ศึกแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ (Manchester Derby) เป็นศัพท์ที่ใช้เรียกการแข่งขันฟุตบอลระหว่างสองทีมแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ (Manchester) บนเกาะอังกฤษ อย่าง แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ซิตี้ ซึ่งสนามเหย้าของทั้งสองทีมอยู่ห่างกันเพียง 4 ไมล์ (6.4 กม.) โดยที่ผ่านมาทั้งคู่ดวลแข้งกันไปแล้วกว่า 188 นัด จากทุกรายการ โดยแมนฯ ยูไนเต็ดเป็นฝ่ายเก็บชัยชนะได้ถึง 77 ครั้ง ขณะแมนฯ ซิตี้ชนะ 58 ครั้ง และเสมอกันไปทั้งหมด 53 ครั้ง

แต่หากย้อนไปในหน้าประวัติศาสตร์ การเผชิญหน้าที่เรียกได้ว่าเป็นแมนเชสเตอร์ดาร์บี้แมตช์แรก เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 1881 ซึ่งความจริงแล้วเป็นเพียงการเตะกระชับมิตรเท่านั้น ในเกมดังกล่าว ฝั่งนิวตันฮีธ เอฟซี (ชื่อเดิมของแมนฯ ยูไนเต็ด) บุกเฉือนชนะ เซนต์ มาร์ค (เวสต์กอร์ตัน) ซึ่งเป็นชื่อเดิมของแมนฯ ซิตี้ ไปด้วยสกอร์ 3-0 จากนั้นในปี 1894 เป็นการพบกันในนัดแรกของรายการลีกดิวิชันสอง ก็ยังเป็นฝั่งของแมนฯ ยูไนเต็ดที่มาเก็บชัยชนะในบ้านของแมนฯ ซิตี้ ได้อีกครั้ง ก่อนที่ในปี 1906 จะเป็นการพบกันนัดแรกในรายการลีกสูงสุดของอังกฤษ โดยครั้งนี้เป็นฝั่งแมนฯ ซิตี้ ที่เอาชนะไปด้วยสกอร์ 3-0 

หลังสงครามจบลง แมนเชสเตอร์ทั้งสองฝั่งยังถือว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเรื่อยมาจนถึงช่วงปลายทศวรรษที่ 50 ซึ่งในขณะนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้การทำทีมของแมตต์ บัสบี (Matt Busby) ยังคงเป็นทีมที่เหนือกว่า ด้วยการครองตำแหน่งจ่าฝูงยาวนานนับ 10 ปี ทว่าภายหลัง แมนฯ ซิตี้ก็กลับมาผงาดขึ้นอีกครั้ง โดยในช่วงปี 1968 – 1976 พวกเขาแพ้ให้กับแมนฯ ยูไนเต็ดเพียง 2 ครั้งเท่านั้น จึงทำให้แมนเชสเตอร์ดาร์บี้ในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นการแข่งขันที่สูสีและดุเดือด 

จนกระทั่งอเล็กซ์ เฟอร์กูสัน (Alex Ferguson) บรมกุนซือในตำนานเข้ามารับไม้ต่อจากบัสบี ในการดูแลแมนฯ ยูไนเต็ด กลับกลายเป็นว่าแมนฯ ซิตี้ไม่เคยเอาชนะปีศาจแดง แมนฯ ยูไนเต็ดได้เลยนับตั้งแต่ปี 1989-2002 

นอกจากนี้ แมนฯ ซิตี้ยังมีสถิติแพ้ทุกครั้งในการบุกไปเล่นที่สนามเหย้าของแมนฯ ยูไนเต็ดอย่าง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ตั้งแต่ปี 1974-2008 ซ้ำร้าย ในช่วงเวลาดังกล่าวพวกเขายังประสบปัญหาการเงินเข้าขั้นวิกฤตอีกด้วย

ทว่าหลังผ่านความยากลำบากมาอย่างยาวนาน ฟ้าหลังฝนของแมนฯ ซิตี้ก็กลับมาสดใสขึ้นอีกครั้ง หลังจาก ชีค มันซูร์ และกลุ่มทุนอาบูดาบี เข้าเทคโอเวอร์ทีมเรือใบสีฟ้าในปี 2008 ทำให้พวกเขาได้รับเงินทุนจำนวนมหาศาลในการทำทีม อาจเรียกได้ว่านี่เป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่ทำให้เรือใบสีฟ้ากลับมาโลดแล่นในมหาสุมทรได้อย่างยิ่งใหญ่ ประกอบกับการที่ เซอร์ อเล็กซ์ ประกาศยุติการทำหน้าที่ผู้จัดการทีมปีศาจแดง หลังจบฤดูกาล 2012/13 จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นของแมนฯ ยูไนเต็ด และ แมนฯ ซิตี้ ที่กลับมาดุเด็ดเผ็ดมันส์อีกครั้งในยุคปัจจุบัน

