‘ถ้าจะให้พูดถึงปี 2020 แต่ละคนคงแทบอยากจะสบถออกมาดังๆ พร้อมกัน ว่ามันช่างบัดซบสิ้นดี’
มองย้อนกลับไปยังขวบปีที่ผ่าน มนุษยชาติต่างรับรู้กันเป็นอย่างดีว่าโลกใบนี้เต็มไปด้วยเหตุการณ์ไม่คาดคิดเต็มไปหมด เยอะแยะเสียจนหยิบมาทำภาพยนตร์วันสิ้นโลกดีๆ ได้สักเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นสงคราม การเมือง ภัยพิบัติทางธรรมชาติ จนถึงโรคระบาดร้ายแรง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ดันถูกหยิบจับมาทำเป็นภาพยนตร์จริงๆ แต่มาในรูปแบบของภาพยนตร์สารคดีล้อเลียนจ้องจิกกัดสุดเจ็บแสบที่มีชื่อว่า Death to 2020 หรือชื่อภาษาไทย ลากันที 2020 โดยทีมงานผู้สร้าง Black Mirror ซีรีส์อังกฤษชื่อดังทางเน็ตฟลิกซ์
ก่อนอื่น ถ้าจะให้สาธยายว่าหนังสารคดีเรื่องนี้มันล้อเลียนกันอย่างไรนั้น ต้องเริ่มจากตัวละครดำเนินเรื่อง ผู้สื่อข่าวผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ นักวิชาการ นักวิทยาศาสตร์ ยูทูเบอร์ ชาวบ้านธรรมดา ลามไปจนถึงหน่อเนื้อเชื้อราชวงศ์อย่างควีนเอลิซาเบธ บุคคลทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาคือการสวมบทบาทโดยดาราสายฮาชื่อดังหาใช่ผู้รู้ตัวจริงแต่อย่างใด อาทิ ซามูเอล แจ็กสัน, ฮิวจ์ แกรนต์, คุเมล นันจิอานี, เลสลี โจนส์ และ โจ คีย์รี ดาราหนุ่มไฟแรงจากซีรีส์ Stranger Things
เริ่มเรื่อง ภาพค่อยๆ ไล่เฟดไปยังภายในตึกสำนักงานแห่งหนึ่งอันสัมผัสได้ถึงความเงียบเหงา ว่างเปล่า ไร้ผู้คน มีเพียงเศษใบไม้ เศษขยะปลิวว่อน “ให้ผมนั่งตรงนี้เหรอ” เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้นซึ่งเป็นเสียงที่เราคุ้นรูหูเป็นอย่างดีหากเปล่งคำว่า ‘Motherf***er’ ออกมา ใช่แล้ว นี่คือเสียงของ ‘ซามูเอล แจ็กสัน’ ผู้สวมมาดเป็นผู้สื่อข่าวที่จะเป็นคนนำเล่าถึงความวายป่วงแห่งปี 2020 ควบคู่ไปกับเสียงบรรยายของ ลอเรนซ์ ฟิชเบิร์น
โลกหมุนไปตามเดิมเหมือนทุกปี แต่ปีนี้บนโลกกลับมีบางอย่างไม่เหมือนเดิม เริ่มต้นที่ไฟป่าประเทศออสเตรเลีย ตามด้วยอิหร่านซัดกับพี่ใหญ่อเมริกาจนเสี่ยงเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 (โชคดีที่ไม่บานปลายจนเกิดขึ้นจริง) กลางปีกับประเด็น Black Lives Matter และเหตุการณ์สำคัญยังคงวนเวียนระอุอยู่บนแผ่นดินลุงแซม เพราะการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนที่ 46 กำลังใกล้เข้ามา โดนัลด์ ทรัมป์ ประจันหน้า โจ ไบเดน ระหว่างบรรยากาศคุกรุ่น เสียงบรรยายแทรกจาก ฮิวจ์ แกรนต์ ในบทผู้เชี่ยวชาญดังขึ้น “ผมเห็นไบเดนเหมือนผีพ่อบ้านตัวซีดขาวที่ถูกปลุกขึ้นมาสู้อีกครั้ง” จู่ๆ โพล่งมาแบบหน้าด้านๆ แล้วจะอดใจไม่หลุดขำได้อย่างไรกัน
อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของปี 2020 ถ้าไม่กล่าวถึงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เลยคงจะไม่ได้ ตลอดเส้นเรื่องไวรัสร้ายเข้ามามีบทบาทตั้งแต่ต้นจนจบปี ทุกตัวละครต่างได้รับผลกระทบ แถมยังหาบทสรุปไม่ได้มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งใครจะคาดคิดล่ะว่าเชื้อโรคตัวกระจิด มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น จะส่งผลต่อโลกได้เพียงนี้
ถึงแม้ว่า Death to 2020 จะดำเนินเรื่องด้วยบทบาทตัวละครปลอมๆ แต่ก็ใช้ฟุตเทจและเหตุการณ์จริงมาประกอบเรื่อง หน้าที่หลักจึงตกอยู่กับนักแสดงทั้งหลายกับการเอนเตอร์เทนคนดู เบ็ดเสร็จภายในเวลาหนึ่งชั่วโมงนิดๆ คนดูจะได้หัวเราะและยิ้มกริ่มไปจนจบถึงแม้ว่าเรื่องจริงเหล่านั้นจะหนักเหลือเกิน
ข้อเสียของเรื่องนี้คือการยัดประเด็นของ โดนัลด์ ทรัมป์ และ โจ ไบเดน มากจนเกินไป ถึงแม้อดีตประธานาธิบดีขี้โวยวายจะมีเรื่องราวเปิ่นๆ ชวนอิหยังวะออกมาอยู่เรื่อยๆ กลับกัน เมื่อแอร์ไทม์มีจนล้น อาจเกิดความรู้สึกเอียนได้ แต่ก็นั่นละ โชคดีที่มีดาราเก๋าๆ ฝีปากคมๆ มาแบกหนังเรื่องนี้ไว้อยู่
สุดท้ายความตลกจิกกัดสุดเจ็บแสบกลับมีนัยสำคัญแฝงอยู่ นั่นคือการเปลี่ยนแปลงอันไม่แน่นอน มนุษย์ล้วนดำเนินขับเคลื่อนโลกด้วยความขัดแย้ง หน้าประวัติศาสตร์ย่อมเปลี่ยนแปลงผ่านคนยุคใหม่ และทุกเรื่องราวล้วนเป็นตลกร้ายหากเราผ่านมันไปได้แล้ว ฉะนั้น การปรับตัวจึงเป็นสิ่งสำคัญ
แล้วมารอดูกันว่าปี 2021 ที่ถูกขนานนามว่าเป็นภาค 2 ของปี 2020 นั้น จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร…
Tags: Netflix, Death to 2020