จุดเริ่มต้นย้อนไปไกลถึงปี ค.ศ.1933 ดินแดนในฝันนาม ‘แชงกรีลา’ ถูกพรรณาโดย Mr.James Hilton ในวรรณกรรมโด่งดังของเขาเรื่อง ‘The Lost Horizon’ หนังสือล้ำจินตนาการเล่าเรื่องนักบินชาวอังกฤษ ช่วงสงครามโลกครั้งที่สองได้พาเครื่องบินแลนดิงลงอย่างไม่ได้ตั้งใจในสถานที่แห่งหนึ่ง เมืองในอุดมคติที่ผู้คนมีน้ำใจเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน ที่สำคัญธรรมชาติงดงามสุดๆ สงบสุขดั่งสวรรค์  ดินแดนล้นจินตนาการแห่งนี้ ได้ปลุกให้คนมุมหนึ่งของโลก(ในยุคนั้น) ออกตามหา และเขาเล่ากันว่า มันอยู่ในแถบทิเบต ใกล้ๆ กับจีนแผ่นดินใหญ่

The Lost Horizon โดย Mr.James Hilton

  ในยุคก่อนอินเทอร์เน็ตเฟื่องฟู การเดินทางไปชม Unseen ธรรมชาติแห่งนี้ คงไม่ง่ายนัก แต่เราในฐานะของประชากรยุคที่มี Google เป็นหนึ่งในเพื่อนสนิท คงไม่ยากถ้าจะตามหาดินแดนใน The Lost Horizon และก็ค้นพบว่ามันไม่ยากเกินไปเยือน เพียงเดินทางผ่านมณฑลยูนนาน ประเทศจีน

ยิ่งหาข้อมูล ก็ยิ่งทำให้ทริปนี้ขยายขอบเขตไปเรื่อยๆ เราพบว่า ระหว่างทางยังมีน้ำจิ้มเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติงดงามมากมายให้ได้เพลิดเพลิน จากที่ตั้งใจจะไปให้ถึงแชงกรีลาที่เดียว เราจึงเปลี่ยนโฟกัสใหม่ ปักหมุดหมายใน 3 เมืิอง

เหมือนมื้ออาหารที่เราตั้งใจจะทานให้อิ่มแค่ 1 จาน แต่กลับพบจุดแวะแห่งความสำราญมื้อใหญ่  โดยวางแผนลัดเลาะเส้นทางธรรมชาติเริ่มจากเมืองต้าหลี่ แวะที่แชงกรีลา และปิดท้ายฟินาเล (ซึ่งจัดว่าเด็ด) ที่ลี่เจียง แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ เราต้องไปตั้งหลักที่สนามบินใหญ่ของมณฑลนี้กันก่อน

แชงกรีลาช่วงฤดูหนาวมีหิมะปกคลุม

จากกรุงเทพฯ สายการบินประจำชาตินำเราลงที่ท่าอากาศยานฉางสุ่ย คุนหมิง (Changshui International Airport) เท้าความให้ฟังกันสักหน่อย มณฑลยูนนานแห่งนี้ ตั้งอยู่ด้านตะวันตกเฉียงใต้ของจีน โอบล้อมด้วยภูเขาไม่มีทางออกทางทะเล นับเป็นประตูของจีนสู่เอเชียใต้และตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากอุตสาหกรรมยาสูบซึ่งมีผลผลิตเป็นอันดับหนึ่งแล้ว ยังดังเรื่องแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ และวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ (เราก็เพิ่งทราบว่าคนไทยนี่เอง คือนักท่องเที่ยวอันดับ 1 ของที่นี่)

สำหรับเมืองหลักของมณฑลยูนนานก็คือคุนหมิงได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘นครแห่งฤดูใบไม้ผลิ’ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็จะมีดอกไม้ต้นไม้หลากสีสัน (แต่เรามาในฤดูที่ค่อนข้างหนาว จึงเห็นแต่ต้น) พื้นที่หลักของเมืองเริ่มถูกกลืนด้วยอาคารสูงสมัยใหม่ เราพักนอนเอาแรง 1 คืน ก่อนตื่นเช้าตั้งแต่ไก่โห่ ไปสัมผัสธรรมชาติงามๆ บนเส้นทางทริปนี้กัน