 

แมนเชสเตอร์ดาร์บี้ ในศึกพรีเมียร์ลีกที่น่าจดจำ

แฮตทริกของอังเดร คานเชลสกี (Andrei Kanchelskis) ในปี 1994

นับว่าเป็นชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาของแมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมดาร์บี้แมตช์ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 1994 ด้วยการเปิดบ้านเอาชนะทีมเพื่อนบ้านต่างสีไปมากถึง 5-0 โดย เอริก ก็องโตนา (Éric Cantona) และ มาร์ก ฮิวจส์ (Mark Hughes) เป็นสองแนวรุกของปีศาจแดงที่ส่งบอลตุงตาข่ายไปคนละ 1 ประตู ในขณะที่ตำแหน่งพระเอกในเกมดังกล่าวตกเป็นของคานเชลสกี ที่สามารถทำแฮตทริกได้อย่างยอดเยี่ยม

ในปี 2011 ‘6’ คือตัวเลขที่ดีสุดสำหรับแมนฯ ซิตี้ ในการพบแมนฯ ยูไนเต็ด 

แมนฯ ยูไนเต็ด เสียประตูที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดมากกว่า 6 ประตูเพียง 3 ครั้ง จากประวัติศาสตร์ทั้งหมดที่ผ่านมา โดยพวกเขาพ่ายแพ้ต่อเชฟฟีลด์เวนส์เดย์ (Sheffield Wednesday) ด้วยสกอร์ 7-2 ในปี 1961 ถัดมา ในปี 2020 ก็ถูกทอตแนมฮอตสเปอร์ (Tottenham Hotspur) ถล่มไปถึง 6-1 ประตู และเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2011 แมนฯ ซิตี้ บุกไปชนะอย่างขาดลอยด้วยสกอร์ 6-1 ทว่าสิ่งที่น่าทึ่งไปยิ่งกว่านั้นคือ 3 จาก 6 ประตูดังกล่าว เกิดขึ้นภายในเวลาเพียง 5 นาทีของช่วงท้ายเกมและช่วงทดเวลาบาดเจ็บ จึงถือเป็นชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในศึกดาร์บี้แมตช์เมืองแมนเชสเตอร์ โดยหลังจบฤดูกาล 2011/2012 แมนฯ ซิตี้ ขึ้นคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นสมัยแรกของสโมสรด้วยการเอาชนะแมนฯ ยูไนเต็ดจากผลต่างประตูได้เสีย 

ฟรีคิกของโรบิน ฟาน เพอร์ซี (Robin Van Persie) ในปี 2012

เมื่อแปดปีก่อน แมนฯ ยูไนเต็ด บุกไปเอาชนะแมนฯ ซิตี้ ถึงบ้านด้วยสกอร์ 3-2 โดย เวย์น รูนีย์ (Wayne Rooney) ยิงประตูให้ปีศาจแดงขึ้นนำ 2-0 ก่อนที่ ยาย่า ตูเร (Yaya Touré) และ ปาโบล ซาบาเลตา (Pablo Zabaleta) จะยิงตีเสมอให้กับทีมเรือใบสีฟ้า ต่อมาในช่วงทดเวลา นาทีที่ 90+2 ฟาน เพอร์ซี ทำให้ปีศาจแดงได้ประตูชัยจากลูกฟรีคิกที่ปั่นด้วยเท้าซ้าย ก่อนที่บอลจะไปแฉลบขาของ ซามีร์ นัสรี (Samir Nasri)  และโค้งเสียบเสาไกลในที่สุด เรียกได้ว่านี่คือเกมที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพาปีศาจแดงคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 2012/2013 

แฮตทริกของ เออร์ลิง ฮาลันด์ (Erling Haaland) และ ฟิล โฟเดน (Phil Foden) ในปี 2022

