ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา หลังจากที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ออกหมายเรียกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) จำนวน 55 คน มารับทราบข้อกล่าวหาคดีฮั้วเลือกตั้ง สว. เราได้เห็นปฏิกิริยามากมายหลัง สว.ล็อตแรกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา
“เฌอ เนอ เปอ ป้ะ ป๊ากเล่” (Je Ne Peux Pas Parler)
เป็นหนึ่งในคำตอบของ อลงกต วรกี หนึ่งใน สว.ชุดแรกที่ถูกเรียกเข้าไปรายงานตัวและสอบสวนเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งคำตอบข้างต้นเป็นภาษาฝรั่งเศสมีความหมายว่า “พูดไม่ได้” นอกจากนี้ยังมีบางคำที่แปลว่า เป็นความลับ เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่สามารถพูดได้ หนำซ้ำยังเคยพูดภาษาจีนที่มีความหมายว่า “ผมไม่พูด” และกล่าวส่งท้ายเป็นภาษาไทยว่า “ไปเถอะ ไม่มีอะไรแล้ว สวัสดีจ้ะ” และเป็นเขาอีกเช่นกันที่ก่อนหน้านี้เคยเอามือปิดปาก หนีนักข่าว พร้อมกล่าวว่า “ไปก่อนจ้า ไม่มีจ้า ไม่สะดวก”
หากใครพอจำได้ อลงกตคือเจ้าของวลี “ผมศักดิ์สูงกว่า ผมสูงไม่มายุ่งกับข้างล่าง” และเป็นผู้ที่เขียนบรรยายแนะนำตัวเองในตอนเลือกตั้ง สว.ว่า ทำอาชีพบำนาญ ผู้สูงวัย นักดนตรี อาจารย์ นักวิชาการ และที่ปรึกษา
นอกจากอลงกตแล้ว เรายังเห็นปฏิกิริยาจาก สว.ชุดแรกที่โดนเรียกรับทราบข้อกล่าวหาที่พยายามหลบเลี่ยงนักข่าวหลายอย่าง เช่น เดินหนีสื่อ หันหลังเข้ากำแพงลิฟต์ และหลบอยู่ในร้านกาแฟ
แม้ว่าตามกฎหมายจะไม่มีกฎหมายฉบับใดข้อใด ที่ห้ามผู้ต้องหาที่ถูกสอบสวนเปิดเผยข้อเท็จจริง หรือบทสนทนาในการสอบสวน แต่ทำไมเหล่า สว.ผู้เป็นตัวแทนประชาชนถึงเลี่ยงไม่ให้คำตอบกับนักข่าว ในคดีที่ส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายต่อประชาชนมากมายขนาดนี้
จากปฏิกิริยาทั้งหลาย ผู้เขียนชวนทุกคนมองว่า เราเห็นอะไรในการกระทำเหล่านี้ และชวนทุกตั้งคำถามกับตัวเองว่า การกระทำดังกล่าวเหมาะสมหรือไม่กับการดำรงตำแหน่งหน้าที่ สว.
อย่างแรก สว.ย่อมาจาก สมาชิกวุฒิสภา เป็นตัวแทนของประชาชนเหมือนกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แม้ว่าการเลือกตั้งไม่ได้มาจากประชาชนโดยตรง เพราะมาจากระบบ ‘เลือกกันเอง’ แต่ท้ายที่สุดก็ต้องทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประชาชน ซึ่งบทบาทที่สำคัญคือการแสดงความรับผิดชอบต่อสาธารณะ (Accountability) ทั้งในเชิงกฎหมายและเชิงคุณธรรม ซึ่งการหลีกเลี่ยงการตอบคำถาม ทำเป็นเล่นตลก อาจเป็นหนึ่งในกลไกที่ปิดกั้นการเข้าถึงข้อมูลของประชาชน และละเลยบทบาทผู้แทนราษฎรได้
ต่อมาหัวใจสำคัญของการบริหารบ้านเมืองคือ การมีหลักธรรมาภิบาล ซึ่งประกอบด้วยความโปร่งใส (Transparency) และความรับผิดชอบ ซึ่งการที่พยายามเลี่ยงไม่ตอบ การใช้ภาษาประเทศอื่นที่ไม่มีความจำเป็น เป็นการกลบเกลื่อน เบี่ยงเบน สะท้อนถึงการขาดธรรมาภิบาล และอาจสะท้อนถึงความโปร่งใสที่ไม่อาจพูดได้ เพราะกลัวกระทบกับตัวเอง หรือพยายามหนีความรับผิดชอบต่อประชาชน
ที่สำคัญคือจากคำนิยามตำแหน่งก็กล่าวชัดอยู่แล้วว่า เป็นตัวแทนของประชาชน ซึ่งนอกจากบทบาทสำคัญอย่างการปฏิบัติตนตามรัฐธรรมนูญ ตรวจสอบฝ่ายบริหาร กลั่นกรองกฎหมาย รับรองผู้ปฏิบัติหน้าที่ในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ และงานในระบบนโยบายแล้ว แต่การเป็น ‘ผู้แทน’ ไม่ได้จบอยู่แค่นั้น สิ่งสำคัญคือการสื่อสารกับประชาชนที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
ซึ่งการกระทำที่หลีกเลี่ยง เบี่ยงเบนประเด็น ไม่ตอบคำถาม อาจถือเป็นความล้มเหลวในฐานะผู้แทนหรือไม่ และการเดินหนีออกจากกล้องหรือใช้ภาษา ‘อื่น’ อาจสะท้อนการปฏิเสธความรับผิดชอบเชิงสัญลักษณ์ (Symbolic Responsibility) ของการเป็นตัวแทนหรือเปล่า
โดยสรุปแล้วไม่ว่าคุณจะมีความผิดตามข้อกล่าวหา “มีเหตุอันควรสงสัยหรือความปรากฏต่อ กกต.” ว่าได้กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 70 ประกอบมาตรา 36 มาตรา 77 (1) และมาตรา 62 หรือเป็นผู้บริสุทธิ์
แต่การประพฤติปฏิบัติเหล่านี้คิดว่า เหมาะสมกับการดำรงตำแหน่งผู้แทนประชาชน และบทบาททางการเมืองแล้วหรือ
ถ้าคุณคิดว่านี่เป็นเรื่องตลก ขอตอบตรงนี้เลยว่า ‘ไม่ตลก’ ซึ่งอีกแง่หนึ่งนั้น พฤติกรรมเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการปิดบังสาธารณะ ที่เมื่อผู้มีอำนาจเลือกที่จะไม่พูด หรือพูดให้คนอื่นฟังไม่ออก แถมการสื่อสารเช่นนี้ก็คล้ายกับเป็นการดูหมิ่น (Mocking) ความสงสัยของประชาชน และแสดงออกว่าตนอยู่เหนือการวิพากษ์วิจารณ์
ท่านผู้สูงส่งและ สว.อื่นๆ ทั้งหลายช่วยพึงระลึกหน่อยว่า ‘อำนาจ’ ที่ท่านถือครองตอนนี้นั้นคือ อำนาจแทนประชาชน หากไม่สามารถปฏิบัติตัวได้อย่างเหมาะสม ต้องการเก็บเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่สนหัวประชาชน ท่านสามารถทำได้ผ่านกระบวนการ ‘ลาออก’ เพื่อทำให้เรื่องและการประพฤติตัวของท่านในฐานะ สว.เปลี่ยนเป็นประชาชนทั่วไป
เพราะพฤติกรรมที่ท่านกระทำอยู่ขณะนี้ มันน่าขัน น่าอับอาย และทำให้ประชาชนผู้ไม่ได้เลือกท่านมาโดยตรงรู้สึกสิ้นหวัง แต่หากท่านไม่มีความคิดที่จะลงจากอำนาจ อย่างน้อยที่สุดช่วยแสดงพฤติกรรมที่เห็นหัวประชาชน และประพฤติตนให้สมกับตำแหน่งเสียงบ้าง
จากหนึ่งในเสียงประชาชนที่ไม่ได้เลือกท่านขึ้นมา
Tags: อลงกต วรกี, สว., พรรคเพื่อไทย, พรรคภูมิใจไทย, เลือกตั้งสว, ฮั้ว สว.