หลังทราบว่าติดโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาพยายามสร้างภาพแสดงความเข้มแข็งของตนเอง เขาทวีตภาพตัวเองกำลังนั่งทำงานจากโรงพยาบาล และล่าสุด คืนอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม มีภาพเขาสวมหน้ากากอนามัยในรถยนต์ประจำตำแหน่งที่ขับผ่านกลุ่มผู้สนับสนุนตนเอง พร้อมกับโบกมือทักทายที่หน้าโรงพยาบาล

การปรากฏตัวของทรัมป์ ขณะที่กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลถูกวิจารณ์จากหลายฝ่ายว่า แสดงถึงความไม่เข้าใจอันตรายของโควิด-19 ว่าแพร่กระจายได้ง่ายและรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต อีกทั้งยังสร้างความเดือดร้อนให้กับเจ้าหน้าที่ที่ต้องดูแลเขา เขาสวมหน้ากากอนามัย แต่ก็อยู่ในความดูแลของหน่วยรักษาความปลอดภัย ในรถที่กันกระสุนก็ยิ่งทำให้โอกาสติดเชื้อมากขึ้น โจนาธาน ไรเนอร์ ศัลยแพทย์ประจำมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตันทวีตข้อความว่า นี่คือการไร้ความรับผิดชอบระดับสูงสุด การนั่งรถเล่นของเขากำลังทำให้ชีวิตของหน่วยรักษาความปลอดภัยเสี่ยงต่ออันตราย แพทย์ที่ต้องสัมผัสกับผู้ป่วยโควิด-19 ยังต้องสวมชุด PPE

เจมส์ ฟิลิปส์ หัวหน้าแพทย์ฉุกเฉิน มหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตันและแพทย์ประจำศูนย์การแพทย์วอลเทอร์ รีด ทวีตข้อความว่า “ทุกคนในรถคันนี้ต้องกักตัวเอง 14 วันโดยไม่จำเป็น เพียงแค่ประธานาธิบดีต้องการขับรถผ่านผู้สนับสนุนเขา พวกเขาอาจจะป่วย อาจจะเสียชีวิต เพื่อละครการเมือง คำสั่งของทรัมป์ทำให้ชีวิตของพวกเขาต้องอยู่ในความเสี่ยง นี่คือความวิกลจริต”

ทรัมป์วัย 74 ปี และมีน้ำหนักตัวมากเกิน ทำให้เขาเสี่ยงที่จะมีอาการแทรกซ้อนรุนแรง แพทย์ประจำทำเนียบขาว ฌอน คอนลีย์ แถลงสรุปอาการป่วยล่าสุดที่โรงพยาบาลทหารวอลเทอร์ รีด เนชั่นแนล กรุงวอชิงตัน ดีซีหลังจากตรวจเมื่อวันที่ 4 ตุลาคมว่า ระดับอ็อกซิเจนของทรัมป์ลดลงมาต่ำกว่าระดับปกติ 2 ครั้ง และต้องได้รับอ็อกซิเจนอย่างน้อย 1 ครั้ง หลังจากตรวจพบว่าติดโควิด-19 เขาได้รับยาเดซาเมธาโซน ยาสเตอรอยด์ซึ่งใช้รักษาผู้ป่วยที่มีอาการหนัก คาดว่าเขาจะสามารถออกจากโรงพยาบาลได้เร็วที่สุดในวันที่ 5 ตุลาคม

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา การสื่อสารเกี่ยวกับอาการของทรัมป์ค่อนข้างสับสน คอนลีย์กล่าวถึงเรื่องที่มาร์ค มีโดว์ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาวแถลงเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมว่า อาการของทรัมป์ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาน่ากังวลเป็นอย่างยิ่ง และช่วงเวลา 48 ชั่วโมงต่อมาสำคัญอย่างยิ่ง คอนลีย์บอกว่าน่าจะเป็นความเข้าใจผิด

คอนลีย์กล่าวว่า ทรัมป์มีไข้สูง ระดับอ็อกซิเจนต่ำกว่า 94% ขณะที่คนทั่วไปอยู่ที่ 95% ต่อมาวันที่ 3 ตุลาคม ระดับอ็อกซิเจนของเขาตกลงต่ำกว่า 93% ทรัมป์ได้รับอ็อกซิเจนอย่างน้อย 1 ครั้ง หลังจากตรวจเจอเชื้อ ก่อนหน้านี้ทำเนียบขาวรายงานว่าทรัมป์มีแสดงอาการเล็กน้อยเท่านั้น

มีบุคคลรอบตัวทรัมป์จำนวนมากที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 แล้ว โดยเฉพาะผู้ที่เข้าร่วมงานประกาศเสนอชื่อผู้พิพากษาเอมี คอนีย์ บาร์เร็ตต์เป็นผู้พิพากษาสูงสุด เมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ทำเนียบขาว ซึ่งถือว่าเป็นเหตุการณ์ ‘ซูเปอร์ สเปรดเดอร์’  มีอย่างน้อย 7 คนที่ตรวจพบเชื้อ ทั้งที่ปรึกษาที่ใกล้ชิดกับทรัมป์คือ โฮป ฮิคส์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นคนแรกที่แสดงอาการ บิลล์ สเตเปียน ผู้จัดการแคมเปญเลือกตั้ง และเคลลี่แอนน์ คอนเวย์ อดีตที่ปรึกษาของทำเนียบขาว รวมทั้งนิโคลัส ลูนา ผู้ช่วยส่วนตัวของทรัมป์

ขณะเดียวกันหลายฝ่ายยังตั้งคำถามต่อการติดตามหาผู้ที่เข้าข่ายว่าอาจจะติดเชื้อของทำเนียบขาวว่า เชื่องช้าเกินไป เพราะดูเหมือนว่าผู้ที่เข้าร่วมงาน พบและมีโอกาสสัมผัสกับทรัมป์แต่ละคนต้องกักตัวเองหรือ ตรวจหาเชื้อเอง โดยไม่ได้รับคำแจ้งเตือนจากทำเนียบขาว จนถึงเช้าวันที่ 4 ตุลาคม ทำเนียบขาวก็ยังไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลที่รวบรวมไว้ 

ที่มา:

https://www.bbc.com/news/election-us-2020-54413536

https://edition.cnn.com/2020/10/04/politics/donald-trump-coronavirus-alternate-reality/index.html

https://www.theguardian.com/us-news/2020/oct/04/trump-coronavirus-oxygen-condition-doctors-white-house

ภาพ: REUTERS/Cheriss May