ความมืดกำลังเข้ามาแทนที่ความสว่างของท้องฟ้า อาจเป็นเวลาเดียวกับที่คนเราใกล้เริ่มการสังสรรค์ในรูปแบบของตัวเอง และถ้าใครกำลังมองหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สีอำพันหลายเฉดเย็นฉ่ำกับอาหารจานเด็ดสำหรับมื้อเย็น นั่งเล่นเพลินใจจนถึงดึกดื่นในบรรยากาศผ่อนคลายคล้ายบ้านนั้น ‘Dok Kaew House Bar’ คงเป็นอีกสถานที่ตอบโจทย์ข้อนี้ได้ดีไม่น้อย
คนในชุมชนซอยศาสนา พระราม 6 ซอย 28 กรุงเทพฯ พากันเรียกบ้านไม้สักทองเก่าทรงขนมปังขิง อายุราว 80 ปี บริเวณต้นซอยว่า ‘บ้านดอกแก้ว’ เพราะมีต้นแก้วสูงราวตึกสามชั้นคู่กันอยู่ริมรั้ว มันมักส่งกลิ่นหอมไปทั่ว โดยเฉพาะในช่วงฝนพรำ
มีนาคมที่ผ่านมา หลังบ้านดอกแก้วถูกปล่อยทิ้งไว้ไม่มีผู้อยู่อาศัยมาสักพักใหญ่ พจน์-มิ้นท์-บะหมี่-เบย์ สี่หุ้นส่วนใหญ่ที่พบกันเพราะต่างหลงใหลคราฟต์เบียร์ รวมตัวกันเช่าบ้านดอกแก้วแล้วเปิดเป็นร้านขายคราฟต์เบียร์ ดึงดูดใครต่อใครเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย
ทันทีที่เราก้าวเข้าไปในรั้วบ้านดอกแก้ว ก็ถูกทักทายด้วยการบอกให้ถอดรองเท้าไว้มุมบันไดก่อนเข้าไปยังตัวบ้าน พร้อมเพลงสากลเปิดคลอในความดังระดับกำลังดีโดยไม่ต้องตะเบ็งเสียงคุยกับคนที่มาด้วย และโหลน้ำอุทัยทิพย์วางต้อนรับไว้ให้ทุกคนบริการตัวเอง
“เราค่อนข้างใส่ใจกับรายละเอียดต่างๆ เพราะที่นี่เป็นบ้านเก่า มีทั้งเฟอร์นิเจอร์ของเจ้าของที่ให้เช่าและทยอยซื้อเพิ่มกันเข้ามา รั้วบ้านก็ไม่ได้ทาสีอะไรใหม่ เราจึงต้องดูแลเป็นพิเศษ ปัดกวาดเช็ดถูบ่อยๆ เพื่อไม่ให้มันดูโทรมเกินไป” มิ้นท์ หนึ่งในหุ้นส่วนบอกกับเรา และทำให้รู้ถึงที่มาของป้ายบอกลูกค้าให้ถอดรองเท้าก่อนเข้าตัวบ้าน
ร้านนี้จัดสรรพื้นที่ออกเป็นหลายโซนแต่ทุกโซนก็เชื่อมโยงถึงหมด โซนหน้าบ้านถูกจัดให้เป็นลานกีฬาเปตอง ส่วนในตัวบ้านซอยย่อยออกเป็นระเบียงด้านหน้า หน้าบาร์ และห้องอีกสองห้องรวม ถึงบริเวณข้างบ้าน มีโต๊ะ เก้าอี้ไว้รองรับลูกค้าที่มาเป็นคนเดียวและมากันเป็นกลุ่ม
ดูเหมือนเป็นที่รู้กันดีของขาประจำว่าเมื่อมาถึงก็ถอดรองเท้าแล้วเดินเข้าไปเลือกคราฟต์เบียร์ที่ต้องการ จ่ายเงินจากนั้นก็เดินชนแก้วชนขวดกันไปตามแต่ละอารมณ์ที่ถนัด ส่วนสำหรับคนที่อยากไปลองอะไรใหม่ๆ ก็ไม่ต้องห่วง เพราะทุกคนในร้านยินดีแนะนำเกี่ยวกับการดื่มคราฟต์เบียร์ ชวนคุยสัพเพเหระ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมชวนลูกค้าร่วมสนุก ลุ้นคราฟต์เบียร์และลุ้นเสื้อกัน ไม่มีเหงา
