ที่เคปทาวน์ การสระผมทุกวันหรืออาบน้ำนาน ถือว่าไม่รับผิดชอบต่อสังคม

เมืองใหญ่บนชายฝั่งตะวันตกของประเทศแอฟริกาใต้อย่าง ‘เคปทาวน์’ เป็นเมืองที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของประเทศ มีประชากรหนาแน่นเป็นอันดับสองรองจากเมืองโจฮันเนสเบิร์ก กำลังเผชิญหน้ากับภาวะไม่มีน้ำ หนักหนากว่านั้นคือ กลางเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ อาจเข้าสู่ภาวะ ‘Day Zero’ วันที่ไม่มีน้ำไหลออกจากก๊อก ไม่มีน้ำเหลือพอสำหรับผลิตน้ำประปาแจกจ่ายให้กับชาวเมือง

เข้าสู่ปี 2018 เพียงสัปดาห์แรกของปี ปริมาณน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ลดลงจนถึงขั้นวิกฤต มีน้ำหลงเหลืออยู่เพียง 1 ใน 4

ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์เป็นต้นมา เทศบาลเมืองรณรงค์ให้ชาวเมืองลดการใช้น้ำ โดยขอให้งดอาบน้ำในอ่าง ไม่อาบน้ำทั้งตัว และไม่อาบน้ำนานเกินกว่า 2 นาที รวมทั้งออกมาตรการจำกัดการใช้น้ำต่อวันอยู่ที่คนละไม่เกิน 50 ลิตร

แอฟริกาใต้ประสบภัยแล้งต่อเนื่องกันมาสามปี เดเร็ก แวน แดม นักอุตุนิยมวิทยาอธิบายว่า ภาวะขาดน้ำนี้เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก ทำให้ความกดอากาศสูงในมหาสมุทรแอตแลนติกเพิ่มความแรงและขยายตัวออกไปมากกว่าปรกติ ผลักดันให้ฝนตกห่างออกไปจากชายฝั่งตะวันตกของประเทศ

แอฟริกาใต้เผชิญกับความแห้งแล้งที่สุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2558 และ 2560 มีการคาดการณ์โดยแบบจำลองพบว่ามีแนวโน้มที่ความแห้งแล้งจะดำเนินต่อไปทั่วทั้งภาคตะวันตกของแอฟริกาใต้ และมีความเป็นไปได้ที่ปริมาณน้ำฝนประจำปีจะลดลงถึง 40%

ภัยแล้งที่กำลังเกิดขึ้นส่งผลให้ชาวเมืองตื่นตระหนก เกินครึ่งหนึ่งให้ความร่วมมือในการประหยัดน้ำอย่างเคร่งครัด โดยลดจำนวนครั้งในการอาบน้ำลง หรืออาบแค่บางส่วนของร่างกายและไม่สระผม หลายบ้านหมุนเวียนน้ำโดยนำน้ำจากการอาบมาเติมในโถชักโครก ขณะที่ตามโรงแรมต่างๆ ขอร้องให้แขกที่เข้าพักไม่อาบน้ำในอ่างและไม่อาบน้ำนานเกินสองนาที รวมทั้งเปลี่ยนมาใช้ภาชนะใส่อาหารแบบใช้แล้วทิ้ง แต่ยังมีชาวเมืองอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่แยแสต่อวิกฤตที่เกิดขึ้น จนเทศบาลเมืองต้องออกคำขู่ว่าจะมีโทษปรับ และจะใช้มิเตอร์ตรวจจับเพื่อควบคุมการใช้น้ำ

ขณะที่ตามสถานที่สาธารณะมีการติดตั้งแหล่งแจกจ่ายน้ำสะอาดจำนวน 200 แห่งทั่วเมือง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน โดยกำหนดให้นำน้ำกลับไปได้คนละไม่เกิน 25 ลิตรต่อวัน แหล่งจ่ายน้ำหลายจุดมีการต่อแถวเพื่อรองน้ำยาวเหยียดตลอดทั้งวันทั้งคืน และบางแห่งมีการกระทบกระทั่งกันเกิดขึ้น

นอกจากผลกระทบต่อชาวเมืองแล้ว ยังมีความกังวลว่าวิกฤตภัยแล้งที่กำลังเผชิญอยู่นี้ จะส่งผลไปถึงการท่องเที่ยวของเมืองอีกด้วย ทั้งนี้เคปทาวน์ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของบรรดาทัวริสต์ ปีที่แล้ว เคปทาวน์มีรายได้จากการท่องเที่ยวราว 35,000 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นร้อยละ 9 ของมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยมีผู้มาเยือนถึงกว่า 10 ล้านคน

แคลร์ แชฟเฟอร์ นักท่องเที่ยวจากเยอรมนีบอกว่า แอฟริกาใต้เป็นประเทศที่สวยงาม ไม่มีอะไรที่จะมาหยุดยั้งไม่ให้เธอมาที่นี่ เธอบอกว่า ถ้าไม่ได้อาบน้ำสักหนึ่งหรือสองวันก็คงไม่เป็นอะไร แต่ถ้าไม่มีน้ำเลย ก็จินตนาการไม่ออกเหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไร

เอียน นีลสัน รองนายกเทศมนตรีบอกว่า เคปทาวน์สามารถหลีกเลี่ยง Day Zero ได้ ด้วยการลดการใช้น้ำของชาวเมืองลงจาก 1,200 ล้านลิตรต่อวัน เหลือ 540 ล้านลิตรต่อวัน และถ้าลดการใช้น้ำลงได้อีก 25% ก๊อกน้ำก็จะมีน้ำไหลต่อไปจนถึงต้นฤดูฝนในเดือนพฤษภาคม แต่ก็ไม่อาจรับรองได้ว่าฝนจะตกลงมาตรงตามฤดูกาล

ขณะนี้ทางเทศบาลเมืองเคปทาวน์กำลังเร่งสร้างโรงแยกเกลือจากน้ำทะเลเพื่อผลิตน้ำจืด สร้างโรงกรองน้ำ และทำโครงการรีไซเคิลน้ำเพื่อช่วยเพิ่มปริมาณน้ำสำรอง รวมทั้งมีการเร่งขุดเจาะบ่อบาดาล แข่งกับ Day Zero ที่กำลังใกล้เข้ามาทุกขณะ

Tags: , , ,