มีเมนูไหนที่คิดถึง แต่ลองทำเองกี่ครั้ง รสชาติก็ยังไม่กลมกล่อมเหมือนที่เคยกินฝีมือคุณย่าคุณยายบ้าง แล้วยิ่งในวันนี้ที่ปู่ย่าตายายไม่อยู่แล้ว ท่านก็จากไปพร้อมสูตรอาหารด้วย ทั้งวัตถุดิบ วิธีปรุง ทำให้เมนูเหล่านี้กลายเป็นความลับของสวรรค์ไปโดยปริยาย เหล่าบรรดาลูกหลานได้แต่คิดว่า ทำไมกันนะ ทำไมตอนนั้นเราไม่ขอให้เขาสอนทำ ไม่ยอมตามไปส่องในครัว หรือลูกหลานบางคนก็เคยคะยั้นคะยอให้สอนทำอาหารแล้ว แต่เป็นตัวเขาเองที่หวงสูตรไม่ยอมบอก 

นอกจากในครัวเรือนยังรวมไปถึงร้านอาหารเก่าเจ้าประจำที่ต้องปิดตัวลง เพราะเจ้าของสูตรอายุเลยวัยเกษียณมาไกล ทำร้านต่อไม่ไหวและไม่มีคนสืบทอด ไม่ว่าจะกรณีใดก็ตาม หากสุดท้ายแล้วเราไม่ได้ลิ้มรสชาติที่คิดถึงอีกต่อไปก็ล้วนเป็นเรื่องน่าเศร้าทั้งสิ้น 

เมื่อพูดถึงร้านอาหาร ทุกวันนี้ยังมีหลายร้านที่ลูกหลานรับช่วงกิจการต่อกันมาเป็นรุ่น 3 รุ่น 4 ในขณะเดียวกันก็มีหลายครั้งที่หลานๆ งัดเอาสูตรลับเมนูเด็ดของบรรพบุรุษที่เคยทำกินกันในบ้าน ลองเอามาทำขายแบ่งปันรสชาติของตระกูลให้คนอื่นได้ชิมบ้าง

กลับมาที่บ้านของเรา หลายครอบครัวคงมีสมาชิกสูงวัยที่มีรสมือชั้นเยี่ยมไม่แพ้กัน คงดีไม่น้อยหากได้จดสูตรอาหารตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่

ไอเดียเก็บสูตรอาหารของครอบครัวไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในบ้านเรา เพราะที่สหรัฐอเมริกา หลายครอบครัวก็เริ่มตระหนักถึงคุณค่าของรสมือรุ่นปู่ย่าและพยายามรักษาไว้เช่นกัน จึงเกิดเป็นธุรกิจที่ช่วยให้คำแนะนำในการจัดทำหนังสือสูตรอาหารประจำบ้าน ไม่ว่าจะตีพิมพ์เป็นเล่มจริงหรือทำเป็นอีบุ๊ก เพื่อให้สูตรลับในครัวไม่สูญหายไปตามกาลเวลา

โดยในปี 2007 เลนอร์ วิกเกรย์ (Lenore Vickrey) บรรณาธิการของนิตยสาร Alabama Living ได้ช่วยให้ แจ็กชกี้ ทริมเบิล (Jackie Trimble) ตีพิมพ์หนังสือสูตรอาหารครอบครัวสำเร็จ ทริมเบิลได้เก็บเอาไว้ใช้ในครัวของเธอจริงๆ และแจกจ่ายให้กับญาติพี่น้อง ซึ่งทริมเบิลได้ระบุไว้ในบทนำของตำราอาหารเล่มนี้ว่า 

‘แนวคิดของการทำตำราอาหารเกิดขึ้นเพื่อเชื่อมโยงกันและกัน เราอาจแบ่งปันอาหารที่เป็นเหมือนของขวัญ และคงไว้ซึ่งมรดกของเราในรูปแบบใหม่ๆ’

