ตลอดเดือนที่ผ่านมา ชื่อของ เบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ ในฐานะ ‘ล็อบบี้ยิสต์’ นักการเงินผู้ทรงอิทธิพล และเกี่ยวข้องกับการ ‘ฟอกเงิน’ ผิดปกติในหลายเรื่อง
ชื่อของเบนจามินเริ่มจากการปรากฏในข่าวเชิงสืบสวนสอบสวนหลายแห่ง ตัวละคร ‘เบนจามิน’ เริ่มต้นจากการพูดถึงของ ทอม ไรต์ (Tom Wright) นักข่าวมือรางวัล ก่อนจะเชื่อมไปยังภาพใหญ่ มีตัวละครต่างๆ อีกมาก ทั้งผู้ทรงอิทธิพลชาวกัมพูชา บริษัทหลายแห่งในตลาดหุ้นไทย และที่สำคัญที่หลีกเลี่ยงไม่ได้นั้น ขบวนการฟอกเงินข้ามชาติสามารถลากเส้นโยงไปถึงผู้มีอำนาจของไทยอย่าง ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และสมเด็จ ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา
ถึงตอนนี้ เรื่องราวของ ‘เบนจามิน’ เกี่ยวข้องกับใครบ้าง และเกี่ยวโยงกับคนไทยอย่างไร The Momentum รวบรวมเรื่องราวมาให้อ่านง่ายๆ
1. ‘เบนจามิน’ คือใคร
ตัวละครลึกลับคนนี้เป็นคนขาว สัญชาติแคนาดา เดินทางด้วยหนังสือเดินทางทางการทูต มีเครื่องบินส่วนตัว เรือยอชต์ส่วนตัว บทความล่าสุดของ ทอม ไรต์ ระบุว่า เบนจามินเกิดในครอบครัวยิวในแอฟริกาใต้ ในชื่อ สมิธ เบน เริ่มต้นเส้นทางด้วยการปั่นหุ้นในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และออสเตรเลีย กระทั่งถูกตามล่าจากเจ้าหน้าที่ในฝั่งตะวันตก ทำให้เขาต้องเริ่มหายตัวและปรากฏตัวอีกครั้งในกัมพูชา
บทความของสำนักข่าวอิศราระบุว่า สมิธ เบน ถือสัญชาติกัมพูชา โดยเป็นที่ปรึกษาเลขาธิการวุฒิสภากัมพูชาตั้งแต่ปี 2557 และมีความพยายามเปลี่ยนสัญชาติเป็นไทย เมื่อปี 2567 ในช่วง อนุทิน ชาญวีรกูล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทว่าไม่ได้รับอนุญาต
กระนั้นเองมีรายงานว่า เบนจามินพักอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ มีภรรยาเป็นคนไทยคือ แคทรียา บีเวอร์ ตัวละครลับอีกคนหนึ่ง ซึ่งถือหุ้นใหญ่ในบริษัทในตลาดหุ้นไทยหลายบริษัท
เบนจามินเป็นตัวละครลับมาเนิ่นนาน ผู้คนในแวดวงนักธุรกิจไทยพูดถึงในฐานะคนที่ดูแล ‘พอร์ตฟอลิโอ’ ให้กับนักการเมืองใหญ่ผู้มากบารมีคนหนึ่ง และเริ่มมีอิทธิพลมากขึ้นในตลาดหุ้นไทย อีกทั้งยังคงสถานะ ‘ล็อบบี้ยิสต์’ พานักลงทุน-นักการเมืองมาพบปะกัน ทว่าส่วนใหญ่เบนจามินมักจะหลบอยู่หลังฉาก
แต่เรื่องดังกล่าวก็เงียบงันอยู่นาน กระทั่งปรากฏภาพเบนจามินนั่งดื่มกาแฟกับทักษิณที่เกษรพลาซ่า
รายงานของทอม ไรต์ยังระบุด้วยว่า เรือยอชต์ที่ทักษิณใช้เจรจากับอันวาร์ อิบราฮิม (Anwar Ibrahim) ในพื้นที่น่านน้ำไทยใกล้กับเกาะลังกาวีเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา หลังจากขออนุญาตศาลออกนอกประเทศ เป็นเรือยอชต์ Wanderlust ของเบนจามิน
2. ยิม เลียก อีกหนึ่งตัวละครลับโยง ฮุน เซน
เรื่องราวในฝั่งกัมพูชานั้นน่าสนใจไม่แพ้กัน ย้อนกลับไปยังปี 2563 สำนักข่าวอิศราพบว่า มีอีกตัวละครชื่อ ยิม เลียก ประธานกรรมการธนาคาร B.I.C สมาชิกกลุ่ม B.I.C ซึ่งคาดว่าอยู่ร่วมขบวนการเดียวกับเบนจามิน โดยปรากฏในภาพถ่ายร่วมกันหลายครั้ง ยิม เลียกได้รับเลือกให้เป็นที่ปรึกษาของ ฮุน เซนในวันเดียวกันคือ วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 และยังร่วมกันบริจาคเงินให้กับกาชาดกัมพูชา เป็นกาชาดกัมพูชาเดียวกับที่สำนักข่าวเจาะของกัมพูชาระบุว่า เป็นองค์กรที่เกี่ยวพันกับการฟอกเงิน และอาชญากรรมในประเทศ