เมืองโบราณต้าหลี่

#ต้าหลี่

เราต้อนรับแสงแรกของวันเมื่อเดินทางมาที่จุดหมายแรก ‘ต้าหลี่’ เมืองหลวงของเขตปกครองตนเองชนชาติไป๋ เมืองนี้มีชนกลุ่มน้อยอาศัยอยู่กว่า 20 เชื้อชาติ มีเอกลักษณ์การแต่งกายคล้ายๆ พี่น้องชาวเขาในภาคเหนือของไทย เดิมที่นี่ชื่อ หนันเจ้า หรือ ที่คนไทยรู้จักในนามอาณาจักรน่านเจ้า จากนั้นชนชาติไป๋เข้ามาปกครองต่อ และในภายหลังได้ถูกกองทัพของกุบไลข่านทำลายลง แต่ร่องรอยของอารยธรรมเก่าแก่ของต้าหลี่ยังคงปรากฏให้เห็นจนถึงทุกวันนี้

 เมืองโบราณต้าหลี่ 2


เมืองโบราณต้าหลี่ 3

จุดเด่นของเมืองแห่งนี้คือ ต้าหลี่กู่เฉิง หรือ เมืองโบราณต้าหลี่ เมืองแห่งนี้มีบรรยากาศอันเงียบสงบ  รอบเมืองเราจะพบซากเมืองเก่า กำแพงโบราณ และหลักฐานทางประวัติศาสตร์สำคัญ ศิลาหนันเจาสูง 3 เมตร สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 766 ซึ่งบันทึกระบบการปกครองและเศรษฐกิจของรัฐไว้

โค้งแรกแม่น้ำแยงซีเกียง

ระหว่างการเดินทางในต้าหลี่เราจะพบแม่น้ำแยงซี หรือ ฉางเจียงตี้ยี่กวน ทัศนียภาพโค้งแรกของแม่น้ำแยงซี งดงามน่าประทับใจ (มองจากมุมสูงก็เสียวได้ใจ) เป็นภาพแม่น้ำที่ไหลลงมาจากที่ราบสูงชิงไห่-ทิเบต แล้วกระทบกับผาหินสูงชัน ทำให้น้ำไหลหวนกลับไปในรูปตัวยู (U)

  ถัดไปอีกหน่อย เราแวะจอดที่ หุบเขาเสือกระโจน หุบเขาลึกและช่องแคบลือชื่อของแม่น้ำจินซาเจียง มีลักษณะเป็นหุบเหวลึกเกือบ 1,000 เมตร (มองลงไปแล้วก็ใจหายวาบ)  บริเวณกลางแม่น้ำมีโตรกหิน ซึ่งเล่ากันว่า เสือกระโจนข้ามฟากโดยใช้โตรกหินนี้  จึงเป็นที่มาของชื่อหุบเขา บริเวณนี้น้ำไหลเชี่ยวกรากเมื่อปะทะโตรกหินจึงเกิดเสียงดังสนั่นไปไกลถึง 10 กิโลเมตร คุยกันไม่ได้ยินทีเดียว ถ้าไม่อยากเปียกนัก เสื้อกันฝนนับว่าเป็นตัวช่วยที่ดีทีเดียว

หุบเขาเสือกระโจน 1


หุบเขาเสือกระโจน 2

#แชงกรีลา

นั่งรถไม่นานนัก (แต่ก็หลับได้หลายตื่น) เราก็เดินทางมาถึงแดนในฝันนาม แชงกรีลาที่นี่เป็นนครระดับเทศมณฑลในจังหวัดปกครองตนเองชนชาติทิเบต ตี๋ชิ่ง  ตั้งอยู่บนที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 3,000 – 4,000 เมตร ตลอดเส้นทางความงามของทัศนียภาพสองข้างทางบนถนนลอยฟ้า เราจะได้พบกับทิวเขาสลับซับซ้อน ปกคลุมด้วยหิมะ ท่ามกลางเมฆขาว-ฟ้าสดใส และอากาศอันบริสุทธิ์ เป็นอย่างที่ Mr.Hilton บรรยายเชื้อเชิญให้คนมาสัมผัส

ทางเดินขึ้นหุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน

สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของแชงกรีลา คือ หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน (The Valley of blue moon) ซึ่งบริเวณทั้งเขา จะถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลนไปทั่ว เมื่อโดยสารกระเช้าไปถึงยอดเขาในฤดูหนาว ลานดอกไม้จะกลายเป็นลานหิมะกว้างใหญ่สุดสายตา ภายใต้ท้องฟ้าสีครามงดงามดั่งภาพวาด อีกจุดที่ดูมีชีวิตชีวาคือ โซนเมืองโบราณแชงกรีลา ที่แม้ในวรรณกรรม The Lost Horizon จะบอกว่าเป็นเมืองในฝัน (ซึ่งในอดีตอาจจะเคยเป็นเช่นนั้น) แต่ปัจจุบันเราจะพบเมืองเก่า ถูกแทนที่ด้วยพื้นที่เชิงพาณิชย์และนักท่องเที่ยวหลากเชื้อชาติ แม้บางคนอาจะไม่ชอบ แต่เรากลับพบเสน่ห์เมืองตะวันออกอีกเมืองที่คึกคัก เดินเล่นในเมืองนี้ก็สนุกไปอีกแบบ

