ภารกิจใหญ่ SCG เติมเต็มบ้านด้วยนวัตกรรมอัจฉริยะ เพื่อให้บ้านช่วยดูแลคุณ

นิยามของคำว่า ‘บ้าน’ อาจหมายถึงครอบครัว ผู้คน การใช้เวลาอยู่ด้วยกัน โดยไม่จำเป็นต้องเป็นสถานที่ขนาดใหญ่ หากแต่เป็นบ้านที่ควรจะมีฟังก์ชันครบครัน ครบเครื่อง เพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยสำหรับคนทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย

The Chair ชวน วชิระชัย คูนำวัฒนา Head of Smart System Solution Business หัวเรือใหญ่ในการรับผิดชอบธุรกิจ SCG Smart Living มาเล่าให้ฟังว่า บ้านที่ช่วยดูแลคุณได้ จะเป็นบ้านที่มีรายละเอียดอย่างไร ในงานสถาปนิก’66 (Architect’23) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-30 เมษายน 2566 นี้

พูดถึงคำว่า Smart Living ในนิยามของคุณคืออะไร และเกี่ยวข้องกับ SCG อย่างไร

เมื่อพูดถึง SCG เรามักจะพูดถึงด้านวัสดุก่อสร้าง เรามีส่วนเกี่ยวข้องกับบ้าน ที่อยู่อาศัย และการใช้ชีวิตในบ้าน ในเวลาเดียวกัน เรายังมีโอกาสเข้าไปเรียนรู้ เข้าใจพฤติกรรมการใช้ชีวิตในบ้าน ตลอดจนทำให้เข้าใจ ‘พฤติกรรม’ ของบ้านด้วย

อีกส่วนหนึ่ง คือ SCG พูดเสมอว่า เรามีแนวคิด Passion for Better Living 

เพื่อการใช้ชีวิตและทำให้การอยู่อาศัยนั้นดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง… อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบันต้องยอมรับว่า การอยู่ในบ้านนั้นยากขึ้น และมีปัญหาซับซ้อนหลายเรื่อง

รวมถึงตัวผมเองก็อยู่ในบ้านที่ครอบครัวมีผู้สูงอายุอยู่ด้วย จึงมีประสบการณ์ร่วมในการเข้าใจลูกค้า ว่าต้องเจอกับปัญหาอะไรในบ้านบ้าง เมื่อ SCG สนใจเรื่องนวัตกรรม สนใจเทคโนโลยี เราก็เสาะแสวงหาว่ามีอะไรตอบโจทย์ตรงนี้ได้ไหม จึงมองเห็นโอกาส ขยายนวัตกรรมของเราให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น

เรื่องของ Smart Living ที่ SCG ภูมิใจนำเสนอในงานสถาปนิก’66 มีอะไรบ้าง

อย่างแรก เรามีเรื่องของ Smart Energy ที่วันนี้สำคัญมาก เพราะหลายคนบ่นเรื่องค่าไฟฟ้าแพง

Smart Living ในส่วนนี้คือการดูแลเรื่องของ Solar Roof ในการนำพลังงานสะอาดเข้ามาผลิตกระแสไฟฟ้าในบ้าน ตอบโจทย์ทั้งเรื่องการประหยัดเงินในกระเป๋า และตอบโจทย์โลกในเรื่องของการใช้พลังงานสะอาด

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไม SCG ถึงได้ลุกขึ้นมาทำเรื่อง Solar Roof ก่อนอื่นต้องไม่ลืมว่าเราทำเรื่องหลังคา โครงสร้าง และวัสดุก่อสร้างมานาน เพราะฉะนั้นจึงเข้าใจเรื่องหลังคาเป็นอย่างดี เมื่อพื้นที่ที่ดีที่สุดในการติด Solar คือหลังคา เราจึงได้นำนวัตกรรมการออกแบบหลังคาออกมาให้เอื้อกับการติดตั้งแผง Solar ให้มากที่สุด ขณะเดียวกัน ยังเตรียมเรื่องของแบตเตอรีไปใช้ไฟในตอนกลางคืนได้ด้วยเพื่อเข้ามาเป็นองค์ประกอบ

ข้อที่สอง Smart Air Quality – สิ่งที่เห็นชัดคือคุณภาพอากาศ ณ ขณะนี้ ในเรื่องของฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ชัดเจนแล้วว่า เป็นเรื่องที่มนุษย์จะต้องอยู่ด้วยต่อไปเรื่อยๆ คำถามคือแล้วจะแก้ปัญหาอย่างไร หรือต้องอยู่กับสิ่งนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพราะถึงอย่างไร ฝุ่น PM2.5 ก็จะมาหาเราทุกปี

ในส่วนนี้ SCG เองเข้าใจเรื่องการใช้ชีวิตในบ้าน เข้าใจเรื่องการไหลเวียนอากาศ จึงแนะนำนวัตกรรม SCG Active Air Quality เพื่อนำอากาศดีเข้ามาเติมและไล่อากาศเสียออกไป เพราะเวลาอยู่ในบ้านนั้น สิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ก็คือ เมื่อปิดบ้าน จะมีการสะสมก๊าซเสียต่างๆ โดยนวัตกรรม SCG Active Air Quality จะช่วยในส่วนนี้ผ่านการเติมอากาศบริสุทธิ์เข้ามา เป็นบ้านที่ทั้งปลอดฝุ่น เป็นบ้านที่สามารถฆ่าเชื้อโรค เพราะเชื้อโรคเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น และต้องเร่งจัดการ ซึ่งในที่สุดก็จะทำให้อากาศในบ้านดีขึ้น ดูแลสุขภาพคนในบ้านได้

ส่วนที่สาม Smart Health and Smart Safety & Security – ปัจจุบัน สังคมผู้สูงอายุ พ่อแม่อยู่บ้าน ในขณะที่ลูกหลานออกไปทำงาน สิ่งที่จะตอบโจทย์และทำให้รู้ว่าพ่อแม่ที่อยู่ในบ้านนั้นปลอดภัย ก็คือการนำเทคโนโลยี Internet of Things (IoT) เข้ามาดูแลผู้สูงอายุในบ้านให้อยู่กันอย่างปลอดภัย

ยกตัวอย่างเช่น เรามีเรื่อง Fall Detection Radar กรณีที่ผู้สูงอายุเกิดลื่นล้มในบ้านก็มีเซนเซอร์ตรวจจับและสามารถคุยกับพยาบาลได้ทันที อีกทั้งยังเตือนเข้ามาในโทรศัพท์เราด้วยว่าคุณพ่อคุณแม่เกิดหกล้ม หรือเกิดเหตุฉุกเฉิน ก็เรียกรถพยาบาลมารับได้ด้วย ตรงนี้สบายใจได้ทันทีว่าแม้ไม่อยู่ในบ้านก็สบายใจได้เหมือนกับเราอยู่ในบ้าน

ในเวลาเดียวกัน Smart Living ของ SCG ยังเต็มไปด้วยอุปกรณ์เกี่ยวกับสุขภาพต่างๆ ที่สามารถวัดความดัน วัดอัตราการเต้นของหัวใจ แล้วส่งขึ้นไปในระบบให้สามารถติดตามค่าได้ว่าเป็นอย่างไร พร้อมทั้งยังส่งค่าต่างๆ เหล่านี้ไปยังหมอได้ทันที ทั้งหมดนี้ เป็นไปตามเทรนด์โลก ที่มีการใช้ระบบ Telemedicine มากขึ้น สามารถตรวจติดตามสุขภาพได้ตั้งแต่อยู่ในบ้าน ไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล ก็สามารถคุยกับหมอได้ เป็นนวัตกรรมที่ช่วยดูแลคนในบ้านได้ดีขึ้น

