“การล่วงละเมิดทางเพศเป็นเรื่องจริง มันเกิดขึ้นในครอบครัวของเรา ในชุมชนของเรา ในชุมชนแห่งศรัทธาของเรา ในทุกนิกายของคริสต์ศาสนา รวมถึงในโบสถ์ของออร์โธดอกซ์ด้วย” คือข้อความที่ถูกโพสต์ลงในโซเชียลมีเดียในแคมเปญ #ChurchToo เพื่อต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศภายใต้เงาของศาสนา

เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่าน ‘สองแม่ชี’ จากคริสต์ศาสนานิกายกรีกออร์โธด็อกซ์ในลองไอส์แลนด์เดินหน้าผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายใต้แคมเปญ #ChurchToo ด้วยการโพสต์ข้อความที่ทรงพลังผ่านอินสตาแกรมและเฟซบุ๊กขอให้ยุติการล่วงละเมิดทางเพศภายใต้ ‘ชุมชนแห่งศรัทธา’ อย่าง “believe survivors” “take a stand.” “end rape culture” หรือแม้แต่  “silence isn’t spiritual”

ชนวนของการลุกฮือต่อสู้เพื่อสิทธิของผู้หญิงจากมือมืดใต้ศาสนา คือการกลับมาของบาทหลวง Gerasimos Makris ผู้มีคดีล่วงละเมิดทางเพศซึ่งได้รับอนุญาตจากสังฆมณฑลให้กลับไปทำงานที่โบสถ์ตามเดิม แม้บาทหลวงจะรับสารภาพว่าได้มีการปฏิสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมกับผู้หญิงสองคนจริง

และถึงแม้ Spiritual Court จะชี้ว่าบาทหลวงผู้นี้ควรถูกแบน ทว่าสังฆมณฑลกลับกลับตัดสินใจส่งเขาคืนสู่โบสถ์ พร้อมให้เหตุผลถึงข้อเรียกร้องและความต้องการของบาทหลวงในพื้นที่ที่ต้องการบาทหลวง Makris กลับคืน ซ้ำรอยกับเรื่องอื้อฉาวล่าสุดของบาทหลวง George Passias ซึ่งปาราชิกหลังถูกเปิดเผยถึงความสัมพันธ์กับครูใหญ่ที่แต่งงานแล้ว

บิชอป Andonios Paropoulos อัครสังฆมณฑลของนิกายกรีกออร์โธดอกซ์ เปิดเผยว่า ข้อกล่าวหาของบาทหลวง Makris เริ่มต้นขึ้นในปี 2017 จากหญิงสาวที่ไม่สบายใจจากการมีปฏิสัมพันธ์บางประการกับบาทหลวง Makris เช่นการกอดที่ยาวนาน แต่ไม่ได้มีเรื่องทางเพศอย่างเปิดเผย

ก่อนที่บาทหลวง Makris จะถูกร้องเรียนโดยบาทหลวงอื่นถึงความสัมพันธ์กับหญิงสาวสองคน ซึ่งบิชอป  Andonios เผยว่า บาทหลวง Makris ถูกระงับความเป็นบาทหลวงทันทีและจะไม่มีการเรียกตัวบาทหลวง Makris กลับไปทำงานในพื้นที่เดิมแต่อย่างใด พร้อมยอมรับถึงความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมระหว่างบาทหลวงกับหญิงสาวทั้งสองคน

หลังจากเรื่องทั้งหมดถูกเปิดเผย ศาสนจักรกรีกออร์โธดอกซ์ บิชอป และบาทหลวงถูกวิพากษ์วิจารณ์จากทั้งในและนอกศาสนจักรออโธด็อกซ์ผ่านสื่อต่างๆ แต่สุดท้ายสังฆมณฑลก็กลับคำและส่งตัวบาทหลวง Makris กลับไปทำงานตามเดิมในที่สุด

“พวกเขายังคงเลือกสนับสนุนพวกตนเองแม้แต่ในเรื่องที่เลวร้ายที่สุด มันเป็นเรื่องน่าอับอายและเจ็บปวดใจที่ซักวันจะต้องเปลี่ยนไป” ความเห็นจากวงในโบสถ์ออร์โธดอกซ์เผย

นอกจากการขับเคลื่อนของแม่ชีและหญิงสาวที่ถูกละเมิดทางเพศ #ChurchToo ยังได้รับการสนับสนุนอย่างเปิดเผยจากคนดังหลากหลาย ทั้ง Emily Joy ซึ่งทวีตผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวชื่นชมความกล้าหาญของการขับเคลื่อนนี้ Audrey Assad ที่ตีแผ่เรื่องราวถูกละเมิดของตัวเองผ่านทวิตเตอร์ พร้อมเซเลปบริตี้คนอื่นๆ อีกมากมายที่ติดแฮชแท็กเพื่อสนับสนุนความกล้าในการต่อสู้ของผู้หญิง

 

ที่มา

https://nypost.com/2018/12/08/long-island-nuns-push-for-change-amid-growing-churchtoo-movement/

https://hellogiggles.com/news/churchtoo-tweets-trending-sexual-abuse-religious-settings/

Tags: