ถือเป็นประเด็นร้อนมาตลอดในช่วงที่ผ่านมา สำหรับการเข้าร่วมจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลของ เอมีเลีย คลาร์ก (Emilia Clarke) ซึ่งเป็นที่พูดถึงทั้งในกลุ่มสาวกมาร์เวล และแฟนคลับของนักแสดงสาวชาวอังกฤษคนนี้มาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2021 ก่อนที่จะได้รับการยืนยันในเดือนกันยายน 2022 เมื่อเทรลเลอร์ตัวแรกของซีรีส์ Secret Invasion ที่วางแผนออกฉายบนแพลตฟอร์ม Disney+ Hotstar ถูกปล่อยออกมา
อย่างไรก็ดี ในขณะนั้น รายละเอียดลึกลับเกี่ยวกับตัวละครที่เอมีเลียจะมารับบท ยังคงถูกปิดเป็นความลับสุดยอด ทำให้มีการคาดเดาว่า เธอจะรับบทเป็น อะบิเกล แบรนด์ (Abigail Brand) มิวแทนต์สาวหัวหน้าทีมดั้งเดิมของหน่วย S.W.O.R.D. ที่สังกัดหน่วยงานสายลับ S.H.E.I.L.D. หรือไม่ก็เวอแรงกี (Veranke) ราชินีชาวสครัลล์ ผู้ปลอมตัวเป็นสไปเดอร์วูแมนและเป็นวายร้ายตัวหลักของ Secret Invasion ตามเนื้อเรื่องเดิมในคอมมิค
จนกระทั่งช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา มาร์เวลสตูดิโอเปิดเผยว่า คลาร์กจะมารับบทไกอาห์ (G’iah) ลูกสาวของทาลอส (Talos) สปายชาวสครัลล์ ซึ่งเป็นที่จดจำจากภาพยนตร์ Captain Marvel (2019) หากยังพอจำกันได้ เราเคยได้เห็นไกอาห์เวอร์ชันเด็กมาแล้วในฉากสั้นๆ ช่วงท้ายของหนัง ที่ทาลอสได้เจอครอบครัวพร้อมหน้ากันอีกครั้ง โดยใน Secret Invasion คลาร์กจะมารับบทเด็กสาวชาวสครัลล์คนนั้นในเวอร์ชันที่โตขึ้นแล้ว
เรื่องนี้ คลาร์กให้สัมภาษณ์กับ Yahoo Entertainment เกี่ยวกับบทบาทของเธอ รวมถึงความแตกต่างระหว่างจักรวาลมาร์เวลกับจักรวาลภาพยนตร์อันยอดเยี่ยมของแฟรนไชส์อื่นๆ ที่เธอเคยร่วมเป็นส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จักรวาลเกมออฟโธรนส์ (Game of Thrones) ที่ทำให้เธอโด่งดังจนเป็นที่รู้จักผ่านบท แดเนริส ทาร์แกเรียน (Daenerys Targaryen) มารดาแห่งมังกรผู้ไม่มอดไหม้ ตัวละครหลักจากซีรีส์ฮิตเรื่องดังกล่าว
