แม้ เบอร์นี แซนเดอร์ส จะถอนตัวจากการแข่งขันชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และสนับสนุนให้โจ ไบเดน รับตำแหน่งแทน แต่ความนิยมที่คนรุ่นใหม่มีต่อตัวเขาก็ดูจะยังไม่เสื่อมคลาย โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา เขาได้ปรากฏตัวในอินสตาแกรมไลฟ์ของ คาร์ดี บี ที่มีผู้ติดตามกว่า 63 ล้านคน โดยแรปเปอร์สาววิดีโอคอลกับเขา เพื่อสัมภาษณ์เกี่ยวกับการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นในปลายปีนี้ และวิกฤติโควิด-19 ที่กำลังเกิดขึ้น

คาร์ดี บี (ซึ่งเรียกแซนเดอร์สว่า ‘ลุงเบอร์นี’) บอกกับเขาว่าเธอเสียใจอย่างมากที่เขาถอนตัวออกไป “ฉันยังคงบอกผู้คนที่สนับสนุนฉันว่าพวกคุณยังคงต้องออกไปเลือกตั้งนะ” 

เธอกล่าวว่าแม้เธอจะเชียร์แซนเดอร์สสุดใจ และเธอจะเลือกโจ ไบเดน แต่ส่วนตัวเธอและรวมถึงคนรุ่นใหม่อีกหลายคนยังคงกังขาที่แซนเดอร์สพยายามบอกให้สนับสนุนโจ ไบเดนเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตซึ่งมีภาพลักษณ์เสรีนิยม เธอระบุว่าไบเดนนั้นมีความคิดค่อนไปทางอนุรักษนิยม (ซึ่งเห็นได้จากตอนลงชิงชัยตำแหน่งรองประธานาธิบดีสมัยบารัค โอบาม่า) ดังนั้นเมื่อแซนเดอร์สถอนตัวและสนับสนุนไบเดนขึ้นมาแทน เธอจึงต้องการคำอธิบายเพิ่ม

แซนเดอร์สตอบว่าสิ่งสำคัญที่สุดยังคงเป็นการทำทุกทางที่จะเอาชนะทรัมป์ให้ได้ นั่นคือการให้พรรคเดโมแครตเป็นฝ่ายชนะ ดังนั้นโจ ไบเดน ที่มีแนวโน้มจะได้คะแนนโหวตสูงกว่าเขาจึงเป็นความหวังสำคัญ

“ในความคิดของผม โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีที่อันตรายที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกันสมัยใหม่ เขาพูดโกหกตลอดเวลา ไม่เชื่อในวิทยาศาสตร์ เขาไม่ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาโคโรนาไวรัสจนคนเป็นหมื่นต้องตายไป เขาไม่เชื่อในรัฐธรรมนูญและเชื่อว่าตัวเองอยู่เหนือกฎหมาย” เขาเสริมว่าไบเดน น่าจะมีความก้าวหน้ากว่าทรัมป์ 

เกี่ยวกับโควิด-19 คาร์ดี บี กล่าวว่าเธอรักความเป็นส่วนตัว (privacy) แต่เธอก็เห็นว่ามาตรการของเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ที่ใช้วิธีเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลในระบบเพื่อติดตามตัวผู้ติดเชื้ออย่างใกล้ชิดไม่ว่าคนคนนั้นจะอยู่ที่ไหน แม้ดูจะได้ผลดีในการควบคุมการแพร่เชื้อ แต่เธอยังคงไม่แน่ใจว่ามันคือการรุกล้ำความเป็นส่วนตัวหรือไม่ และไม่แน่ใจว่าควรรู้สึกกับสิ่งนี้อย่างไร

แซนเดอร์สกล่าวว่ารัฐบาลจำเป็นต้องหาความสมดุลในเรื่องนี้ แต่ต้องยอมรับว่าสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือการหยุดยั้งการแพร่เชื้อให้ได้ และสิ่งที่ควรโฟกัสคือผู้ป่วยต้องได้รับการดูแลอย่างดี บุคลากรทางการแพทย์ก็ควรมีอุปกรณ์ป้องกันที่ได้ประสิทธิภาพ และทรัมป์ควรต้องจ่ายเงินชดเชยแก่ลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างด้วย

แม้บทสนทนาเหล่านี้จะเป็นเรื่องที่ผู้คนพูดกันอยู่แล้ว แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของคนดังรวมถึงนักการเมืองในประเทศ ที่ล้วนมองเห็นว่ารัฐบาลของตนเองมีปัญหาและจำเป็นต้องเกิดการแก้ไข และพวกเขามีวิธีในการผลักดันแนวคิดของตนอย่างไร

ตัวเลขผู้ติดเชื้อในสหรัฐอเมริกา ณ วันที่ 15 เมษายนอยู่ที่ 614,180 คน รักษาหายแล้ว 49,857 คน และเสียชีวิต 26,061 คน

ที่มา:

https://youtu.be/6dxLbhw2YEk