หลังจากใช้เวลาเจรจาต่อรองและพิจารณากันนานกว่าปีครึ่ง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน ผู้นำประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปหรืออียูก็เห็นชอบกับข้อตกลงการแยกตัวของสหราชอาณาจักรหรือเบร็กซิต (Brexit) ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้าแล้ว
ในการประชุมที่กรุงบรัสเซลล์ ผู้นำชาติต่างๆ ได้ลงนามรับรองเอกสารยาว 26 หน้าซึ่งจะใช้เป็นแนวทางในการดำเนินการต่อไปก่อนจะถึงเที่ยงคืนวันที่ 29 มีนาคม 2019 วันสุดท้ายที่อังกฤษจะเป็นสมาชิกอียู ขณะที่ยังมีรายละเอียดอีกมากที่ยังไม่ได้ตกลงกัน รวมทั้งเรื่องเสรีภาพของอังกฤษในการควบคุมเศรษฐกิจของตัวเอง นอกจากนี้ ทั้งอังกฤษและอียูยังต้องเจรจาในเรื่องความสัมพันธ์ในอนาคตอีก
หลังจากเริ่มประชุมไปได้ครึ่งชั่วโมง ประธานคณะกรรมการธิการยุโรป โดนัลด์ ทัสก์ (Donald Tusk) ก็ทวีตว่า สมาชิก 27 ประเทศ รับรองข้อตกลงแยกตัวเป็นอิสระจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักรแล้ว
สมาชิกอียูเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์ในข้อตกลงแยกตัวเป็นอิสระของอังกฤษตามที่ระบุไว้ในเอกสารยาว 585 หน้า ซึ่งครอบคลุมถึงเรื่องสิทธิของพลเมือง ประเด็นพรมแดนไอร์แลนด์เหนือ
การที่อังกฤษต้องจ่ายเงิน 50 ล้านเหรียญสหรัฐเป็นค่าใช้จ่ายในการแยกตัวของจากอียู รวมทั้งปฏิญญาทางการเมืองที่จะกำหนดกรอบความสัมพันธ์ระหว่างสหราชอาณาจักรกับอียูหลังจากเบร็กซิต เช่น การค้าระหว่างกัน และนโยบายความมั่นคง
ข้อตกลงที่ได้รับความเห็นชอบจากผู้นำชาติสมาชิกอียู 27 ประเทศจะทำให้อังกฤษยังต้องปฏิบัติตามกฎหมายส่วนใหญ่ของอียู แต่ไม่ใช่ในฐานะสมาชิก ไปจนถึงสิ้นปี 2020 โดยยังต้องต่อรองความสัมพันธ์อื่นๆ อีก ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ประเด็นสุดท้ายที่ถูกหยิบยกมาถกเถียงกันก่อนที่จะลงมตินั้นมาจากสเปน เป็นเรื่องเกี่ยวกับเขตแดนของอังกฤษในช่องแคบยิบรอลตาร์ในอนาคต ซึ่งได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้วเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ในแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ ผู้นำประเทศสมาชิกเรียกร้องให้สถาบันต่างๆ ของอียู ดำเนินการตามที่จำเป็นเพื่อเป็นหลักประกันว่าข้อตกลงซึ่งจะมีผลในวันที่ 30 มีนาคม 2019 เป็นไปอย่างเรียบร้อย
เว็บไซต์ Politico รายงานการให้สัมภาษณ์ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศสว่า “นี่ไม่ใช่ทั้งโอกาสที่น่ายินดีและก็ไม่ใช่วันที่น่าเศร้า มันเป็นการเลือกที่มาจากประชาชนที่มีอำนาจสูงสุด เป็นเวลาแห่งศักดิ์ศรีและความรับผิดชอบ” เขายังบอกด้วยว่า การประชุมครั้งนี้เป็น “ก้าวสำคัญ” แสดงให้เห็นว่าสหภาพยุโรปมีองค์ประกอบของความเปราะบาง แต่ก็ยังสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ ส่วนเว็บไซต์ Guardian ลงคำสัมภาษณ์นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ มาร์ก รูทท์ ว่าข้อตกลงนี้มีเนื้อหาที่ยอมรับได้หากมองจากฝั่งสหราชอาณาจักรที่ต้องทั้งระมัดระวังผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากเบร็กซิต ขณะเดียวกันก็ต้องเคารพผลประชามติที่ต้องการออกจากสหภาพยุโรป ซึ่งเขากล่าวเข้าข้างเทเรซ่า เมย์ว่าเธอต้องพยายามอย่างหนักเพื่อให้เกิดข้อตกลงที่ยอมรับได้ และบอกว่า “วันนี้ไม่มีใครเป็นผู้ชนะ พวกเราต่างสูญเสีย” ส่วนอังเกลา แมร์เคิล ผู้นำเยอรมนีไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ หลังเสร็จสิ้นการประชุม
เทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เผชิญกับแรงกดดันทั้งจากฝ่ายต้องการแยกตัวออกจากอียูและฝ่ายที่ต้องการให้คงสภาพสมาชิกอียูต่อไป ซึ่งขั้นตอนถัดไป รัฐสภาอังกฤษจะมีกำหนดจะลงมติอีกครั้งในเดือนธันวาคม
ไมเคิล บาร์นิเออร์ (Michel Barnier) หัวหน้าทีมเจรจาของอียูกล่าวว่า การเจรจาช่วงแรกเสร็จเรียบร้อยแล้ว สหราชอาณาจักรและอียูต้องทำงานเพื่อสร้างความร่วมมือที่แสนท้าทายและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนต่อไป จากนั้น รัฐสภายุโรปจะต้องเป็นฝ่ายรับรองข้อตกลงในรายละเอียดก่อน ซึ่งคาดว่าจะน่าจะเกิดขึ้นช่วงต้นปี 2019 หลังจากนั้น รัฐสภาของอังกฤษก็ต้องเห็นชอบเช่นกัน
ที่มา:
- https://www.washingtonpost.com/world/europe/eu-leaders-approve-brexit-plan-setting-up-december-vote-in-british-parliament-where-it-faces-stiff-opposition/2018/11/25/3ac3f880-ec16-11e8-8b47-bd0975fd6199_story.html
- https://apnews.com/e1384dc86bcd418a9eeddd81fdb27f78
- https://www.politico.eu/article/uk-theresa-may-brexit-deal-is-the-max-eu-can-do-says-mark-rutte/
- https://www.bbc.com/news/uk-46334649