หากพูดถึงการสื่อสารของมนุษย์แล้ว ‘ดนตรี’ คงเป็นหนึ่งใน ‘ภาษาสากล’ ที่ทำหน้าที่หล่อหลอมวัฒนธรรมและสังคมทั่วโลกมาหลายชั่วอายุคน เพราะดนตรีมีพลังในการเปลี่ยนแปลงอารมณ์ สร้างการรับรู้ และสร้างแรงบันดาลใจได้ไม่รู้จบ
ดังนั้น ดนตรีจึงมีอิทธิพลต่อสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในหมู่วัยรุ่นและกลุ่มนักเรียน เปรียบอีกนัยหนึ่งอาจเป็นดัง ‘โลกอีกใบ’ ที่บอกว่าพวกเขามีคุณค่า และสามารถชี้นำให้พวกเขาค้นพบ ‘ตัวตน’ ที่แท้จริง
ขึ้นชื่อว่าช่วงชีวิตวัยรุ่นย่อมมีโมเมนต์ที่รู้สึกโดดเดี่ยวหรือแปลกแยกจากสังคม ทว่าในช่วงเวลาอึมครึม ดนตรีกลับเป็น ‘เครื่องมือ’ ที่ใช้ระบายความรู้สึกคับข้องใจ มิหนำซ้ำ การฟังเพลงยังเปิดโอกาสให้วัยรุ่นได้รู้สึกผูกพันกับนักดนตรีและแฟนเพลงคนอื่นๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่อาชีพนักดนตรีจะเป็นหนึ่งในเป้าหมายและความฝัน ที่พวกเขาอยากจะมุ่งไปให้ถึงสักครั้ง แม้จะต้องใช้เวลานานแค่ไหน หรือเส้นทางสายดนตรีจะเต็มไปด้วยอุปสรรคขวากหนามก็ตาม
แต่อุปสรรคที่ขวางกั้นเป้าหมายดังกล่าว กลับไม่ใช่เรื่องของความสามารถ หากแต่เป็นการมีพื้นที่หรือ ‘เวที’ ที่จะช่วยให้พวกเขาปล่อยของได้อย่างเต็มที่ เท่าเทียม และบอกว่าเส้นทางสายดนตรีไม่ใช่เพียงแค่ความฝันลมๆ แล้งๆ
อย่างไรก็ดี ความฝันนั้นมีทางเป็นไปได้เสมอ
เพราะความเป็นไปได้ที่ว่าคือหัวใจหลักของ THE POWER BAND 2023 Season 3 เวทีประกวดวงดนตรีคุณภาพระดับประเทศ ทั้งในระดับมัธยมศึกษาและบุคคลทั่วไป ที่จัดขึ้นโดยกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ภายใต้คอนเซปต์ ‘IT’S POSSIBLE : MUSIC MAKES LIFE POSSIBLE พลังแห่งดนตรี พลังแห่งทุกความเป็นไปได้’ โดยร่วมมือกับ 6 ค่ายเพลงชั้นนำของไทยอย่าง Muzik Move, LOVEiS Entertainment, Smallroom, What The Duck, Warner Music Thailand และ XOXO Entertainment ซึ่งผู้ชนะจะได้ร่วมทำซิงเกิลเพลงและมิวสิกวิดีโอ กับค่ายเพลงภายใต้การดูแลของ บริษัท มิวซิกมูฟ จำกัด
ทั้งนี้ รายการดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้เป้าหมายหลัก นั่นคือต้องการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการเพลงไทย ในการเฟ้นหาคลื่นลูกใหม่สู่การเป็นศิลปินมืออาชีพ โดยมีพันธมิตรที่ร่วมให้การสนับสนุน ได้แก่ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จํากัด, นิตยสาร The Guitar Mag, บริษัท สยามดนตรียามาฮ่า จำกัด และ T-POP