ไม่ต้องสงสัยว่า ทำไมยิม เลียกถึงได้รับเลือกให้เป็นที่ปรึกษาของฮุน เซน เพราะนอกจากเป็นนักธุรกิจที่มีความมั่งคั่งมหาศาลแล้ว เขายังเป็นบุตรชายของ ยิม ไซ ลี รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ขณะที่ B.I.C. นอกจากจะเป็นธนาคารใหญ่แล้ว ยังเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงยังมีบริษัทเครือข่ายอยู่ในประเทศไทย
โดยก่อนหน้านี้ เว็บไซต์ B.I.C. ซึ่งมีสำนักงานในประเทศไทย ยังระบุว่า มีคนไทยหลายคนทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการบริษัท รวมถึงอดีตข้าราชการระดับสูงของไทย นายตำรวจใหญ่ รวมถึงผู้ที่เป็น ‘ว่าที่รัฐมนตรี’ ในรัฐบาลอนุทิน ทว่าในภายหลังปรากฏเป็นข่าว ข้อมูลที่ปรึกษาคณะกรรมการได้หายไปทั้งหมด
เบนจามินและยิม เลียกจึงเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลอย่างสูงในกัมพูชา และยิ่งทรงอิทธิพลมากขึ้นอีกเมื่อมาจับมือกับผู้ทรงอิทธิพล นักการเมืองใหญ่ในประเทศไทย
ขณะเดียวกันยังมีบทวิเคราะห์ว่า ทั้งคู่ยังเกี่ยวกับธุรกิจใต้ดินในกัมพูชา ทั้งสแกมเมอร์ คอลเซนเตอร์ การพนันออนไลน์ และการฟอกเงินผิดกฎหมาย ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 2.2 ล้านล้านบาท
3. เบนจามินเกี่ยวอะไรกับหุ้นบางจาก
ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา สำนักข่าว Asia Sentinel ของสหรัฐอเมริกา ให้ข้อมูลว่า มีความพยายามจากกลุ่มบริษัท Chatered Group ของแอฟริกาใต้ ในการซื้อหุ้นบางจากกว่า 31.35 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 24.96% ของหุ้นที่จำหน่ายโดยบริษัท บางจาก จำกัด (มหาชน) โดยการซื้อขายหุ้นดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเดือนกันยายน 2567 อย่างไรก็ตามการทำธุรกรรมดังกล่าวถูกยกเลิกในเวลาต่อมา รายงานข่าวจากสำนักข่าวอิศราให้เหตุผลว่า เพราะกองทุนประกันสังคมปฏิเสธที่จะขายหุ้นบางจากให้กับกลุ่มทุนแอฟริกาใต้กลุ่มนี้
รายงานข่าวจากเอเชียเซนทิเนลยังรายงานด้วยว่า เหตุผลสำคัญที่ทำให้ ฮุน เซนโกรธทักษิณ ก็ด้วยไม่ได้หุ้นบางจากตามที่ต้องการ เพราะฮุน เซนมีความคาดหวังว่าบางจากจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด เพราะเป็นบริษัทใหญ่ที่ลงทุนในด้านก๊าซธรรมชาติ และน้ำมันสำรองบริเวณพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา
สฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการอิสระ ยังค้นข้อมูลว่า Chartered Group ยังเข้าไปลงทุนใน บริษัทหลักทรัพย์ เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) โดยเก็บหุ้นจากกลุ่ม คันทรี กรุ๊ป กว่า 25% เมื่อเดือนกันยายน 2567 และยังพบว่ามีกลุ่มหุ้นใหญ่ที่ชื่อ อัลฟ่า ชาร์เตอร์ด เอนเนอร์จี เข้ามาถือหุ้นบางจาก ดำเนินการผ่าน Capital Asia Investment จนกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ รายงานข่าวจากผู้จัดการออนไลน์เมื่อเดือนเมษายน 2568 ที่ผ่านมา ยังพบว่า กองทุนประกันสังคมทยอยปล่อยหุ้นบางจากออกมาเป็นระยะ และในเวลาต่อมา Capital Asia Investment ก็เป็นผู้ทยอยเก็บหุ้นที่กองทุนประกันสังคมปล่อยออกมา
ขณะเดียวกันสำนักข่าวอิศรารายงานว่า บริษัท Capital Asia Investments นั้น มีผู้บริหารเป็นชาวสิงคโปร์ และมี แคทรียา บีเวอร์ เป็นหนึ่งในผู้บริหาร
