THE SHOW NOTES

ปรากฏการณ์ ‘สอนลูกแบบ ธนินท์ เจียรวนนท์’

01.38

หลังจากเกิดปรากฏการณ์ที่มีคนเข้ามาฟังรายการตอน ‘สอนลูกแบบ ธนินท์ เจียรวนนท์’ กันอย่างถล่มทลาย หนุ่มเมืองจันท์มองว่าส่วนหนึ่งคงมาจากคนฟังเป็นกลุ่มคนทำงานที่อยากประสบความสำเร็จ แต่ขณะเดียวกันก็ได้เรียนรู้ว่าหลายคนนั้นมีความรู้สึกที่ไม่ดีต่อคุณธนินท์ ซึ่งหนุ่มเมืองจันท์อยากให้ทุกคนมองว่าคนเรานั้นมีหลายมุมให้มอง มีทั้งมุมบวกและมุมลบ ซึ่งถ้าเรามองให้รอบด้านและมองอย่างใจเป็นกลาง เรื่องราวเหล่านี้ก็สามารถเป็นประโยชน์ต่อเราได้

และสำหรับตอนนี้ รายการ CARPE DIEM ก็มีเรื่องราวของนักธุรกิจอีกคนหนึ่งมาเล่าให้ทุกคนได้ฟังกัน นั่นคือคุณตัน ภาสกรนที

ชีวิตที่ไม่มีข้ออ้าง

06.34

หนุ่มเมืองจันท์เคยมีประสบการณ์สัมภาษณ์คุณตันมาก่อน ซึ่งจากประสบการณ์การสัมภาษณ์ที่ผ่านมามากมาย เมื่อได้คุยกับคุณตัน หนุ่มเมืองจันท์ก็รู้สึกทันทีว่าเราไม่เขียนเรื่องของคนคนนี้ไม่ได้แล้ว เพราะรู้สึกว่าเด็กรุ่นใหม่ทุกวันนี้มักจะมีข้ออ้างในชีวิตเยอะ คนอื่นเรียนสูงกว่า มีฐานะดีกว่า มีความพร้อมมากกว่า แต่คุณตันสามารถเป็นตัวอย่างให้เราเห็นได้ จากการศึกษาที่เรียนจบมาไม่สูง เริ่มทำงานด้วยการแบกหามเงินเดือน 700 บาท แต่ก็ยังมีวันนี้ได้ เรื่องนี้จะสะท้อนและสอนให้เด็กรุ่นใหม่เห็นได้ว่าข้ออ้างต่างๆ ที่พูดกันมา คนคนนี้ฝ่ามาได้หมดแล้ว

วิธีแก้หนี้ 100 ล้านบาท

10.26

หลายคนไม่รู้ว่าคุณตันนั้นเคยเป็นหนี้มูลค่าร้อยกว่าล้านเมื่อปี 2540 หลังจากลงทุนธุรกิจแผงหนังสือพิมพ์ในจังหวัดชลบุรีและประสบความสำเร็จจนมีธุรกิจหลายอย่างตามมา คุณตันก็ตัดสินใจกระโดดเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

วันหนึ่งแกได้ข่าวว่าเซ็นทรัลกำลังหาที่ดินเพื่อมาสร้างห้างสรรพสินค้าในจังหวัดชลบุรี แกเลยจัดแจงหาที่ดินให้กับเซ็นทรัล โดยหวังว่าเมื่อเซ็นทรัลสร้างเสร็จเมื่อไร โครงการตึกแถวที่อยู่บนที่ดินแปลงข้างๆ ของแกก็จะมีมูลค่าที่เพิ่มขึ้นด้วย แต่ในตอนนั้นธนาคารต่างๆ ก็เริ่มมีปัญหาทางการเงิน คุณตันจึงกู้เงินจากธนาคารได้แค่ 60% ที่เหลือก็ต้องกู้นอกระบบซึ่งดอกเบี้ยสูง และเมื่อสร้างเสร็จเรียบร้อยก็เกิดวิกฤติการณ์เศรษฐกิจปี 2540 ขึ้นมา โครงการก็ขายไม่ได้ ดอกเบี้ยก็พุ่งขึ้นสูงถึงขนาดที่ต้องจ่ายเดือนละ 8 แสนบาทเป็นค่าดอกเบี้ยอย่างเดียว และเมื่อรวมรายจ่ายทั้งหมดก็สูงถึงเดือนละ 1.35 ล้านบาท แต่มีรายรับอยู่แค่ 1 ล้านบาท

ซึ่งก็รอดูจนถึงจุดหนึ่งที่ต้องตัดสินใจ เพราะไม่อย่างนั้นหนี้ก็จะไม่หมดไปแถมยังมีรายจ่ายเพิ่มขึ้นทุกเดือน กลายเป็นการหาเงินมาหมุนจ่ายหนี้มากกว่าการทำธุรกิจ แกเลยวางเส้นตายไว้ที่กลางปี 2541 เมื่อถึงจุดนั้นแกก็แยกหนี้เป็นสองก้อน ก้อนแรกคือหนี้ในระบบ และสองคือหนี้นอกระบบ เป้าหมายคือการแก้หนี้ที่แก้ได้ขาด ไม่ค้างคา เลยตัดสินใจขายทรัพย์สินเพื่อเอาเงินมาปลดหนี้ให้เร็วที่สุด เอาตึกแถวที่สร้างไว้ไปเสนอขายกับเจ้าหนี้ จากราคาเต็ม 4 ล้าน แกขายให้แค่ 1.5 ล้านเท่านั้น เพื่อให้เจ้าหนี้ยอมรับที่จะซื้อได้ง่าย และเอาเงินก้อนนี้ไปตัดกับหนี้นอกระบบก่อน จนสุดท้ายแกก็สามารถตัดรายจ่ายของหนี้ให้น้อยกว่า 1 ล้านได้ เกิดเป็นกำลังใจจนสามารถจ่ายหนี้หมดในที่สุด และยังทำให้เกิดเป็นเครดิตดีที่ธนาคารจะปล่อยกู้ให้ในครั้งต่อไปด้วย

