอร์พูล, Game On, ท็อตแนม ฮอตสเปอร์