นอกจากนี้หากเช็กผู้ถือหุ้นใหญ่ของบางจากขณะนี้ยังพบว่า แคทรียาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ลำดับที่ 10 มีหุ้นรวม 16 ล้านหุ้น
ทั้งนี้บางจากได้ออกหนังสือชี้แจงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2568 ว่า การซื้อขายหุ้นของบริษัทเป็นไปตามกลไกตลาด ภายใต้กฎเกณฑ์และข้อบังคับที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
4. Capital Asia Investments อีกหนึ่งบริษัทที่น่าสงสัย
ก่อนหน้านี้ สฤณีลองทำผังเชื่อมโยงการลงทุนระหว่าง ยิน เลียก, เบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ และเครือข่ายบริษัทบริวาร พบว่า มีการลงทุนในหลายบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ไทยที่น่าสนใจ
เป็นต้นว่า B.I.C Bank Cambodia เข้ามาถือหุ้นใน BCPG บริษัทลูกของบางจาก 0.3% Opus – Chartered Insurance S.A. ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมโดยชาเตอร์กรุ๊ปของเบนจามิน เข้ามาถือหุ้นบริษัทหลักทรัพย์ MFC กว่า 25% ขณะที่ Capital Asia Investments นั้น เข้ามาถือหุ้นในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทยเกิน 10% ถึง 6 บริษัท ทั้งที่ไม่รู้ว่าเจ้าของตัวจริงคือใคร และเส้นเงินเชื่อมโยงกับอะไรบ้าง
รายงานจากทอม ไรต์ระบุว่า อดีตพนักงานของ Capital Asia Investments ให้ข้อมูลว่า แม้ชื่อของเบนจามินจะไม่ปรากฏว่าเกี่ยวข้องกับบริษัทดังกล่าว แต่การตัดสินใจทั้งหมดของบริษัทเกิดขึ้นในนามของเบนจามิน และการลงทุนในหลายบริษัทในไทยนั้นก็เพื่อเป็นทางผ่าน นำกระแสเงินสดจำนวนมากเข้าไปยังตลาดหุ้นไทย เพื่อให้เส้นทางเงินถูกต้องตามกฎหมาย
ในโพสต์ของสฤณีตั้งข้อสังเกตว่าตลาดหุ้นไทย อาจกำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือฟอกเงิน-เงินสกปรกของผู้มีอำนาจในกัมพูชา และผู้มีอำนาจในไทยอาจมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย โดยเตรียมเขียนบทความร้อยเรียงข้อมูล เส้นทางเงิน และตัวละครทั้งหมดที่เกี่ยวข้องต่อไป
5. แล้วทั้งหมดเกี่ยวอะไรกับคนไทย
สิ่งที่ยังต้องลากเส้นต่อจุดก็คือ
1. ความขัดแย้งระหว่างฮุน เซนกับทักษิณ ซึ่งนำไปสู่เหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เกี่ยวข้องกับเบนจามิน บริษัทลึกลับของเบนจามิน ยิม เลียก และเงินผิดกฎหมายที่หมุนเวียนภายในกัมพูชาหรือไม่
2. บริษัทในตลาดหุ้นไทยหลายแห่ง เข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการฟอกเงิน โดยมีผู้มีอำนาจอยู่เบื้องหลังหรือไม่
3. เรื่องลึกลับทั้งหมดนั้น เกิดขึ้นในสายตาของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินไหม และหากสืบพบแล้วจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
4. ถึงตอนนี้เบนจามินและขบวนการ ยังทำงานกับ ‘ทักษิณ’ อยู่หรือไม่ และความสัมพันธ์อันพิลึกพิลั่นนี้จะเดินหน้าต่อไปอย่างไร
อ้างอิง
– https://www.thaipbs.or.th/news/content/356247
– https://www.asiasentinel.com/p/thaksin-shinawatra-mystery-fixer-man-benjamin-mauerberger
– https://www.isranews.org/article/isranews-scoop/141081-isranews-BennJamiii.html
– https://www.facebook.com/photo/?fbid=1345236480305369&set=a.213364210159274
Tags: Feature, ทักษิณ ชินวัตร, ฮุนเซน, ฟอกเงิน, ทักษิณ, เบนจามิน, เบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์