เชื่อว่าหลายครอบครัวเคยผ่านการสร้างบ้าน รีโนเวตบ้าน หรือตอนนี้กำลังเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านใหม่ ซึ่งกระบวนการทำบ้านเหล่านี้ บางคนอาจใช้บริการสถาปนิกในการเขียนแบบ ควบคุมงานก่อสร้าง หรือให้มัณฑนากรรับหน้าที่เป็นออกแบบตกแต่งภายใน ขณะที่บางคนอาจมองว่าไม่จำเป็น เพราะครอบครัวเรามี ‘สถาปนึก’ อยู่แล้ว
สถาปนึกเป็นคำเรียกเล่นๆ ในเชิงหยอกล้อ ใช้เรียกคนที่ไม่ได้เป็นสถาปนิก แต่รับหน้าที่ออกแบบกับตกแต่งบ้านด้วยตนเอง แต่ละครอบครัวอาจมีสถาปนึกเป็นพ่อแม่หรือสามีภรรยา ซึ่งผลงานของสถาปนึกจะออกมาตามสไตล์และจินตนาการอันกว้างไกลของตัวเอง อย่างไรก็ตามผลงานของสถาปนึกจะงดงามเสมอ ตราบใดที่สมาชิกในครอบครัวชื่นชอบและยอมรับในบ้านแบบเดียวกัน
สำหรับลูกที่มีพ่อแม่เป็นสถาปนึก บางคนอาจมีประสบการณ์ที่พ่อแม่วางแปลนบ้านไม่ธรรมดา เช่น โรงจอดรถที่ไม่มีประตูเชื่อมกับตัวบ้าน ทำให้การออกจากบ้านแต่ละครั้งเสียเวลา 2-3 นาที เพราะต้องเดินจากโรงจอดรถไปเข้าออกประตูหลัก หรือในห้องน้ำที่ติดตั้งสายฉีดชำระไว้ซ้ายมือ ทั้งที่สมาชิกทุกคนในครอบครัวถนัดขวา ทำให้เราคิดว่าถ้าปรับเปลี่ยนคงสะดวกมากกว่านี้
สถาปนึกบางบ้านรับผิดชอบการตกแต่งภายใน อย่างการเลือกปูกระเบื้องคละสีคละลายในห้องเดียวกัน ในสายตาพ่อแม่ก็สวยดูดีเป็นงานศิลปะ แต่ลูกอาจมองว่าเหมือนร้านขายกระเบื้องเสียมากกว่า หรือเลือกสีทาบ้านที่ฉูดฉาดเกินไป เห็นไกลตั้งแต่ปากซอย โทนสีแสบสันไม่ถูกใจคนรุ่นใหม่ และอีกหนึ่งเรื่องคลาสสิกที่ลูกหลายบ้านประสบพบเจอคือ เฟอร์นิเจอร์อย่างเจ้า ‘เก้าอี้ไม้สัก’ ขนาดใหญ่ ไอเทมขวัญใจพ่อแม่บูมเมอร์ที่มีทุกบ้าน ซึ่งลูกๆ อยากขนไปทิ้งให้พ้นสายตา เพราะมันไม่เข้ากับบ้านสไตล์โมเดิร์นแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตาม บ้านที่มีพ่อแม่เป็นสถาปนึก ลูกต้องจำใจยอมรับให้ได้หากไม่ได้เป็นผู้ลงทุนลงแรงสร้างบ้านหลังนี้ แต่สำหรับบ้านหลังใหม่ของคู่สามีภรรยาที่มีอำนาจเท่ากันในการกำหนดแบบบ้าน หากคนใดคนหนึ่ง หรือทั้งคู่ต่างเป็นสถาปนึก อยากทำบ้านให้เป็นแบบที่ตัวเองต้องการ แต่ต่างคนต่างสไตล์ หากพูดคุยกันไม่ลงตัว อาจนำมาสู่ความร้าวฉานในครอบครัวได้
เพราะฉะนั้น หลายครอบครัวจึงตระหนักถึงการจ้างสถาปนิกกับมัณฑนากรให้ออกแบบตกแต่งบ้าน นอกจะได้บ้านที่สวยถูกใจแล้ว ผลพลอยได้อีกอย่างหนึ่งคือ ลดบทบาทของสถาปนึก เป็นการตัดไฟแต่ต้นลม ลดทั้งปัญหาเรื่องบ้านและความสัมพันธ์ในบ้านจากรสนิยมที่ต่างกัน
จ้างผู้เชี่ยวชาญช่วยเราได้มากกว่าที่คิด
ประโยชน์หลักของสถาปนิกกับบทบาทของมัณฑนากร คือช่วยทำให้เจ้าของบ้านมีชีวิตง่ายขึ้น ตั้งแต่ช่วงวางแผนสร้างบ้าน กระบวนการสร้าง ไปจนกระทั่งเข้าอยู่อาศัยจริง
แรกเริ่มที่คิดอยากสร้างบ้าน หลายคนคงมีภาพบ้านในฝัน ซึ่งบ้านในฝันของบางคนอย่างเช่นสไตล์นอร์ดิกอาจเป็นได้แค่จินตนาการ เพราะไม่เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศประเทศไทย การได้ปรึกษากับสถาปนิกจะทำให้เรารู้ว่า บ้านที่คิดไว้มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน อะไรที่สร้างได้ อะไรที่ไม่ควรสร้าง
