1.
ในชีวิตการทำงาน ผมรู้จักคนอย่างน้อยสองคน ที่เรียกว่าไปอยู่ที่ไหนก็ทำให้ที่นั่นสว่างไสว
สว่างไสวเพราะนิสัยดี จิตใจดี ความคิดดี และฝีมือดี
ดีในระดับที่บริษัทไหนได้ตัวไป ก็ถือว่าได้สิ่งที่มีค่ามากๆ ไว้ในครอบครอง
คนหนึ่งเป็นผู้ชาย เจ้าของบุคลิกพูดเพราะ ยิ้มเต็มหน้า ใครได้อยู่ใกล้ก็พลอยรู้สึกอบอุ่น เขาเป็นคนมีความสามารถมาก เขียนหนังสือน่าอ่าน สัมภาษณ์ก็สนุก เวลาพรีเซนต์งานแต่ละครั้ง พลังงานและไอเดียสร้างสรรค์ของเขาส่งผ่านไปยังคนฟังให้รู้สึกตื่นเต้นมีชีวิตชีวา ชวนให้ลุ้นติดตามไปด้วยว่าจุดหมายปลายทางจะสำเร็จหรือไม่
อีกคนหนึ่งเป็นผู้หญิง ฉลาด รอบรู้ เก่งสารพัดอย่าง ไม่ว่าจะงานบริหารจัดการภายในทีม เป็นที่ปรึกษาที่เปี่ยมวิสัยทัศน์ เป็นนักพูดที่สร้างขวัญกำลังใจ นอกจากนี้ยังเป็นนักแปลหนังสือที่เก่งกาจ มอเดอเรเตอร์ที่คล่องแคล่ว และหนอนหนังสือตัวยง ไม่ว่าวงการไหนต่างก็เรียกใช้บริการเสมอ
วันนี้เพิ่งรู้ข่าวว่าคนหนึ่งกำลังจะลาออกจากบริษัทที่ทำอยู่ อีกคนตัดสินใจไปก่อนล่วงหน้านี้ไม่กี่เดือน ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน
2.
เมื่อต้นสัปดาห์ ผมเพิ่งอ่านบทความชิ้นหนึ่งจาก กรุงเทพธุรกิจ เขียนถึงปรากฏการณ์น่าสนใจที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่บรรยากาศเริ่มฟื้นตัวจากโควิด-19 และเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีขึ้น พบว่ามีมนุษย์เงินเดือนจำนวนมากแห่กันลาออกจากงาน
ปรากฏการณ์นี้ถูกเรียกว่า ‘The Great Resignation’ หรือ ‘การลาออกครั้งมโหฬาร’
ข้อมูลระบุว่า มีพนักงานองค์กรต่างๆ ในสหรัฐฯ ลาออกจากงานถึง 4 ล้านคนในเดือนเมษายน และ 3.6 ล้านคนในเดือนพฤษภาคม ขณะที่ 48 เปอร์เซ็นต์ กำลังอยู่ในระหว่างการหางานใหม่ ไม่ใช่เฉพาะสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ปรากฏการณ์นี้กำลังเกิดขึ้นในประเทศอื่นๆ ที่เริ่มฟื้นตัวด้วย จากการสอบถามพนักงานกว่า 3 หมื่นคนทั่วโลกของไมโครซอฟต์ พบว่า 41 เปอร์เซ็นต์ กำลังคิดจะลาออก การศึกษาแบบเดียวกันในอังกฤษและไอร์แลนด์พบว่า 38 เปอร์เซ็นต์ วางแผนที่จะลาออกภายในอีก 6 เดือนข้างหน้า
สาเหตุหลักของการลาออกมีอยู่ 2 ข้อ ข้อแรกคือ การทำงานที่บ้าน หรือ Work From Home ในช่วงโควิด ทุกคนต่างพบว่าโลกของการทำงานนั้นไม่จำเป็นต้องอยู่ในกรอบเดิมๆ ผ่านรูปแบบของออฟฟิศอีกต่อไปแล้ว ขณะที่บางงาน การทำงานที่บ้านไม่ได้ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากเท่าไรนัก ในทางกลับกัน กลับทำให้ชีวิตมีอิสระ ยืดหยุ่น และมีความสุขขึ้นด้วยซ้ำ ถึงขั้นในแบบสอบถามหลายคนยืนยันว่าจะลาออกทันที หากบริษัทเร่งรัดบีบบังคับให้กลับไปทำงานที่ออฟฟิศ ในช่วงที่การแพร่ระบาดยังน่าเป็นห่วง