“[มาร์เวล] ต้องเป็นจักรวาลที่ดีที่สุดอยู่แล้ว มันเป็นราชนิกุลแห่งแฟรนไชส์ได้ด้วยตัวของมันเอง ซึ่งอยู่ในระดับที่แยกกันกับจักรวาลอื่นๆ โดยสิ้นเชิง …เกมออฟโธรนส์ถือเป็นประสบการณ์ที่พิเศษสำหรับฉัน ในแง่ที่ว่าตลอดเวลาที่ถ่ายทำ เราไม่รู้เลยว่ากำลังทำบ้าอะไรกันอยู่ แต่อยู่ๆ มันก็ดังเป็นพลุแตก แล้วเราก็เติบโตไปกับมัน ส่วนมาร์เวลนี่ เรารู้ตั้งแต่วินาทีที่ก้าวเข้ามาเลยก็ว่าได้ ว่าทุกคนที่มาร่วมจักรวาลนี้ต้องเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยมอยู่ก่อนแล้ว”
คำตอบของเธอก็ได้จุดประกายบทสนทนาในหมู่แฟนๆ ของเธอ เกี่ยวกับประสบการณ์ในกองถ่ายเกมออฟโธรนส์ ที่รู้กันดีกว่าไม่เป็นมิตรกับนักแสดงหญิงสักเท่าไรในช่วงซีซันต้นๆ คำวิจารณ์หนึ่งที่ทีมสร้างภายใต้การนำของสองผู้กำกับดูโอ เดวิด เบนิออฟฟ์ (David Benioff) และดี.บี. ไวส์ (D.B. Weiss) ได้รับอย่างหนักหน่วงที่สุดเกี่ยวกับซีรีส์มหากาพย์เรื่องนี้ ก็หนีไม่พ้นเรื่องความโป๊เปลือยและฉากร่วมรัก (หรือข่มขืน) อย่างโจ๋งครึ่มที่ดูเหมือนจะใส่มาเพื่อความสะใจ และไม่ได้จำเป็นหรือส่งผลต่อพัฒนาการของเนื้อเรื่องเสมอไป
ส่วนหนึ่งเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่แปลกใจที่คลาร์กจะ ‘อวย’ มาร์เวลหรือแฟรนไชส์อื่นมากกว่า เมื่อพิจารณาวิธีการทำงานอันบกพร่องของทีมงานในการดูแลนักแสดงที่ต้องแสดงฉากเปลือยในเกมออฟโธรนส์ ประการแรกคือไม่มีการแจ้งเรื่องฉากนู้ดให้เธอรู้ก่อนหน้าที่เธอจะตอบตกลงรับบท คลาร์กเล่าว่า เธอต้องแอบไปร้องไห้ก่อนถ่ายฉากนู้ดอยู่บ่อยครั้ง
“แต่ฉันเป็นแค่เด็กจบใหม่สดๆ ร้อนๆ จากโรงเรียนศิลปะการแสดง ฉันจึงพยายามคิดแค่ว่ามันเป็นงาน ถ้ามันถูกเขียนไว้ในบทก็แปลว่ามันจำเป็นจริงๆ มันคงต้องเป็นแบบนี้ ฉันจะต้องทำให้มันเวิร์กให้ได้ และทุกอย่างจะต้องออกมาเรียบร้อยดี” คลาร์กในวัยเพียง 23 ปีปลอบตัวเอง
สิ่งที่ทำให้แฟนๆ รู้สึกเดือดที่สุด คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะถ่ายทำฉากที่ คาล โดรโก (Khal Drogo) ข่มขืนแดเนริสในคืนวันแต่งงาน คลาร์กเล่าว่า เจสัน โมโมอา (Jason Momoa) ที่รับบทโดรโกร้องไห้หนักยิ่งกว่าตัวเธอเองเสียอีก เมื่อเธอไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง ก่อนจะตะโกนบอกทีมงานว่า “ใครก็ได้เอาเสื้อคลุมมาให้เธอทีสิวะ! ไม่เห็นหรือว่าเธอกำลังตัวสั่น!”
