เดอะ นิวยอร์กไทมส์ รายงานว่า นักการทูตแคนาดาฟ้องร้องรัฐบาลของตัวเอง ที่ไม่สามารถปกป้องพวกเขาจากความเจ็บป่วยอันเป็นปริศนาขณะที่พวกเขาประจำการอยู่ในคิวบา พวกเขาระบุในคำฟ้องว่า รัฐบาลตอบสนองต่อปัญหานี้ช้าเกินไป และเป็นไปได้ว่าความเจ็บป่วยนี้เกิดจากการโจมตีอย่างตั้งใจของใครบางคน พร้อมเรียกร้องค่าเสียหาย 28 ล้านดอลลาร์แคนาดา
ความเจ็บไข้นี้รู้จักกันในชื่อ ‘ฮาบานา ซินโดรม’ ที่น่าสงสัยสุดๆ ก็คงเพราะมันเป็นอาการที่เกิดขึ้นกับนักการทูตชาวแคนาดาและอเมริกันหลายต่อหลายคนที่ประจำการในคิวบา บางคนมีอาการสูญเสียความจำ มีปัญหาในการนอนหลับ และเลือดกำเดาไหล ซึ่งพวกเขาบอกว่าเกิดขึ้นหลังจากได้ยินเสียงแหลมสูงประหลาดๆ
คำฟ้องที่ยื่นในสัปดาห์นี้ที่โตรอนโต ระบุว่ารัฐบาลแคนาดาตอบสนองต่อปัญหานี้ช้าเกินไป และไม่ได้จัดหาการรักษาให้กับนักการทูตและลูกๆ ของพวกเขาอย่างเพียงพอ หลังจากตกเป็นเป้าหมาย ของ “การโจมตีอย่างจงใจ” ในปี 2017 ที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บทางสมอง ซึ่งไม่แสดงให้เห็นร่องรอยบาดเจ็บภายนอก
นักการทูตคนหนึ่งที่ร่วมฟ้องร้องแต่ไม่ขอเปิดเผยนามเพราะยังทำงานให้รัฐบาล กล่าวว่าเหตุการณ์นั้นทำให้ชีวิตครอบครัวเธอต้องกลับตาลปัตร เธอเล่าว่าขณะประจำการในคิวบาเมื่อปี 2017 เธอรู้สึกป่วยขึ้นมาฉับพลัน และมีอาการปวดหัว ซึ่งตอนแรกเธอคิดว่าเป็นเพราะความเครียด แต่เมื่อได้ยินเรื่องฮาบานาซินโดรม เธอก็คิดว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับเสียงแหลมสูงที่ดังมาจากสนามหลังบ้านของเธอ ส่วนลูกสาววัย 10 ขวบของเธอก็มีเลือดกำเดาไหลอย่างรุนแรง และปวดหัวจนต้องหยุดเรียน
เธอบอกว่า รัฐบาลแคนาดารอเป็นเดือนๆ กว่าจะหาหนทางรักษานักการทูตเหล่านี้ แถมยังป้องปรามไม่ให้พวกเขาเตือนเรื่องนี้กับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ที่กำลังจะมาประจำการที่คิวบาอีกด้วย นักการทูตคนนี้กล่าวว่า ผลกระทบทางอารมณ์อย่างหนึ่งนอกจากฮาบานาซินโดรม คือการที่รัฐบาลไม่เชื่อพวกเขา
“มันเป็นเรื่องเศร้าที่นักการทูตและลูกๆ บางคนของพวกเขาจะต้องมีอาการบาดเจ็บนั้นจากการโจมตีเหล่านี้ไปชั่วชีวิต ” พอล มิลเลอร์ ทนายฝ่ายโจทก์ ซึ่งประกอบด้วยนักการทูต 5 คน คู่สมรส และลูกๆ ของพวกเขา รวมทั้งหมด 14 คน กล่าวเปรียบเทียบว่าอาการเหล่านี้ราวกับมาจากภาพยนตร์ไซ-ไฟสั่นประสาท
ความเจ็บไข้ที่น่าสงสัยนี้ทำให้นานาชาติตั้งข้อสันนิษฐาน แต่ทั้งสหรัฐฯ และแคนาดา ก็ยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดได้ แต่คาดว่า น่าจะมีอาวุธคลื่นไมโครเวฟบางชนิดเข้ามาเกี่ยวข้อง
ในคำฟ้องยังบอกด้วยว่า ทั้งๆ ที่รับรู้ความเสี่ยงนี้จากกรณีของนักการทูตอเมริกันมาแล้วในปี 2016 แต่รัฐบาลแคนาดาก็ยังส่งนักการทูตไปฮาบานา และจำกัดไม่ให้พวกเขาให้ข้อมูลบางส่วนกับแพทย์ อีกทั้งพยายามห้ามไม่ให้ศูนย์การฟื้นฟูและการบาดเจ็บทางสมอง แห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ที่กำลังศึกษาอาการนี้อยู่ เข้ามาตรวจสอบผู้ได้รับผลกระทบเหล่านี้
เดือนที่แล้ว รัฐบาลแคนาดากล่าวว่าจะถอนเจ้าหน้าที่ทางการทูตของตนออกจากคิวบาครึ่งหนึ่ง เมื่อเจ้าหน้าที่อื่นๆ เริ่มมีอาการประหลาดตามกันมา หลังจากกรณีของนักการทูต 14 คนก่อนหน้า ในขณะที่มีชาวอเมริกันบาดเจ็บจากอาการนี้จำนวน 26 คนแล้ว
อีกข้อสันนิษฐานหนึ่งที่นักสัตววิทยาและนักชีววิทยาในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรเคยวิเคราะห์ไว้ คาดว่าเสียงที่พวกเขาได้ยินนั้นคล้ายกันมากกับเสียงจิ้งหรีดหางสั้นอินดี้ (Indies short-tailed cricket) ที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Anurogryllus celerinictus ซึ่งมีความถี่ 7 เมกะเฮิร์ตซ์ และถูกส่งออกมาในอัตราสูงกว่าปกติ ซึ่งทำให้มนุษย์รู้สึกถึงเสียงรัวแหลม อย่างไรก็ดี แพทย์และนักวิทยาศาสตร์ ยังไม่มีข้อสรุปนี้ ว่าคลื่นเสียงที่ว่านั้นมาจากอะไร
ที่มาภาพ: REUTERS/Alexandre Meneghini
ที่มา:
- https://www.nytimes.com/2019/02/07/world/canada/havana-syndrome-canada.html
- https://www.nytimes.com/2019/01/04/science/sonic-attack-cuba-crickets.html
- https://www.washingtonpost.com/world/the_americas/five-canadian-diplomats-sue-canadian-government-for-handling-of-cuba-mystery-illness/2019/02/07/ff442044-2ae2-11e9-906e-9d55b6451eb4_story.html?noredirect=on&utm_term=.083ba8e37841
- https://edition.cnn.com/2019/02/07/americas/canada-diplomats-sue-over-cuba-illness-intl/index.html
- https://themomentum.co/sonic-attack-on-us-embassy-in-havana-crickets/