“คอนเซ็ปต์ของบ้านดอกแก้วคือ feel like home เหมือนเราที่อยากแต่งตัวง่ายๆ กินง่ายๆ แต่อยากกินอะไรดีๆ กัน ที่นี่ก็จะขายคราฟต์เบียร์ทุกอย่างที่ดี ทั้งไทย ทั้งนอก มันจะมาจากไหนของโลกก็ได้ เราไม่ปิดกั้น เพราะมองว่าการแข่งขันกันจริงๆ จะทำให้วงการนี้โตขึ้น เรามองเห็นความเป็นไปได้ทางธุรกิจของคราฟต์เบียร์ แต่ทุกวันนี้มันต่อสู้กับอะไรไม่รู้ในสังคมไทย” พจน์ หุ้นส่วนของบ้านดอกแก้วอีกคนบอกกับเรา
เมื่อเป็นเบียร์ที่มาจากคนธรรมดา เป็นอิสระจากนายทุนใหญ่ ก็กลับถูกจำกัด ราวกับว่าเราอยู่ในประเทศที่มีตัวเลือกในการดำรงชีวิตน้อยเกินไป
ที่นี่จึงมีคราฟต์เบียร์ทั้งเบียร์ขวดและเบียร์สดหลากรส หลายชาติ มากความเข้มของระดับแอลกอฮอล์ ยกตัวอย่างBAVARIA, FLYINGDOG, LA TRAPPE DUBBEL, PASTEUR STREET, PRAIRIE BOMB ราคาเริ่มต้นที่ 120 บาท และอาคารคาว ประเภทปิ้งย่าง ทอด ต้ม ยำ ผัด ลวก ในราคาสมปริมาณ มีให้สั่งแล้วเลือกว่าจะกินเป็นกับแกล้มหรืออิ่มท้องนานไปจนถึงเช้าวันใหม่ ส่วนความพิเศษของทั้งหมดก็คือความเป็นกันเองที่เห็นได้ชัดเจน ท่ามกลางร้านคราฟต์เบียร์อื่นๆ ที่มักดูหรูหรา
“ไม่ได้บอกว่าเราเป็นคนหัวแปลกนะ แต่การอยู่นอกรอบมันก็ดีเหมือนกัน ลองนึกดูว่าจะมีร้านไหนบ้างที่มาโยนเปตองกันหน้าบ้าน อันที่จริงเราจะหาโต๊ะพูลมาวางก็ได้ แต่การโยนเปตองมันก็น่ารักดี” พจน์บอกอีกครั้ง
คำพูดของเขาและบ้านดอกแก้วทำให้เราเห็นตัวถึงเลือกในการดำเนินชีวิตที่มากกว่าเก่า และเชื่อว่าถ้าคุณได้ลิ้มลองรสชาติแห่งการได้เลือกและเลือกได้นี้ก็คงจะเสพติดไม่ต่างกัน
ถ่ายภาพโดย ขจรศิริ อุ่ยมานะชัย
FACT BOX:
แต่เดิมหุ้นส่วนของบ้านดอกแก้วเคยเปิดร้านขายคราฟต์เบียร์ชื่อ Mystic Rooftop เป็นร้านเบียร์บนดาดฟ้าชั้นที่ 4 ถนนประดิพัทธ์ และเคยจัดงานเสวนา ‘คราฟต์เบียร์ไทย Why Not?’ ร่วมกับ ‘ขบวนการเสรีเบียร์’ แล้วถูกตำรวจขอยกเลิกงาน อ้างเหตุความมั่นคงของอาคาร ก่อนย้ายทำเลใหม่มาตั้งอยู่ที่ 71 ซอยศาสนา พระราม 6 ซอย 28 พญาไท กรุงเทพฯ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ facebook/@DokKaewHouseBar
Tags: Craft Beer, คราฟต์เบียร์, ร้านอาหาร