และส่วนสุดท้าย Smart Automation – เพื่อควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้าน เพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้นผ่านการใช้ระบบควบคุมอัจฉริยะที่สั่งการผ่านแอปพลิเคชันได้ และเมื่อพูดถึงเทคโนโลยีดิจิทัล พูดถึง IoT ก็แปลว่า ข้อมูลทุกอย่างจะถูกอัปโหลดขื้นไปอยู่ในระบบคลาวด์ ซึ่งในอนาคตไม่ว่าจะเป็นโซลูชันด้าน Smart Energy, Smart Air Quality เรื่องสุขภาพหรือโซลูชันเพื่อผู้สูงอายุ จะถูกรวบรวมเข้าไปอยู่ในแอปพลิเคชันเดียวกัน โดยสามารถเช็กข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ว่าคนในบ้านเป็นอย่างไร 

ทำไมต้องเป็น ‘บ้านที่ช่วยดูแลคุณ’ คำนี้มาจากไหน เพราะอะไร ถึงต้องให้ ‘บ้าน’ มาช่วยดูแล

(ยิ้ม) เป็นคำที่ทีมงานเราออกแบบเพื่ออธิบายสิ่งนี้ ลองนึกดูนะครับว่า สมัยก่อน เรามีบ้าน ไม่ว่าบ้านจะเป็นอย่างไร สิ่งที่เราต้องทำคือต้องคอยดูแลรักษาบ้าน แต่ลองคิดอีกมุมว่า หากเราใส่นวัตกรรม ใส่เทคโลยีในบ้านเข้าไป เปลี่ยนบ้านให้เป็นบ้านที่ฉลาด ก็กลายเป็นบ้านกลับมาดูแลเรา ดูแลค่าไฟให้ ดูแลคุณภาพอากาศให้เรา อีกทั้งยังกลับมาดูแลสุขภาพให้พ่อแม่เรา ดูแลความปลอดภัยให้คนในบ้านเรา กลายเป็นบ้านกลับมาดูแลเรา

จุดเด่นของ SCG ในธุรกิจนี้คืออะไร

สำหรับ SCG เรามีความเข้าใจเรื่องบ้าน และมีประสบการณ์ในด้านโซลูชันและเซอร์วิสที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามาเป็นระยะเวลานาน รวมถึงเรื่องนวัตกรรมเราก็มีการพัฒนาองค์ความรู้อย่างต่อเนื่อง เช่น เวลาพูดถึง Solar Roof ซึ่งปัจจุบันมีหลายแบรนด์อยู่ในตลาด แต่ประสบการณ์ของ SCG ที่ทำเรื่องหลังคามาอย่างยาวนาน ทำให้เรารู้ว่า หลังคาประเภทไหนสามารถรองรับน้ำหนักในการติดตั้งแผงโซลาร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือติดแล้วจะมีปัญหาการรั่วตามมาหรือไม่ จะมีระบบอะไรเตือนการรับประกันหรือเปล่า ส่วนนี้เป็นความเชี่ยวชาญของเราซึ่งอยู่ในธุรกิจนี้มานาน ก็จะเอาองค์ความรู้ มาผนวกกับนวัตกรรมสมัยใหม่ ผนวกกับนวัตกรรมดิจิทัล IoT เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าไปช่วยกันได้ด้วย 

IoT จะมาช่วยในส่วนนี้อย่างไร

เรามองว่าในอนาคตโซลูชันต่างๆ จะเป็นค่ามาตรฐาน ที่อุปกรณ์ต่างๆ ควรจะต้องคุยกันได้ ส่งต่อข้อมูลกันได้ นอกเหนือจากอุปกรณ์ ก็คือ data คือข้อมูลทั้งหมด ที่เราจะเก็บรวบรวมและใช้ประโยชน์ ฉะนั้น เวลาเรานึกถึงอุปกรณ์ทุกอย่าง ก็จะนึกถึง IoT ไปด้วย พร้อมเชื่อมโยงกันเสมอ อยู่ในคลาวด์ของเราซึ่งกำลังเป็นแผนงานที่เตรียมพร้อมที่จะออกในอนาคตอันใกล้นี้