ข้อต่อมาคือ ช่วงโควิด-19 บรรยากาศเต็มไปด้วยวิกฤต ทั้งการแพร่ระบาดรายวัน ยอดติดเชื้อนิวไฮ คนเจ็บป่วยล้มตายราวใบไม้ร่วง เรียกว่าเป็น ‘ยามยาก’ ในชีวิตของใครหลายคน แต่พนักงานบางบริษัทกลับไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่เรื่องสวัสดิภาพความเป็นอยู่ ไม่มีความพยายามในการอำนวยความสะดวกให้พนักงานทำงานที่บ้านได้อย่างราบรื่น ไม่ต้องพูดถึงการจัดหาวัคซีนมาฉีดให้พนักงาน ซึ่งดูเป็นเรื่องไกลเกินฝัน หนำซ้ำบริษัทบางแห่งยังสร้างความชอกช้ำแก่คนทำงาน ด้วยการออกกฎระเบียบต่างๆ ที่กดขี่เอารัดเอาเปรียบ ข่มขู่สารพัด ทั้งที่เป็นเวลาที่ควรจะเห็นอกเห็นใจกันมากที่สุด เมื่อทุกอย่างดีขึ้น พนักงานจึงพากันโบกมือลาไปหาบริษัทที่ดีกว่า
เหลียวมองดูตัวเอง ช่วงเวลาห้าเดือนเต็มของการทำงานที่บ้าน กับสองเดือนเต็มในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ ณ คอนโดมิเนียม ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์
ชีวิตที่ออกไปไหนไม่ได้ จมอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์ วนเวียนอยู่กับข่าวการบริหารจัดการแย่ๆ ของรัฐบาล กราฟิกสีแดงของยอดผู้ติดเชื้อในยามเช้า ภาพคนมะรุมมะตุ้มแย่งกันเข้าคิวฉีดวัคซีนอย่างทุลักทุเล ภาพคนป่วยนอนตายกลางถนน เสียงไซเรนรถพยาบาลที่ดังครวญครางทั้งวันทั้งคืน ข่าวร้ายว่าคนใกล้ตัวติดเชื้อคนแล้วคนเล่า การประกาศปิดตัวของร้านอาหารและกิจการต่างๆ ล้มละลายเพราะไม่ได้รับการเยียวยาใดๆ ทั้งหมดนี้ง่ายมากที่จะทำให้จิตตก
ขณะเดียวกันก็ต้องประสบพบเจอกับชั่วโมงการทำงานที่ดูเหมือนไม่มีจุดสิ้นสุด การประชุมออนไลน์ถี่ยิบ สภาพร่างกายเหนื่อยล้าจากการนั่งหน้าจอนานๆ การสื่อสารที่ไหลทะลักพรั่งพรูตลอดทั้งวัน จนเกิดอาการหลอนนึกว่ามีการแจ้งเตือนจากแอพพลิเคชันต่างๆ ทำให้ต้องใช้เวลาปรับตัวอยู่นานพอสมควร
เมื่อปรับตัวได้ บรรยากาศการทำงานที่บ้านก็ค่อยๆ ดีขึ้น มองเห็นอะไรได้ชัดขึ้น รู้ว่าอะไรควรเอาใจใส่ อะไรควรตัดทิ้ง เวลาไหนควรเร่ง เวลาไหนควรหยุด ใครที่พึ่งพาได้ ใครที่คอยแต่จะเอาเปรียบ สิ่งไหนที่ควรทุ่มเทชีวิตให้ สิ่งไหนที่อย่าไปลงแรงลงใจให้ความสำคัญจนเกินพอดี
บทเรียนล้ำค่า, บางครั้งก็ได้มาตอนช่วงเวลาที่ยากลำบากนี่แหละ
3.
ในชีวิตการทำงาน ผมพบว่าความสว่างไสว จรรโลงใจ มาจาก ‘คน’ และ ‘บรรยากาศ’
คนนิสัยดี จิตใจดี ความคิดดี และฝีมือดี อยู่ใกล้ก็ส่งพลัง อยากทำงานด้วย อยากร่วมหัวจมท้ายกันไปให้สุดทาง
บรรยากาศดี สวัสดิการดี ได้รับการสนับสนุนที่ดี อุปสรรคยากแค่ไหนก็ไม่กลัว พร้อมสู้จนถึงวันที่ประสบความสำเร็จ
ไม่รู้ว่าโควิดจะจบลงเมื่อไร ไม่รู้ว่าฟ้าหลังฝนจะเป็นเช่นไร
แต่พวกเรา—คนทำงานทุกคน ควรได้เจอกับสองสิ่งนี้
Tags: The Great Resignation, การลาออกครั้งมโหฬาร, Work From Home, From The Desk