เรื่องนี้สอนให้เราเรียนรู้หลายอย่าง อย่างแรกคือการตัดสินใจคือสิ่งสำคัญ การขายตึกแถวในราคาขาดทุนนั้นหลายคนมองว่าน่าเสียดาย เพราะอนาคตมันอาจสร้างกำไรให้เรา แต่ ณ ตอนนั้นมันก็เป็นภาระที่หนักหน่วง ต่อมาคือกำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งคุณตันนั้นเป็นคนที่เข้มแข็งมาก ซึ่งสิ่งนี้อาจมาจากการสู้ชีวิตมาตั้งแต่เด็ก

และที่สำคัญสำหรับการทำธุรกิจคือเราต้องรู้ว่าธุรกิจในมือเรานั้นมีอะไรที่ดี อะไรที่แย่ และเราควรปรับลดกำลังให้ตรงจุด ไม่ใช่ไปลดกำลังให้เท่าๆ กันในทุกธุรกิจ เพราะในขณะที่บางธุรกิจทำท่าจะแย่ ธุรกิจอื่นๆ ของเราอาจจะต้องการการเร่งเครื่องเพราะอยู่ในช่วงที่สามารถเติบโตและมาช่วยในส่วนที่ทรุดไปได้ แต่หลายคนเลือกใช้การปรับลดให้เท่าเทียมกัน ทำให้ประสิทธิภาพของธุรกิจไปได้ไม่ไกลเท่าที่ควร

ความจนเป็นสิ่งมีค่า เพราะทำให้เราไม่กลัวงานหนัก

24.25

คุณตันเคยกล่าวเอาไว้ว่า “ความจนเป็นสิ่งมีค่า เพราะทำให้เราไม่กลัวงานหนัก” ซึ่งหนุ่มเมืองจันท์มองว่าเป็นเรื่องสำคัญ คนบางคนรู้สึกว่าตัวเองเสียเปรียบเพราะความจน แต่จริงๆ แล้วเมื่อถึงเวลาทำงานเขาจะได้เปรียบ เพราะเขาไม่กลัว

ตำราส่วนตัว

25.20

หลายคนชอบเอาวิธีการทำงานของคุณตันที่เป็นคนตัดสินใจรวดเร็วไปใช้โดยไม่รู้ที่มาเบื้องหลังของแก ซึ่งความจริงแล้วคุณตันนั้นเป็นมนุษย์หน้างานที่ลงแรงและสัมผัสรายละเอียดทุกจุดมาตั้งแต่เริ่มต้นในทุกงาน ฉะนั้นแกจะผ่านงานมาเยอะ เจอปัญหาเป็นประจำอยู่แล้วจนกลายเป็นตำราส่วนตัว ทำให้รู้ว่าปัญหามันคืออะไร ต้องแก้ตรงไหน และเชื่อว่าตัวเองนั้นแก้ได้

อย่ารองานเข้ามาหา แต่เราต้องวิ่งเข้าหางาน

26.29

อีกประโยคที่คุณตันเคยพูดไว้คือ “อย่ารองานเข้ามาหา แต่เราต้องวิ่งเข้าหางาน” เพราะสมัยเป็นลูกจ้างคุณตันเป็นคนที่กลับบ้านดึกมาก หน่วยงานไหนมีปัญหาแกก็จะเข้าไปช่วยตลอดเพราะถือว่าได้เรียนรู้งาน เลยได้ประสบการณ์มาเยอะมาก หัวหน้าหลายๆ คนเลยชอบเอาตัวแกไปใช้งานจนคุณตันได้ความรู้มาเยอะมาก

จุดตายของธุรกิจ

27.47

มนุษย์เราได้ความรู้จากสามทาง ทางแรกคืออ่านหนังสือ ทางที่สองคือฟังคำบอกเล่าจากคนอื่น และทางที่สามคือการลงมือทำเอง ซึ่งสองข้อหลังนี้เป็นสิ่งที่คุณตันใช้เยอะมาก ใครเคยคุยกับคุณตันจะรู้ว่าแกจะถามเรื่องต่างๆ จนกระจ่างจริงๆ และคำถามหลักของแกนั้นไม่ใช่คำถามที่ว่า “ทำอย่างไรจึงจะสำเร็จ” แต่เป็น “จุดตายของธุรกิจนี้อยู่ตรงไหน” เพราะนั่นคือสิ่งที่เราต้องระวังมากที่สุด

ตอนทำธุรกิจ wedding studio คุณตันเคยไปดูงานที่ประเทศต่างๆ สิ่งหนึ่งที่ได้เรียนรู้คืออย่าไปซื้อเครื่องพิมพ์รูปมาเด็ดขาด เพราะเครื่องแบบนี้มันตกรุ่นตลอดเวลา ถ้าคุณลงทุนไปก็ต้องเปลี่ยนใหม่ กำไรก็ไปจมอยู่กับเครื่องพิมพ์นี้ ดังนั้นนี่จึงเป็นสิ่งที่คุณตันระวังมากเพราะจำได้ว่าจุดตายมันอยู่ตรงไหน

Tags: , , , , , , , ,