เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ชาวไทยต่างมีจุดหมายเดียวกันคือ เฝ้ารับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

ในโอกาสนี้ รัฐบาลได้จัดหลากหลายกิจกรรมเพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ โดยมีการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่เข้าร่วมงานด้วยการบริการทางด่วนฟรี รถไฟฟ้ามหานครสายสีม่วง และสายสีน้ำเงินฟรี อีกทั้งยังมีเรือข้ามฟากฟรีรวม 6 ท่า ใกล้กับพื้นที่จัดงาน ได้แก่ ท่าเรือวัดระฆัง ท่าเรือท่าช้าง ท่าเรือสาทร ท่าเรือกรมเจ้าท่า ท่าเรือราชินี และท่าเรือท่าเตียน อีกทั้งยังมีบริการรถ ขสมก.รับส่งประชาชนฟรีรวม 10 เส้นทาง โดยแม้จะมีฝนโปรยปรายมาตลอดทั้งวัน แต่ประชาชนก็ยังคงเดินทางเข้าร่วมงานอย่างไม่ขาดสาย

ทั้งนี้ พระราชพิธีในช่วงเช้า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยเสด็จจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมมหาราชวัง ในการเสด็จออกมหาสมาคม รับการถวายพระพรชัยมงคล

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยทางพระทวารเทวราชมเหศวร มีพระราชดำรัสตอบกลับ ความว่า “ข้าพเจ้ามีความปลื้มใจอย่างยิ่งที่ได้มาท่ามกลางมหาสมาคมพรั่งพร้อมด้วยทุกท่าน จากทุกสถาบันสำคัญของชาติ ขอขอบพระทัยพระบรมวงศานุวงศ์ และขอบใจนายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกาในคำอำนวยพร และการเฉลิมฉลองอันงดงามยิ่งใหญ่ที่ทุกคนทุกฝ่ายตั้งใจจัดให้ข้าพเจ้าเป็นพิเศษในวาระนี้ ท่านทั้งหลายผู้มีความรักในชาติบ้านเมืองย่อมปรารถนาให้ชาติบ้านเมืองมีความผาสุกมั่นคง และประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี

“ในการนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกท่านผู้อยู่ในตำแหน่งสำคัญของชาติ จะต้องบำเพ็ญกรณียกิจทุกอย่างโดยมีเป้าหมายสูงสุดเป็นอย่างเดียวกัน เพื่อให้ประเทศชาติมีความรุ่งเรืองก้าวหน้าอย่างยั่งยืน อันจะทำให้ประชาชนทุกคนในชาติมีความสุขความเจริญและความมั่นคงในชีวิตอย่างแท้จริง หากทุกท่านทำความเข้าใจให้ถูกต้องตรงกันในข้อนี้ แล้วปฏิบัติภาระหน้าที่ของตนให้บรรลุผลเป็นประโยชน์สูงสุด และประสานสอดคล้องซึ่งกันและกันเป็นอย่างดีแล้ว งานของชาติก็จะดำเนินสู่เป้าหมายได้อย่างถูกต้องเที่ยงตรง และสำเร็จผลสมบูรณ์ดังที่ทุกคนทุกฝ่ายตั้งใจปรารถนาขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวไทยทุกหมู่เหล่าเคารพบูชา จงคุ้มครองรักษาทุกท่าน ให้ประสบความสุขสวัสดีพร้อมทั้งความเป็นสิริมงคลทุกประการ”

สำหรับพิธีในช่วงเย็น เป็นพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ที่ท้องสนามหลวง โดย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล โดยมีประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส รวมไปยังข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ภาคเอกชน และภาคประชาชน ร่วมงานกันโดยพร้อมเพรียง

ด้านนายกรัฐมนตรีเปล่งเสียงพร้อมกับพสกนิกร ถวายพระพรชัยมงคลตอนหนึ่งว่า 

“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ได้ทรงปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ เพื่อประโยชน์สุขของอาณาประชาราษฎร์ ทรงอุทิศกำลังพระวรกาย และพระปัญญาบารมี สอดส่องดูแลทุกข์สุขของพสกนิกรอยู่เสมอมิได้ขาด มีแต่พระราชทานความสุขสมบูรณ์ให้เพิ่มพูนขึ้น พร้อมกับทรงขจัดปัดเป่าความทุกข์ให้ลดน้อยหรือคลี่คลายหายสูญไปในที่สุด ทรงเป็นประดุจดวงประทีปแก้วส่องทางแก่ประชาชาติให้อยู่ในคลองธรรมที่ควรดำเนิน เป็นความสุกใสและสว่างไพโรจน์อยู่ในดวงจิตของปวงข้าพระพุทธเจ้าผู้อยู่ภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารเสมอมา

“ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอพระราชทานถวายพระพรชัยมงคล ขอพลานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากล โปรดอภิบาลบันดาลดลให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงพระเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย ทรงพระเกษมสำราญ พระเกียรติคุณเกริกไกรแผ่ไพศาล มีพระราชประสงค์จำนงใด จงสฤษดิ์ดั่งพระราชหฤทัยปรารถนา สถิตเป็นมิ่งขวัญปกเกล้า เหล่าพสกนิกรชาวไทยตราบกาลนิรันดร์ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ”

จากนั้นพสกนิกรทุกหมู่เหล่าร่วมกันยืนตรง ขับร้องบทเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงสดุดีจอมราช โดยเปล่งเสียง ไชโย ไชโย ไชโยและ ทรงพระเจริญดังกึกก้องทั่วท้องสนามหลวง

นอกจากพิธีที่ท้องสนามหลวงแล้ว ยังมีพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครบ 6 รอบ ทั่วประเทศ ในสถานที่ที่ทางจังหวัดกำหนด อีกทั้งยังมีการถ่ายทอดสดให้ประชาชนทั่วประเทศได้ร่วมแสดงความจงรักภักดี เป็นภาพอันสวยงามและทรงพลังที่สะท้อนถึงความสามัคคีของคนในชาติ สะท้อนความรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์

Tags: ,