เหล่าคุณยายกำลังนั่งโต๊ะพร้อมกล่องสีน้ำมันชนิดแท่ง พร้อมกระดาษขาวตรงหน้า มีดอกหน้าวัวตั้งอยู่กลางโต๊ะของแต่ละคน ฝั่งขวาคือกระจกหน้าต่างสว่างไสว อีกฝั่งคือผนังสีน้ำตาลเข้ม ประดับด้วยภาพงานศิลปะเหมือนอยู่ในแกลเลอรี ล่างลงมาคือราวจับทอดยาวไปตามโถงทางเดิน

นี่คือกิจกรรมประจำวันของเนิร์สซิงโฮม ‘ชาร์ม พรีเมียร์ ฟูกาซาวะ’ (Charm Premier Fukasawa) เนิร์สซิงโฮมระดับหรูหรา ที่ประกาศชัดว่าเป็นที่พักพิงยามแก่เฒ่าของเหล่าผู้สูงวัยที่มีเงินพอจะจ่าย ภายใต้คอนเซปต์การตกแต่งแบบอาร์ตแกลเลอรี และอยู่ไม่ไกลจากกรุงโตเกียว

Charm Premier เป็นหนึ่งในเนิร์สซิงโฮม 40 แห่ง ที่บริหารจัดการภายใต้แบรนด์ Charm Care อยู่ในเมืองต่างๆ ของญี่ปุ่น ดูแลผู้สูงวัยกว่า 3,000 คน และแต่ละแห่งมีเรตราคาแตกต่างกันไป

ทาคาฮิโกะ ชิโมะมูระ (Takahiko Shimomura) ประธานบริษัท Charm Care Corporation วัย 75 ปี เล่าว่าแต่ก่อนเขาอยู่ในธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง แต่พออายุ 62 ปี ซึ่งเฉียดๆ จะเป็นวัยเกษียณสำหรับคนทั่วไป ก็เกิดไอเดียขึ้นว่าอยากจะทำธุรกิจที่ได้ดูแลเหล่าคนสูงวัย เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับสังคมสูงอายุ เพราะอยากจะดูแลคนเจเนอเรชันนี้ ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเหล่าคนทำงานในอดีตที่ช่วยลงแรงฟื้นฟูประเทศหลังภัยสงคราม

Charm Care Premier คือการยกระดับคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุให้ขึ้นมาหรูหราอีกขั้น เพราะการใช้ชีวิตบั้นปลายนั้นไม่ได้มีแค่รูปแบบเดียว แล้วแต่กำลังทรัพย์จะจ่ายได้

ก่อนจะว่าต้องใช้เงินเท่าไรถึงจะมามีชีวิตอยู่ในบรรยากาศหอศิลป์แบบนี้ได้ ไปดูกันก่อน ว่าที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง

ครบทุกอย่างในห้องเดียว

ห้องพักในอาคารมีทั้งหมด 85 ห้อง แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่

  • ห้องพักแบบ A ห้องพักเดี่ยว ขนาด 20 ตร.ม. ไม่มีห้องอาบน้ำในตัว
  • ห้องพักแบบ B ขนาด 30 ตารางเมตร มีห้องอาบน้ำ
  • ห้องพักแบบ C ห้องพักเตียงแฝด ขนาด 40 ตร.ม.

ภายในห้องพักแบบ C เราจะพบเตียงนอนมีราวกั้นสองเตียงวางคู่กัน มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกทุกอย่างในห้องเดียว เช่น โต๊ะกาแฟ เก้าอี้ อ่างล้างจาน กาต้มน้ำ โทรทัศน์ และห้องอาบน้ำ ซึ่งความครบครันภายในห้องเหล่านี้เป็นจุดเด่นของ Charm Care Premier ที่ต่างจากเนิร์สซิงโฮมอื่นๆ

อัตราส่วนของพนักงานผู้ดูแลต่อผู้สูงอายุเท่ากับ 1 : 2 และทุกคนต้องได้รับการศึกษามาเฉพาะทางเพื่อช่วยเหลือทั้งการอาบน้ำและกิจกรรมประจำวัน