โดยการแข่งขันนี้ แบ่งการประกวดออกเป็นสองรุ่น ทั้งในระดับมัธยมศึกษา (Class A) และระดับบุคคลทั่วไป (Class B) และการแข่งขันในปีนี้ถือว่าได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากผู้เข้าประกวดทั้งสองรุ่น โดยเฉพาะในรอบออดิชันของกรุงเทพมหานคร ก็ได้รับความสนใจมาก มีคนดนตรีร่วมส่งคลิปวิดีโอเข้าประกวดกว่า 80 วง
เรียกได้ว่า THE POWER BAND 2023 Season 3 คือพื้นที่แสดงความสามารถที่มอบโอกาสให้คนไทยทุกคน ได้ออกมาแสดงความรักและศักยภาพทางดนตรีกันอย่างเต็มที่ เพื่อขยับเข้าใกล้ความฝันของตัวเองไปอีกขั้น และเป็นเครื่องยืนยันว่า พลังไฟของนักดนตรีไทย ไม่มีวันมอดดับลงไปง่ายๆ อย่างแน่นอน
กระทั่งเมื่อเร็วๆ นี้ ที่โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ ได้จัดประกวดรอบชิงชนะเลิศ THE POWER BAND 2023 Season 3 ซึ่งเหล่าคนดนตรีได้พิสูจน์ฝีมือ และสร้างสรรค์พลังทางดนตรีในแบบฉบับของตนเองอย่างเข้มข้น จนในที่สุดก็ได้คัดเลือกผู้เข้าแข่งขันจนเหลือสองสุดยอดวงดนตรีที่ชนะเลิศจาก Class A และ Class B โดยมี อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และศาสตราจารย์ นายแพทย์บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ให้เกียรติเป็นผู้มอบรางวัล
ภายในงานมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายสาขาอาชีพในวงการเพลงทั้งไทยและต่างชาติร่วมตัดสิน ทั้ง พล คชภัค ผลธนโชติ ผู้บริหารค่าย Boxx Music และ Zircle Muzik, โอ๊บ-เพิ่มศักดิ์ พิสิษฐ์สังฆการ ผู้บริหารค่าย Move Records, รองศาสตราจารย์จอร์จี มิคัดเซ (Giorgi Mikadze) นักเปียโนและนักประพันธ์ดนตรีชาวจอร์เจีย จากวิทยาลัยดนตรีเบิร์กเลย์, เป้-ไพสิฐ คำกลั่น หรือ Pae Sax Producer จนถึงศิลปินจากค่าย Melodic Corner และศรุติ วิจิตรเวชการ หัวหน้าสาขาวิชาดนตรีแจ๊ส มหาวิทยาลัยมหิดล
โดยสองวงดนตรี ที่คว้ารางวัลชนะเลิศ บนเวที THE POWER BAND 2023 Season 3 ได้แก่
ประเภทรุ่นมัธยมศึกษา Class A วงเตรียมอุดมศึกษา จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กรุงเทพฯ ที่รับถ้วยรางวัลเกียรติยศและเงินรางวัล 150,000 บาท ไปครอง
“ทุกคนในวงได้ทำในสิ่งตัวเองรัก นั่นคือการเล่นดนตรี เราตั้งใจกับการประกวดครั้งนี้มากๆ โดยได้ดึงจุดเด่นเรื่องดนตรีไทยร่วมสมัยออกมาโชว์ เพราะอยากสร้างความแตกต่าง ไม่อยากให้คนไทยลืมดนตรีไทยไป เวที The Power Band 2023 Season 3 ถือเป็นก้าวแรกที่ทำให้วงของพวกเราประสบความสำเร็จไปอีกขั้นในเส้นทางสายดนตรี สามารถต่อยอดไปทำอย่างอื่นในวงการเพลงได้อีกเยอะ ที่สำคัญยังได้มิตรภาพจากเพื่อนต่างโรงเรียนอีกด้วยครับ” ชลธาร เซ็นเชาวนิช ตัวแทนจากวงเตรียมอุดมศึกษา กล่าวถึงความสำเร็จในครั้งนี้