ในขณะเดียวกันวิกเกรย์ก็ได้รวบรวมสูตรอาหารของครอบครัวเธอเองเก็บไว้ ก่อนจะส่งมอบอีบุ๊กให้กับลูกสะใภ้ที่แต่งงานเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวในปี 2010

การรวบรวมสูตรอาหารประจำบ้านให้ครบถ้วนจนกลายเป็นหนังสือเล่มหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะแต่ละจานล้วนมีความซับซ้อนทั้งในแง่แหล่งที่มาของวัตถุดิบ และขั้นตอนการปรุงอาหาร กว่าจะได้เขียนสูตรแต่ละเมนูจึงใช้เวลานาน เพราะฉะนั้น หากตัดสินใจจะทำหนังสือสูตรอาหารครอบครัว เท่ากับว่าต้องทุ่มเททั้งเวลาและแรงกายแรงใจ

โดยในปี 2022 มาร์เซีย เวเบอร์ (Marcia Weber) และแม่ของเธอ ลูเซีย ดริกเกอร์ส (Lucia Driggers) ที่ตอนนั้นอายุ 98 ปี ได้เริ่มต้นรวบรวมสูตรอาหาร เวเบอร์บอกว่าโชคดีที่แม่ยังมีชีวิตอยู่ และยังสามารถอธิบายสูตรอาหารกับวัตถุดิบสําคัญในบ้านเกิดที่ไวร์กราส (Wiregrass) ทางตอนใต้ของสหรัฐฯ เธอระบุอีกว่า ต้องขับรถไปกว่า 160 กิโลเมตร เพื่อเฟ้นหาข้าวโพดที่เหมาะสม

แต่เมื่อใดก็ตามที่เจ้าของสูตรไม่อยู่อธิบายแล้ว ด้วยความไม่รู้ข้อมูลที่แน่นอน บรรดาลูกหลานจึงลองผิดลองถูก ชั่งตวงวัดจนกว่าจะเจอปริมาณที่ถูกต้อง ได้รสชาติที่คุ้นเคย จึงยากเป็นทวีคูณ 

เช่นในกรณีของ มาเรีย แอชมอร์ (Maria Ashmore) ที่ได้รวบรวมสูตรอาหารของแม่ หลังจากที่แม่เสียชีวิตแล้ว และด้วยการร่วมมือกันของญาติพี่น้องจึงทำให้ตำราอาหารของครอบครัวได้รับการตีพิมพ์จนสำเร็จ ซึ่งเธอกล่าวว่า หนังสือสูตรอาหารของแม่มีคุณค่าทางใจมาก เพราะเมื่อใดก็ตามที่เธอได้หยิบจับหนังสือเล่มนี้มันทำให้เธอได้ย้อนไปยังวันที่แม่ยังอยู่ ความทรงจำในวัยเด็ก วันเวลาที่เธอเคยช่วยแม่หยิบจับของเล็กๆ น้อยๆ ในครัว พร้อมกับจินตนาการถึงเสียงหัวเราะและกลิ่นอาหารที่แม่กำลังปรุงด้วยความรัก

อย่างไรก็ตาม หากย้อนกลับมามองในบ้านเรา แม้หลายครอบครัวยังมีปู่ย่าตายายอยู่พร้อมหน้า ทว่าบางบ้านอาจไม่ได้จดสูตรอาหารเป็นลายลักษณ์อักษรให้เราได้เปิดดู เราอาจต้องเข้าไปคลุกคลีในครัว อาศัยวิธีครูพักลักจำแทน เรียนรู้จากการลงมือทำทีละนิด แต่เชื่อเถอะว่าคงไม่ยากเกินไป หากจะเริ่มต้นรวบรวมสูตรวัตถุดิบตั้งแต่วันนี้ เพื่อในวันที่เขาไม่อยู่แล้า เรายังรู้สึกใกล้ชิดกันได้จากรสชาติของอาหารที่คุ้นเคยได้เหมือนเดิม

ที่มา:

https://alabamaliving.coop/articles/preserve-family-recipes-in-a-personalized-heirloom-cookbook/ 

Tags: , , , , ,