เมื่อถึงขั้นตอนสร้างบ้านจะทำให้สบายใจไปเปลาะหนึ่ง เพราะไม่ต้องคอยกังวลเรื่องก่อสร้าง ความแข็งแรงทนทาน และความสวยงาม มีเวลาไปทำอย่างอื่นได้บ้าง โดยปล่อยให้หน้าที่กำกับควบคุมบ้านตกเป็นของผู้เชี่ยวชาญแทน
และในด้านการตกแต่งภายในก่อนเข้าอยู่จริง หลายคนคงมีประสบการณ์ซื้อเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน แต่พอเอามาวางจริงกลับดูขัดตา ไม่เข้ากับบ้านไปเสียอย่างนั้น ซึ่งการจ้างมัณฑนากรมีประโยชน์ตรงที่เราจะไม่ต้องเสียเงินซื้อของตกแต่งไปเรื่อยเปื่อย
ทั้งนี้สถาปนิกกับมัณฑนากรมีขอบเขตการทำงานที่มากกว่าออกแบบให้สวยงาม เพราะต้องออกแบบให้คนในบ้านรู้สึกสะดวกสบายมากที่สุด ฟังก์ชันการใช้งานทุกส่วนในบ้านต้องตอบโจทย์สมาชิกครอบครัวหลากหลายช่วงวัย หลากหลายไลฟ์สไตล์ ที่ทำกิจกรรมในบ้านไม่เหมือนกัน
โดยผู้เชี่ยวชาญจะนำเอาความต้องการของผู้อยู่อาศัยทุกคนมาปรับให้สมดุล เป็นประโยชน์ทางอ้อมที่ช่วยลดการกระทบกระทั่งกันในครอบครัว เพราะทุกคนได้บ้านที่ออกแบบตามความต้องการของตนเอง ยกตัวอย่างเช่นห้องนอนของสามีภรรยาที่ต้องใช้พื้นที่เดียวกัน แต่มีความชอบสีสันหรือสไตล์การออกแบบไม่เหมือนกัน ผู้เชี่ยวชาญจะทำหน้าที่ผสมผสานความต้องการให้ออกมาถูกใจทั้งคู่มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
จ้างผู้เชี่ยวชาญ จ่ายแล้วจบ ไม่เจ็บเพิ่ม
นอกจากเรื่องรูปแบบของบ้าน ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหาที่ทำให้สมาชิกในครอบครัวทะเลาะกันคือเรื่องเงิน เพราะการทำบ้านต้องเผื่อใจว่างบบานปลายแน่นอน แต่จะเกินงบมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับปัจเจก และในประเด็นนี้หลายคนเชื่อว่า การจ้างผู้เชี่ยวชาญเป็นการจ่ายแล้วจบ เพราะจะช่วยให้คุมงบประมาณการสร้างบ้านง่ายขึ้น งบบานปลายน้อยลง ไม่ต้องเสียเงินต่อเติมบ้านตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อย ไม่ต้องซื้อของตกแต่งเรื่อยเปื่อย เพราะมีภาพงานออกแบบกับลิสต์ของตกแต่งที่ชัดเจนอยู่แล้ว
ถึงตรงนี้หลายครอบครัวที่ไม่อยากทะเลาะกับสถาปนึกในบ้าน คงถึงเวลาเกลี้ยกล่อมคนในบ้านให้ข้อดีของการจ้างสถาปนิก อย่างไรก็ตามควรเลือกบริษัทที่น่าเชื่อถือ และมีผลงานใกล้เคียงกับสไตล์ที่เราชอบมากที่สุด จากนั้นควรลองพูดคุยปรึกษากับบริษัทออกแบบ เพื่อประเมินราคา ประเมินความต้องการ
แต่สุดท้ายแล้ว หากคิดว่าการจ้างสถาปนิกหรือมัณฑนากร อาจไม่คุ้มค่า และตัดสินดีแล้วว่าจะออกแบบตกแต่งบ้านด้วยตนเอง ก่อนลงมือทำจริง ควรถ่ายทอดภาพบ้านในฝันที่อยู่ในหัว วาดรูปออกมาและอธิบายอย่างชัดเจนให้สมาชิกครอบครัวได้เห็นก่อน จะได้มีส่วนร่วมลงความคิดเห็นว่าบ้านนี้ดีพอสำหรับผู้อยู่อาศัยหรือยัง และเพื่อป้องกันรอยร้าวในความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น เพราะความต้องการไม่ลงรอยกัน
Tags: family, สถาปนิก, Family Tips, การสร้างบ้าน, สถาปนึก, บ้าน, ครอบครัว