ขณะที่ประเภทรุ่นบุคคลทั่วไป ไม่จำกัดอายุ Class B ได้แก่ วงหน้าโรงเรียน จากจังหวัดศรีสะเกษ ที่รับถ้วยรางวัลเกียรติยศและเงินรางวัล 150,000 บาท
“วินาทีแรกที่ประกาศผลว่าได้แชมป์ พวกเราดีใจกันมากๆ เพราะทุกคนทุ่มเทฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อการประกวดในครั้งนี้ เวที The Power Band ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับทุกคนในวง ก่อนหน้านี้พวกเราได้มีโอกาสได้เข้าแคมป์ดนตรีด้วย เราได้คอมเมนต์จากกูรูคนดนตรีให้ได้ไปพัฒนาต่อ เป็นสิ่งที่ดีมากๆ สำหรับคณะกรรมการตัดสินทุกคนเป็นมืออาชีพ ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีจากคิง เพาเวอร์ และทุกๆ พันธมิตรที่เปิดโอกาสให้พวกเรามีพื้นที่โชว์ศักยภาพอย่างเต็มที่” ภัทรภร เติมทานาม ตัวแทนวงหน้าโรงเรียน กล่าวด้วยรอยยิ้ม หลังความสามารถของเธอและเพื่อนๆ ในวง ผลิดอกออกผลในรูปแบบของตำแหน่งผู้ชนะเลิศ
ทั้งนี้ผู้ชนะเลิศทั้งสองวงจะได้ร่วมทำซิงเกิลเพลง และมิวสิกวิดีโอกับค่ายเพลงภายใต้การดูแลของ บริษัท มิวซิกมูฟ จำกัด อีกด้วย ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับผู้ชนะทั้งสองวงอย่างแท้จริง
อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ มุ่งมั่นส่งเสริมศักยภาพของคนไทยทางด้านดนตรีอย่างต่อเนื่อง ผ่านการจัดเวทีประกวดวงดนตรีคุณภาพระดับประเทศ The Power Band ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่สามแล้ว ที่ผ่านมา เราได้เห็นเยาวชนไทยที่มีศักยภาพได้สร้างโอกาส และพลังแห่งความเป็นไปได้ให้เกิดและเติบโตขึ้นบนเส้นทางสายดนตรี โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เวทีนี้จะช่วยให้พวกเขาได้พัฒนาตนเองให้ได้ไปอยู่ในจุดสูงสุด เป็นการเพิ่มพูนทักษะและประสบการณ์ให้มากขึ้นอีกด้วย
เรียกได้ว่ารายการ THE POWER BAND 2023 Season 3 คือเครื่องยืนยันชั้นดีว่า ประเทศไทยของเรายังสามารถจุดพลังไฟแห่งความหวังให้กับเหล่าศิลปินรุ่นใหม่ได้อย่างมากมาย และหากยังมีพื้นที่ที่อนุญาตให้เหล่าคนรุ่นใหม่ได้แสดงศักยภาพและตัวตนทางดนตรีของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง ความสามารถของศิลปินไทย จะต้องถูกมองเห็นและได้รับเสียงปรบมือชื่นชมจากผู้คนอีกนับล้านทั่วโลกอย่างแน่นอน
ส่วนผลงานของผู้ชนะเลิศทั้งสองวงในอนาคตจะดีเยี่ยมเพียงใดคงต้องติดตามกันต่อไป เพียงแต่สิ่งที่ยืนยันในวันนี้ได้แน่นอนแล้ว คือความสำเร็จก้าวแรกในฐานะนักดนตรี ที่ได้ทุ่มเทและหยาดเหงื่อให้กับความฝันของตัวเองอย่างเต็มที่
Tags: King Power, คิง เพาเวอร์, THE POWER BAND 2023, Branded Content