หลังจากซีรีส์ทั้ง 8 ซีซันจบลง คลาร์กเปิดเผยกับนิตยสารวาไรตี (Variety) ว่า ฉากเปลือยในเกมออฟโธรนส์ได้สร้างภาพจำบางอย่างของเธอในฮอลลีวูด ทำให้เธอยังคงถูกกดดัน หรือเข้าใจผิดว่าเธอโอเคที่จะถ่ายฉากล่อแหลม โชคดีที่เธอได้สั่งสมความรู้และประสบการณ์มาระยะหนึ่ง ทำให้ปัจจุบันเธอรู้ว่า ควรวางตัวและสื่อสารอย่างไรให้ผู้กำกับและทีมงานเคารพในขอบเขตที่เธอวางเอาไว้
หนึ่งในโปรเจกต์ที่เธอปฏิเสธไปแทบจะทันที แม้จะรู้จักและนับถือผู้กำกับเจ้าของโปรเจกต์ คือบท อนาสตาเซีย สตีล (Anastasia Steele) นางเอกเรื่อง Fifty Shades of Grey ภาพยนตร์แนวรักดราม่าอีโรติก เกี่ยวกับความสัมพันธ์วาบหวามและรสนิยมทางเพศแบบ BDSM ของเศรษฐีหนุ่มและนักศึกษาสาว
“ฉันเก๋าเกมขึ้นเยอะ มากพอที่จะรู้ว่าตัวเองสบายใจหรือโอเคกับอะไร บางครั้งก็เกิดการต่อสู้ขนาดย่อมๆ ขึ้นในกองถ่ายที่ฉันต้องคอยบอกว่า ‘ไม่ เราจะปิดผ้าห่มไว้แบบนี้แหละ’ แล้วพวกเขาก็สวนกลับมาว่า ‘คุณอยากทำให้แฟนๆ เกมออฟโธรนส์ของคุณผิดหวังหรือ’ จนฉันต้องบอกพวกเขาว่า ‘ไปตายซะ’
“ครั้งสุดท้ายที่ฉันต้องแก้ผ้าหน้ากล้อง มันผ่านมานานมากแล้ว แต่คำถามเรื่องฉากนู้ดก็ยังคงเป็นคำถามที่คนถามฉันบ่อยที่สุด เพียงเพราะฉันเป็นผู้หญิง และนั่นมันน่ารำคาญฉิบหาย ฉันเบื่อและเหนื่อยที่จะต้องมาตอบคำถามแบบนี้ซ้ำๆ ตอนนั้นฉันยอมทำไปก็เพื่อบท ไม่ใช่เพื่อให้ผู้ชายที่ไหนไม่รู้มาดูนมนะ ให้ตายเถอะ เพราะอย่างนี้ ฉันถึงเล่นบท [อนาสตาเซีย] ไม่ได้”
หลายคนอาจมองว่าการถูกจดจำด้วยภาพตัวละครที่โดดเด่นอย่าง เดแนริส ทาร์แกเรียน แห่งเกมออฟโธรนส์นั้นมีข้อดีมากมาย อีกทั้งยังประตูบานสำคัญที่ทำให้เอมีเลีย คลาร์ก มีที่ทางในฐานะดาราแนวหน้าของฮอลลีวูด แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นเหมือนเพดานแก้วที่จำกัดความเป็นไปได้ในการที่นักแสดงคนหนึ่งจะท้าทายตนเอง และออกไปสำรวจบทบาทอื่นๆ ที่แตกต่างและหลากหลายมากขึ้น
แม้จะยังไม่แน่ใจว่าบทบาท ‘ไกอาห์’ ซึ่งรับบทโดยเอมีเลีย คลาร์กจะออกมาเป็นอย่างไร แต่แฟนๆ ที่ติดตามเธอมาตั้งแต่สมัยที่ยังเล่นเป็นแม่มังกร ล้วนเอาใจช่วยให้เธอได้ปลดล็อกศักยภาพและประสบการณ์ใหม่ๆ ในการเดินทางร่วมกับอีกหนึ่งแฟรนไชส์ยักษ์ใหญ่อย่างมาร์เวล
อ้างอิง
https://screenrant.com/emilia-clarke-secret-invasion-marvel-best-franchise/
https://variety.com/2019/tv/news/emilia-clarke-nude-scenes-post-game-of-thrones-1203409730/
https://www.vogue.co.uk/arts-and-lifestyle/article/emilia-clarke-game-of-thrones-nude-scenes
https://www.digitalspy.com/tv/ustv/a43480873/emilia-clarke-marvel-character-revealed/
https://www.thelist.com/803311/the-huge-50-shades-of-gray-role-emilia-clarke-turned-down/
Tags: Game of Thrones, ฮอลลีวูด, Entertainment, Secret Invasion, MCU, เอมีเลีย คลาร์ก, จักรวาลมาร์เวล, เกมออฟโธรนส์, Marvel, ฉากนู้ด, Marvel Cinematic Universe, เจสัน โมโมอา