สำหรับ ภวังค์รัก (Concrete Clouds) คือภาพยนตร์ในปี 2557 จากฝีมือการกำกับและเขียนบทของ ลี ชาตะเมธีกุล บอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ของ มัท (แสดงโดย อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม) ทราย (แสดงโดย เจนสุดา ปานโต) นิค (แสดงโดย ประวิทย์ ฮันสเตน) และปูเป้ (แสดงโดย อภิญญา สกุลเจริญสุข) โดยมีพื้นหลังเป็นช่วงยุค 2540s ที่ประเทศไทยเผชิญกับกับ ‘วิกฤตต้มยำกุ้ง’ หรือภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่แตก 

เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อมัทกลับมาประเทศไทยเพื่อจัดงานศพของพ่อ และเตรียมพานิค ผู้เป็นน้องชายย้ายไปอยู่ด้วยที่สหรัฐอเมริกา การกลับมาครั้งนี้ทำให้มัทพบกับทราย แฟนเก่าของเขาอีกครั้ง ในขณะเดียวกัน นิคก็ได้ตกหลุมรักปูเป้ เพื่อนผู้หญิงแถวบ้าน ทำให้ ภวังค์รักค่อยๆ ก่อร่างท่ามกลางความสิ้นหวังจากวิกฤตเศรษฐกิจ

หลังจากเข้าฉาย ในปีนััน ภวังค์รัก ได้รับรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ ครั้งที่ 24 ในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ในปี 2558 ได้รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากคมชัดลึกอวอร์ด ครั้งที่ 12 และรางวัลตาร์พิกส์ไทยฟิล์มอวอร์ดส์ ครั้งที่ 12 ในสาขาภาพยนต์ยอดเยี่ยม และนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ประจำปี 2557 อีกทั้งเพลงประกอบภาพยนตร์อย่างเพลงลืมไม่หมด โดย ติ๊ก ชิโร่ (มนัสวิน นันทเสน) ที่นำมาร้องใหม่โดยวงสมเกียรติ ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน

แม้ในวันนี้สามารถชมภวังค์รักได้แล้วบนสตรีมมิงอย่างเน็ตฟลิกซ์ (Netflix) แต่ย้อนกลับไปช่วงปีที่ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นที่พูดถึงในวงกว้าง จากการได้รับรางวัลการันตีคุณภาพมากมายหลายเวที ภาพยนตร์รางวัลเรื่องนี้กลับไม่ได้ฉายอย่างกว้างขวางทั่วประเทศ ถูกจำกัดเพียงโรงภาพยนตร์ในกรุงเทพฯ กระทั่งการมาของสตรีมมิง แพลตฟอร์มดูภาพยนตร์ออนไลน์ ก็ไม่มีเจ้าไหนมีภาพยนตร์เรื่องนี้ให้ดู มีเพียงตัวอย่างภาพยนตร์ในยูทูบเพียงไม่กี่นาที เรียกความสนใจให้กับคนไทยในต่างจังหวัดที่ไม่มีโอกาสได้ดูยาวนานถึง 10 ปี 

น่าสนใจว่า ปี 2557 ในยุคอินเทอร์เน็ตเข้าถึงได้ง่ายแล้ว คนสามารถหาดูหาฟังสิ่งที่ชอบหรือสนใจตามรสนิยม แต่สำหรับคอภาพยนตร์นอกกระแส โดยเฉพาะในต่างจังหวัดก็ยังเข้าถึงการชมได้ยากอยู่ดี  ไม่ใช่เพียงเรื่องภวังค์รัก แต่รวมถึงภาพยนตร์นอกกระแสเรื่องอื่นๆ แม้จะทราบได้ว่าจะมีภาพยนตร์เรื่องไหนเข้าฉาย นักแสดงเป็นใครบ้าง โครงเรื่องเป็นอย่างไร ดูทีเซอร์ได้ในยูทูบ ได้อ่านบทสัมภาษณ์นักแสดง แต่กลับหาดูทั้งเรื่องได้แค่โรงภาพยนตร์ในกรุงเทพฯ เท่านั้น ครั้นจะรอให้ลงสตรีมมิง ก็รอนานแสนนาน และสุดท้ายอาจว่างเปล่า เป็นยุคที่มีความลักลั่นของการเข้าถึงสื่ออยู่ไม่น้อย