เมื่อต้นฤดูกาลที่ผ่านมา ที่เอติฮัด สเตเดียม (Etihad Stadium) สนามเหย้าของทีมเรือใบสีฟ้า คือแมนเชสเตอร์ดาร์บี้แมตช์ที่มีประตูเกิดขึ้นมากที่สุดตลอดกาล โดยแมนฯ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของ เปป กวาร์ดิโอลา (Pep Guardiola) เปิดบ้านถล่มแมนฯ ยูไนเต็ด ของ เอริก เทน ฮาก (Erik ten Hag) ไปมากถึง 6-3 ซึ่งศูนย์หน้าอย่าง ฮาลันด์ และโฟเดน รับหน้าที่ช่วยกันกดแฮตทริก โดยครึ่งแรกเจ้าบ้านนำห่างไปก่อนถึง 4-0 ก่อนที่ครึ่งหลังแนวรุกของปีศาจแดงอย่าง แอนโทนี (Antony) จะยิงตีไข่แตกได้ จากนั้นไม่นาน ฮาลันด์ และโฟเดน กลับมาตอกย้ำชัยชนะด้วยการยิงเพิ่มอีกคนละประตู ส่งให้ซิตี้ขึ้นนำ 6-1 และในช่วงท้ายเกม อ็องโตนี มาร์ซียาล (Anthony Martial) ลงสนามมาเป็นตัวสำรอง ก่อนจะยิง 2 ประตูให้ปีศาจแดงไล่มาเป็น 6-3 

สถิติที่น่าสนใจก่อนเริ่มศึกแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ครั้งที่ 189

– สถิติการพบกัน 5 ครั้งหลังสุดของทั้งสองทีมในรายการพรีเมียร์ลีก แมนฯ ซิตี้ ชนะ 3 ครั้ง ในขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 1 ครั้ง และลงเอยด้วยการเสมอกัน 1 ครั้ง นอกจากนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังเสียไปถึง 12 ประตูจาก 5 นัดดังกล่าว

– ทั้งคู่พบกันในเกมลีกมาแล้ว 51 ครั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 24 ครั้ง ในขณะที่ แมนฯ ซิตี้ ชนะ 18 ครั้ง และเสมอกัน 9 ครั้ง

– ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีมในทุกรายการ แมนฯ ซิตี้ ชนะ 3 ครั้ง แพ้ 1 ครั้ง และเสมอ 1 ครั้ง ในขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะทั้ง 5 นัดรวด

– ในฤดูกาล 2022/2023 เออร์ลิง ฮาลันด์ ทำประตูให้กับแมนฯ ซิตี้ ไปแล้ว 21 ประตู ในเกมลีก และ 27 ประตู ในทุกรายการ หลังลงเล่นไปเพียง 23 นัด จึงทำให้เขามีสถิติการทำประตูเฉลี่ยทุกๆ 62 นาทีในการแข่งขัน

– มาร์คัส แรชฟอร์ด (Marcus Rashford) ทำประตูให้กับแมนฯ ยูไนเต็ดไปถึง 7 ประตู จากการแข่งขันใน 6 นัดหลังสุด โดยเป็น 3 ประตูในพรีเมียร์ลีก 1 ประตูในเอฟเอคัพ และ 3 ประตูในลีกคัพ 

– แมนฯ ซิตี้ เป็นทีมที่เอาชนะแมนฯ ยูไนเต็ด ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ได้บ่อยที่สุดในพรีเมียร์ลีก โดยเอาบุกไปเอาชนะได้ถึง 8 ครั้ง 

ศึกผ่าเมืองแมนเชสเตอร์ในครั้งนี้จะออกข้างสีใด และใครจะเป็นผู้คว้าโอกาสในการขยับขึ้นไปใกล้หัวตารางมากขึ้น จะได้รู้กันในค่ำคืนนี้

 

ที่มา

https://groundhopperguides.com/manchester-derby/

https://www.eurosport.co.uk/all-sports/how-the-manchester-derby-became-one-of-the-hottest-tickets-in-football_sto4708590/story.shtml

https://theanalyst.com/eu/2023/01/manchester-united-vs-manchester-city-prediction-preview-derby-premier-league/

https://www.mancity.com/citytv/mens/manchester-city-united-premier-league-extended-highlights-63800321

https://www.101greatgoals.com/features/manchester-united-vs-manchester-city-top-10-most-memorable-premier-league-manchester-derbies/#Z4X2HWXTLVBT3POXOB7T4J72WQ

 

Tags: , , , , , , ,