เมื่อวานนี้ (16 กันยายน) กระทรวงสาธารณสุขบราซิล ประกาศให้รัฐต่างๆ ระงับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับวัยรุ่นที่ไม่ได้เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยง เพื่อเร่งตรวจสอบรายละเอียดการเสียชีวิตของเด็ก 16 ปี ในเมืองซาเบอร์นาร์โดดูกัมโป หลังได้รับวัคซีนไฟเซอร์โดสแรก
มาร์เซโล เคย์โรกา (Marcelo Queiroga) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแถลงว่ากำลังตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตว่ามีความเชื่อมโยงกับวัคซีนหรือไม่ พร้อมกับตำหนิรัฐและเมืองต่างๆ ที่รีบร้อนฉีดวัคซีนให้เด็กอายุ 12-17 ปี ที่ไม่มีโรคประจำตัวก่อนกำหนดการของกระทรวงสาธารณสุข ระหว่างนี้ ทั้งประเทศต้องระงับการฉีดวัคซีนโดสแรกให้แก่วัยรุ่นที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ส่วนคนได้รับวัคซีนโดสแรกไปแล้ว อนุญาตให้กลับไปฉีดโดสสองต่อได้
แม้ไม่ได้ระบุเหตุผลขอระงับการฉีดวัคซีนในกลุ่มวัยรุ่นแน่ชัด แต่เคย์โรกาเปิดเผยว่ามีการแจ้งอาการไม่พึงประสงค์หลังได้รับการฉีดวัคซีนถึง 1,545 ราย จากจำนวนทั้งหมด 3.5 ล้านราย โดย 93% เป็นผู้ที่ได้รับการฉีดโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์และไบโอเอ็นเท็ค (BioNTech) ซึ่งเป็นวัคซีนเดียวที่ได้รับการอนุมัติสำหรับฉีดให้แก่ผู้เยาว์ในบราซิล อีกทั้งหลักฐานเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนในกลุ่มวัยรุ่นที่มีสุขภาพดียังไม่แน่ชัด แม้ผลทดลองทางคลินิกจะแสดงให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันโรค
ทว่า จัว โดเรีย (Joao Doria) ผู้ว่าการรัฐเซาเปาโล ที่มีประชากรมากที่สุดในบราซิล และดำเนินการฉีดวัคซีนให้แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปีไปแล้วเกือบ 2.5 ล้านคน เปิดเผยผ่านโซเชียลมีเดียว่า ทางเซาเปาโลจะไม่ระงับการฉีดวัคซีนให้แก่วัยรุ่น เช่นเดียวกับรัฐอื่นๆ ส่วนใหญ่ก็ยังไม่มีแผนจะระงับการฉีดวัคซีนให้แก่วัยรุ่นตามคำขอล่าสุด
ด้านไฟเซอร์ออกมาแถลงว่า กำลังติดตามการเสียชีวิตอย่างใกล้ชิด แต่ ณ ตอนนี้ ยังไม่มีความเชื่อมโยงที่พิสูจน์ได้ว่าการเสียชีวิตเกี่ยวข้องกับวัคซีนของไฟเซอร์ ทั้งนี้ หน่วยงานกำกับดูแลของ สหรัฐอเมริกา อิสราเอล และหลายประเทศต่างอนุมัติให้ใช้วัคซีนของไฟเซอร์กับวัยรุ่น ซึ่งต้องติดตามรายงานผลข้างเคียงทั้งหมดอย่างใกล้ชิดต่อไป แต่การศึกษาซ้ำหลายครั้งแสดงให้เห็นว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการป่วยรุนแรงหรือการเสียชีวิตจากโควิด และพบผลข้างเคียงร้ายแรงจากการฉีดวัคซีนได้ยากเป็นพิเศษ
อ้างอิง:
Tags: ไฟเซอร์, ฺฺBrazil, Pfizer, บราซิล, COVID-19, Vaccine