เป็นเวลาหลายปีที่คนไทยเฝ้ามองว่าภาพยนตร์นอกกระแสจะไปได้ไกลแค่ไหน หลายเรื่องได้ไปฉายถึงเทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศและคว้ารางวัลกลับมา สร้างความภาคภูมิใจให้กับคอภาพยนตร์ไทย บนความจริงที่ว่า ภาพยนตร์นอกกระแสหรือภาพยนตร์อินดี้ไม่เคยเข้าโรงภาพยนตร์ต่างจังหวัด ทั้งที่มีคนต่างจังหวัดไม่น้อย ที่ชอบภาพยนตร์แนวนี้กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป 

สำหรับผู้เขียนเองหลังจากดูจบก็ตั้งคำถามกับตัวเองว่า หากได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้เมื่อสิบปีก่อน ชีวิตจะเปลี่ยนไปไหม หรือจะประกอบสร้างให้เราเป็นคนอย่างไรในวันนี้ และพบว่า ประเด็นสำคัญไม่ใช่การตรึกตรองชีวิตจิตวิญญาณตนเอง แต่กลับส่องสะท้อนขึ้นไปยังโครงสร้างสังคมตลอดเวลา

คนต่างจังหวัดถูกบังคับกลายๆ ให้ต้องเสพสื่อเหมือนกัน จากการประเมินของนักลงทุน “สิ่งนี้คนต่างจังหวัดไม่ดูหรอก” หรือ “เรื่องแบบนี้คนต่างจังหวัดไม่ชอบหรอก” แต่หากพิจารณาอีกครั้งจะพบว่า คนต่างจังหวัดไม่มีโอกาสได้เสาะหาความชอบที่แท้จริง เพราะรอบตัวไร้ซึ่งความหลากหลาย และความไม่หลากหลายก็เกิดจากการถูกมอบให้แค่สิ่งที่คิดว่าขายได้ในต่างจังหวัด หลายคนจึงต้องขวนขวายหรือทะเยอทะยานออกไปข้างนอก ถึงจะสามารถได้ดูชมสิ่งที่ต้องการ

ในช่วงเวลาที่ผ่านมาจะเห็นการเกิดขึ้นของร้านเล็กๆ ที่ฉายภาพยนตร์เหล่านี้ในต่างจังหวัด เป็นคอมมูนิตีขนาดย่อมๆ จากความพยายามของคนต่างจังหวัดที่อยากให้คนบ้านเดียวกันมีโอกาสดูภาพยนตร์ที่อยากดูใกล้บ้าน

สถานการณ์ที่คนต่างจังหวัดไม่ได้ดูภาพยนตร์ เชื่อว่าคงเป็นความเจ็บช้ำของคนทำภาพยนตร์ไม่ต่างกัน แต่โชคยังเข้าข้างที่มีสตรีมมิงเข้ามาช่วยให้คนเข้าถึงภาพยนตร์ได้ง่ายขึ้น

ดังนั้น ภวังค์รักจึงเป็นภาพยนตร์รางวัลในภวังค์ ที่หลายคนหวังจะได้ดูเสมอมานานถึง 10 ปี ทว่ายังมีภาพยนตร์นอกกระแสเรื่องอื่นๆ ที่อาจพลัดหลงจากกระแสความทรงจำของคนไปแล้ว จนอาจถูกพรากประสบการณ์ที่จะดูภาพยนตร์เรื่องนั้นไปตลอดชีวิตก็เป็นได้

Tags: , , , , ,