ส่วนกลางของวัยชรา

ลืมภาพหญ้าเทียมตามโคเวิร์กกิงสเปซไปก่อน เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นเนิร์สซิงโฮมแล้ว ส่วนกลางที่เป็นห้องออกกำลังกายก็จะต้องมีอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ ผู้เข้าพักทุกคนจะต้องมาออกกำลังกายที่ห้อง Rehabilitation room สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ครั้งละ 1 ชั่วโมง ทำร่วมกันเป็นกลุ่ม 2-3 คนโดยมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลและแนะนำ รวมทั้งมีเครื่อง Digital Mirror กระจกส่องแสดงผลบนจอเพื่อเล่นเกมทดสอบกำลัง

แต่หากใครต้องการการดูแลเป็นพิเศษก็อาจส่งคำขอเทรนเนอร์ตัวต่อตัวได้ โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

ผู้ดูแลศูนย์เล่าด้วยความภูมิใจว่า ผู้สูงอายุบางคนเข้ามาพักที่นี่ในสภาพที่ต้องนั่งรถเข็น แต่เมื่อได้ออกกำลังกายสม่ำเสมอตามโปรแกรมของศูนย์ ตอนนี้ก็กลับมายืนได้และใช้ไม้เท้าช่วยเดิน

อีกส่วนคือห้องตัดผม ที่จะมีช่างเข้ามาตัดผมให้ทุกวันที่ 4 ของเดือน ภายในประกอบด้วยเก้าอี้ซาลอน อ่างน้ำ และฝักบัว

นอกจากนี้ ในแต่ละชั้นจะมีห้องอาบน้ำและห้องอาหารไว้สำหรับผู้พักอาศัยใช้งานร่วมกัน ห้องอาบน้ำจะมีทั้งแบบปกติ และห้อง ‘แช่น้ำร้อน’ ซึ่งผู้ดูแลศูนย์บอกว่าเป็นวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่แม้จะแก่ตัวลงไปแค่ไหน พวกเขาก็ยังอยากจะแช่น้ำร้อน

ห้องแช่น้ำร้อนนั้นมีสองแบบ ห้องแบบแรกสำหรับผู้ที่ยังเคลื่อนไหวร่างกายได้ปกติ จะมีอ่างอาบน้ำที่ทำจากไม้ฮิโนกิ หรือไม้หอมที่มีราคาแพง ส่วนห้องแช่น้ำร้อนแบบที่สองสำหรับผู้ที่เริ่มเคลื่อนไหวร่างกายไม่สะดวก ก็จะมีอุปกรณ์ช่วยอำนวยความสะดวก ตั้งแต่ย้ายจากรถเข็นเข้ามาในบริเวณห้องน้ำ สับเปลี่ยนขึ้นนั่งเก้าอี้รถเข็นพลาสติก แล้วเข็นมาประกอบเข้ากับตัวอ่างน้ำได้พอดิบพอดี ไม่ต้องคอยยกขึ้น-ยกลง และน้ำจะเต็มอ่างภายใน 10 วินาที มุมหนึ่งของห้องมีอ่างเล็กๆ สำหรับซักผ้าโดยเฉพาะ กรณีที่เสื้อผ้าเลอะจากการขับถ่ายระหว่างทาง

ผู้อาศัยทุกคนจะได้แช่น้ำร้อนสบายๆ แบบนี้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง และสำหรับอ่างแบบหลังจะต้องมีผู้ช่วยดูแลสองคนต่อผู้สูงอายุหนึ่งคน คอยยืนดูแลความปลอดภัยอยู่เสมอ นอกจากนี้ ภายในห้องน้ำ ยังมีลำโพงเอาไว้ประกาศอพยพกรณีเกิดภัยพิบัติ เพราะเป็นสิ่งที่ญี่ปุ่นให้ความสำคัญมากในทุกๆ ที่

แต่ละวันของผู้สูงวัย

กิจกรรมประจำวันของที่นี่ เริ่มตั้งแต่ตื่นมากินอาหารเช้า ออกกำลังกาย พักดื่มชา กินอาหารเที่ยง ส่วนอาหารที่ Charm Care Premier จัดให้ ก็จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ตามสภาพร่างกายของแต่ละคน ได้แก่ อาหารแบบปกติ อาหารหั่นชิ้นเล็ก และอาหารบด

