จากอิทธิพลพายุโพดุลและพายุคาจิกิที่เคลื่อนตัวเข้าสู่ทะเลจีนใต้ตอนบน ทำให้เกิดฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ในประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับปัจจุบันที่มีมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และอ่าวไทย และร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา ลาว และเวียดนามตอนบน ส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก
ปัจจุบัน พื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมอยู่ คือจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ ยโสธร ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์และพิษณุโลก ในขณะที่จังหวัดอื่นๆ ในภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง และอาจจะเกิดน้ำท่วมได้
หนึ่งในจังหวัดที่ประสบปัญหาน้ำท่วมหนักและน่าเป็นห่วงในขณะนี้ คือจังหวัดอุบลราชธานี จนกระทั่งแฮชแท็ก #Saveubon ขึ้นเป็นอันดับ 1 ในโลกทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา เพราะถือเป็นเหตุอุทกภัยครั้งที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 40 ปี และจากการประเมินสถานการณ์ คาดว่าระดับน้ำในอุบลราชธานีจะขึ้นสูงสุดในวันที่ 13 กันยายน
เหตุที่อุบลราชธานีกลายสภาพเป็นเมืองบาดาล เพราะเป็นพื้นที่สุดทางที่รองรับน้ำชีจากจังหวัดร้อยเอ็ดและยโสธร ที่ไหลมารวมกันที่แม่น้ำมูล ซึ่งไหลผ่านระหว่างตัวอำเภอเมืองอุบลราชธานีและอำเภอวารินชำราบ ขณะนี้ น้ำมูลปรับตัวสูงขึ้นจนไหลเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในเขตตัวเมืองซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจ ตั้งแต่เชิงสะพานแม่น้ำมูล ต้องปิดการจราจรที่สะพานข้ามแม่น้ำมูล จากอำเภอวารินชำราบมายังอำเภอเมืองอุบลราชธานี นอกจากนี้ ในพื้นที่ลุ่มในตัวเมืองอุบลราชธานีและถนนรอบนอก รวมไปถึงในพื้นที่ต่างอำเภอ ก็มีน้ำขังท่วมสูงกว่าหนึ่งเมตร
ในขณะที่จังหวัดร้อยเอ็ดซึ่งเกิดน้ำท่วมหนักก่อนหน้านี้ สถานการณ์น้ำทุเลาลงแล้ว โดยกรมทางหลวงรายงานว่า ยังคงมีน้ำท่วมสูงในบางจุดเท่านั้น ก็คือ ช่วงตำบลยางเฌอ – มหาชนะชัย ซึ่งมีน้ำท่วมสูงประมาณ 50 ซม.
กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่า ช่วงเดือนกันยายนนี้ ประเทศไทยจะยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่องจากอิทธิพลมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยในช่วงภาคเหนือตอนบนและภาคอีสาน และในเดือนตุลาคมจะเริ่มเปลี่ยนเป็นมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ร่องมรสุมจะพาดผ่านภาคใต้ตอนบนและภาคตะวันออกในบางช่วง ซึ่งจะทำให้เกิดฝนตกหนาแน่น หรือฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ในภาคใต้
อ้างอิง:
- http://www.disaster.go.th/th/
- https://www.tmd.go.th/thailand.php
- http://www.doh.go.th/content/page/news/78157
