แม้ Thor: Ragnarok (2017) และ Thor: Love and Thunder (2022) จะถูกนับรวมเป็นผลงานในจักรวาลมาร์เวล (Marvel Cinematic Universe) ที่ได้รับคำชื่นชมจากผู้ชมค่อนข้างมาก สาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะลายเซ็นต์การกำกับทั้งสองเรื่องของ ไทก้า ไวติติ (Taika Waititi) ที่ใส่ความตลกร้ายในแบบเฉพาะตัวของเขาลงไป ทำให้หนังทั้งสองเรื่องมีรสชาติที่แตกต่าง โดดเด่น และ ‘ทะเล้น’ ในแบบที่หาไม่ค่อยได้ในจักรวาลหนังฮีโร่สักเท่าไรนัก 

ถึงกระนั้น ล่าสุด ไทก้ากลับออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เขาไม่เคยสนใจอยากเข้ามากำกับหนังในแฟรนไชส์มาร์เวลแม้แต่น้อย แต่ทั้งหมดที่ทำไป เพราะต้องการเงินเพียงเท่านั้น  

คำสารภาพดังกล่าวเกิดขึ้น ระหว่างที่ผู้กำกับชาวนิวซีแลนด์กำลังให้สัมภาษณ์กับรายการ Smartless โดยระบุว่า เหตุผลเดียวที่เขาตกลงเข้ามาเขียนบทให้กับภาพยนตร์ Thor ทั้งสองภาค เพียงเพราะตอนนั้นเขาต้องการหาเงินสำหรับเลี้ยงลูกสาวทั้งสองคน ทั้งยังกล่าวเสริมอีกว่า ก่อนหน้านี้ ธอร์ไม่ใช่ตัวละครที่ดีสำหรับการเขียนบทหนังให้ประสบความสำเร็จเลย

“ยอมรับเถอะว่ามันเสี่ยง กับการที่ตัวละครธอร์จะได้รับความนิยมหากเทียบกับตัวละครอื่น อย่างตัวผมเองก็ไม่เคยอ่านธอร์เลยตั้งแต่เด็กๆ นี่คือตัวการ์ตูนที่ผมเปิดอ่านแล้วมักรู้สึก ‘หยึย’ ทุกครั้ง ดังนั้น บทหนังทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะผมอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับธอร์ รวมถึงในหนังสือการ์ตูนนิดหน่อยสัก 18 หน้าได้มั้ง”

แล้วเหตุใด ไทก้าจึงตัดสินใจเข้ามากำกับ Thor: Ragnarok (2017) เรื่องนี้เขาเล่าว่า หลังจากเห็น Thor: The Dark World (2013) ออกฉาย เขารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องยากที่แฟรนไชส์หนังเรื่องนี้จะไปต่อได้  นั่นจึงเป็นโอกาสที่เขาจะเข้าไปร่วมงานเพื่อกอบโกยเงิน สำหรับเลี้ยงลูกทั้งสองคนของเขา

คำถามสำคัญ คือหลังจากนี้เราจะได้เห็นไทก้ากำกับธอร์ภาคต่อไปหรือไม่ ในช่วงท้ายของการสัมภาษณ์ ไทก้ากล่าวเป็นนัยว่า ตัวเขาให้ความสนใจกับโปรเจกต์อื่นๆ ที่ได้เซ็นต์สัญญาไว้แล้วมากกว่า เช่น หนังเรื่องใหม่ที่ดัดแปลงมาจากหนังสือที่ชื่อ Klara and the Sun และภาคต่อของแฟรนไชส์ Star Wars 

“อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะ ผมยังรักมาร์เวล ยังรักการทำงานร่วมกับ คริส เฮมส์เวิร์ธ (Chris Hemsworth) เรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน  ถ้าในอนาคตมาร์เวลต้องการหาผู้กำกับสักคนมาร่วมงานผมก็ยินดี และหวังว่าเราจะมีโอกาสได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง” ไทก้า กล่าวทิ้งทาย

สำหรับภาคต่อไปของธอร์ คริส เฮมส์เวิร์ธ ผู้รับบทนำ เคยให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Vanity Fair ในปี 2022 ว่า ควรเป็นภาคจบของตัวละครเทพเจ้าสายฟ้ารายนี้เสียที เพียงแต่เขาก็ยังไม่แน่ใจว่า เรื่องราวจะไปในทิศทางใดและใครจะได้เป็นผู้ดูแลในโปรเจกต์นี้ 

Tags: , , , , ,