ช่วงบ่ายเป็นกิจกรรมประจำวัน อย่างการวาดรูปดอกหน้าวัวที่เราได้เห็นในวันนี้ หรือกิจกรรมยอดนิยมอย่างการเขียนพู่กันญี่ปุ่นและการจัดดอกไม้

หลังจากนั้นจะเป็นการกินของว่าง แช่น้ำร้อน และเวลาอาหารเย็น แล้วส่งเข้านอนตอนสามทุ่ม

ทุกๆ ห้องจะมีการเปลี่ยนผ้าปูที่นอนทุกวันพฤหัสบดี และมีบริการทำความสะอาด 2 ครั้งต่อสัปดาห์

อยู่ที่นี่ ต้องจ่ายเท่าไร

มาถึงคำถามสำคัญว่า ถ้าอยากใช้ชีวิตสบาย มีสุนทรียะ และปลอดภัยแบบนี้ ต้องจ่ายเท่าไร

ที่นี่ไม่มีห้องสำหรับขาย แต่เป็นระบบเช่าอยู่ เริ่มต้นที่ห้องแบบ A ซึ่งมีขนาดเล็กที่สุด คือ 530,000 เยนต่อเดือน (165,000 บาท) และแพงที่สุดคือห้องแบบ C คือ 951,000 เยนต่อเดือน (295,000 บาท) ขณะเดียวกันก็มีระบบการจ่ายเงินแรกเข้าก้อนใหญ่สำหรับ 5 ปี เพื่อให้ได้ราคาค่าเช่าต่อเดือนถูกลงในระยะยาว

ค่าเช่าสูงสุดที่เฉียด 300,000 บาทต่อเดือน ทำให้ผู้ฟังถึงกับอ้าปากค้าง คุณชิโมะมูระบอกว่า นี่เป็นเพราะโลเคชันที่อยู่ใกล้เมืองและที่พักแบบ Premier นั้นเป็นคุณภาพการบริการระดับหรูหราของแบรนด์ Charm หากเป็นสาขาที่โอซากา ราคาจะลดลงมาอยู่ที่ 135,000 เยนต่อเดือน (40,000 บาท)

ผู้เข้าพักจะต้องอายุ 60 ปีขึ้นไป และมีใบรับรองแพทย์มาแสดงเพื่อให้ทราบว่าต้องการการดูแลในระดับใด

ถึงจะราคาไม่ใช่น้อยๆ สำหรับวัยที่ไม่มีรายได้จากการทำงาน แต่ขณะนี้มีผู้เข้าพักแล้วมากถึง 34 คน อายุเฉลี่ยคือ 84 ปี และห้องแบบ C ที่เป็นห้องคู่ ซึ่งมีคนเช่าทั้งหมด 5 ห้องนั้น 4 ห้องเป็นการอยู่คนเดียว เพราะต้องการพื้นที่ที่กว้างขวางเต็มที่ ไม่สะทกสะท้านกับราคาค่าเช่าแม้แต่น้อย

Charm Care ดำเนินกิจการมาแล้ว 13 ปี และวางแผนว่าในปีนี้และปีถัดไปจะเปิดสาขาเพิ่มปีละ 10-11 แห่ง และน่าจะมีทั้งหมด 75 แห่งในอีกสามปีข้างหน้า หนึ่งในนั้นคือ Charm Premier Eifuku ที่ร่วมกับบริษัท มิตซูบิชิ จิโช เรสซิเดนซ์ (MJR) บริษัทลูกของ MECG สร้างขึ้นมา และตั้งค่าเช่าไว้ประมาณ 600,000 เยนต่อเดือนต่อคน

 

 

ที่มาภาพ: www.charmcc.jp และ AP

Fact Box

การเดินทางครั้งนี้ สนับสนุนโดยบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด และกลุ่ม มิตซูบิชิ เอสเตท (MECG) พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจในประเทศญี่ปุ่น เนื่องในโอกาสที่เอพีกำลังเริ่มต้นศึกษาโครงการคอนโดสำหรับผู้สูงวัย ‘รุ่นใหม่’ ในย่านสาทร-ตากสิน เจาะตลาดคนเจเนอเรชันเอ็กซ์ที่กำลังจะเกษียณอายุในไม่กี่ปีข้างหน้า

ที่ตั้งของ Charm Premier Fukasawa

Tags: , , , , , , ,