เมืองโบราณแชงกรีลา

#ลี่เจียง

  จุดหมายสุดท้ายของทริปนี้ เราจอดที่เมืองในหุบเขาซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่ของชนเผ่า ‘น่าซี’ ชนกลุ่มน้อยที่มี ขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมน่าสนใจ มีลักษณะทางสังคมแบบสตรีเป็นใหญ่ และมีภาษาสัญลักษณ์หรือ อักษรภาพเป็นของตัวเอง

ภูเขาหิมะมังกรหยก

  สถานที่เที่ยวสำคัญของเมืองคือ ภูเขาหิมะมังกรหยก ภูเขาสำคัญของชนเผ่าในลี่เจียง ซึ่งยอดเขาที่สูงที่สุดมีความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 5,596 เมตร และมีหิมะปกคลุมเกือบตลอดทั้งปี จุดที่วิวงามที่สุดนั้น เราต้องโดยสารกระเช้าไฟฟ้าใหญ่ขึ้นไปร่วมชั่วโมง ซึ่งเรียกว่า สวนธารน้ำแข็ง (Glacier Park) สูงจากระดับน้ำทะเล 4,506 เมตร

  อีกสถานที่ที่น่าสนใจ คือ อุทยานน้ำหยก สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ล่าสุดของลี่เจียง และเป็นที่แสดงถึงวัฒนธรรมของชนเผ่าน่าซี


อุทยานน้ำหยก

ในส่วนของเมืองเก่าลี่เจียง ก็นับเป็นอีกที่ที่น่าเยี่ยมชม เมืองเก่านี้ได้รับการประกาศรับรองจาก องค์การยูเนสโก้ให้เป็นเมืองมรดกโลก  ความงดงามของเมืองประกอบด้วยสถาปัตยกรรมบ้านเรือน ร้านค้า ชุมชน ซึ่งสร้างอยู่ริมลำธาร โดยน้ำในลำธารนี้เกิดจากการละลายของหิมะและไหลลงมาจากเทือกเขา ใสสะอาด ทำให้มีปลาจำนวนมากอาศัยอยู่ได้

เมืองโบราณลี่เจียง 1

เมืองโบราณลี่เจียง 2

เมืองโบราณลี่เจียง 3

  ปิดท้ายด้วยไฮไลท์สำคัญคือการแสดง แสง สี เสียง อันยิ่งใหญ่ตระการตา ’Impression Lijiang’ ของผู้กำกับชื่อดัง จาง อี้โหมว โดยหยิบยืมพื้นที่ลานกลางหุบเขาตามธรรมชาติเป็นเวทีกลางแจ้ง มีภูเขาหิมะมังกรหยกเป็นฉากหลัง เพื่อให้นักแสดงกว่า 600 ชีวิต นำเสนอบอกเล่าเรื่องราวชีวิตความเป็นอยู่ วัฒนธรรม ชาวเผ่าต่างๆ ผ่านการระบำรำฟ้อนในแบบฉบับของเมืองลี่เจียง งดงามน่าประทับใจ เหมือนชมหนังสั้นงามๆ ของจาง อี้โหมว สักเรื่องหนึ่ง

การแสดงยิ่งใหญ่ Impression Lijiang

เส้นทางเที่ยวยูนนานแม้จะไม่ได้หวือหวา และเหมือนภาพดินแดนในอุดมคติอย่างใน The Lost Horizon เขียนไว้ แต่ถึงกระนั้นเราก็ได้สัมผัสธรรมชาติสะอาดๆ ที่หาไม่ได้ง่ายๆ ในเมืองใหญ่ (ที่เต็มไปด้วยฝุ่นควัน) ประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตแนะนำว่าควรไปลัดเลาะชมเส้นทางธรรมชาติผสานวัฒนธรรม สดชื่นปอด และชุ่มฉ่ำหัวใจที่ ‘มณฑลยูนนาน’

Tags: , , ,