จุดเด่นของ Solar Roof Solution ในส่วนของการให้บริการครบวงจร มีจุดเด่นอย่างไร 

จริงๆ สมัยก่อน คนมักจะคิดว่า Solar Roof เป็นของแพง แต่ตอนนี้ โอกาสคืนทุนไม่ได้ยาวเลย เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ที่เราทำครบวงจรตั้งแต่การตรวจสุขภาพหลังคา – การออกแบบติดตั้งระบบ Solar ให้มีประสิทธิภาพและผลิตไฟได้สูงสุด ขณะเดียวกัน เรายังเดินเอกสาร ขออนุญาตจากภาครัฐให้ – ติดตั้งโดยช่างมืออาชีพที่มีประสบการณ์ อีกทั้งยังดูแลหลังการขายพร้อมรับประกันโดย SCG เอง นานถึง 25 ปี

ในแง่ระบบจัดการอากาศภายในบ้าน ด้วยสองโซลูชัน SCG Active Airflow System และ SCG Active Air Quality ช่วยเล่าหลักการทำงานของทั้งสองระบบนี้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง

SCG Active Airflow System เป็นระบบถ่ายเทและระบายอากาศ ช่วยลดอุณหภูมิภายในบ้านได้ 2-5 องศา และลดอุณหภูมิให้ได้ 10-15 องศา ในโถงหลังคา ซึ่งจะช่วยทำให้ผู้อยู่อาศัยในบ้านรู้สึกเย็นสบายและทำให้ทั้งบ้านเย็นขึ้นได้ 

ส่วน  SCG Active Air Quality จะทำหน้าที่เติมอากาศดีเข้ามาในบ้าน เพราะมีตัวกรองห้าชั้น จึงสามารถกำจัดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ไม่ให้เข้าบ้าน และในเวลาเดียวกัน ก็กำจัดเชื้อโรคพร้อมเติมอากาศดีเข้าไปในบ้านได้ด้วย เป็นนวัตกรรมที่มีจุดเด่นชัดเจน เพราะช่วยขจัดปัญหาอากาศที่มีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่สะสมอยู่ในบ้านในปริมาณที่อาจจะเยอะเกินไป จนสามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพผู้อยู่อาศัยภายในบ้านได้ โดยยังสามารถติดอุปกรณ์ SCG Bi-ion เพื่อช่วยกำจัดเชื้อโรคเพิ่มเติมได้ ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ SCG Smart Living นำมาประยุกต์ใช้ 

นอกจาก Smart Living ที่คุณโชว์ให้เห็น มีอะไรที่น่าสนใจอีก 

ขอยกตัวอย่าง Smart Health Pod ห้องปรึกษาแพทย์ทางไกล ที่ติดตั้งมาพร้อมระบบอากาศสะอาด มีความเป็นส่วนตัว โดยติดตั้งได้ง่ายและรวดเร็วสําหรับใช้ดูแลสุขภาพ เช่น สามารถใช้เป็นฟังก์ชัน Telemedicine เพื่อคุยปรึกษากับคุณหมอได้อย่างเป็นส่วนตัว หรือสามารถใช้ในการประชุมออนไลน์ก็ได้ โดยใน Smart Health Pod ยังสามารถติดตั้งระบบ SCG Active Air Quality หรือ SCG Bi-ion เพื่อช่วยให้อากาศข้างในสะอาดปลอดภัยมากยิ่งขึ้นได้

ในอนาคต ตั้งเป้าในส่วนของ Smart Living ไว้อย่างไรบ้าง

โจทย์ของเราคือต้องหาสิ่งที่ดีกว่ามาตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และขยายผลมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อทำให้การใช้ชีวิตภายในบ้านมีคุณภาพที่ดีขึ้น ซึ่งนอกจากกลุ่มลูกค้า เจ้าของบ้าน เราก็พร้อมร่วมมือกับผู้ประกอบการ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อออกแบบโซลูชันต่างๆ ร่วมกัน ให้ตอบทุกความต้องการที่เกิดขึ้น โดยเราสามารถ Co-Create กับหลายๆ โครงการ เช่นที่ผ่านมาเราได้พัฒนาระบบ SCG Active Air Quality กับโครงการ SC Asset อย่างครบวงจร ตั้งแต่การติดตั้งตลอดจนถึงการเชื่อมต่อข้อมูลเพื่อการดูแลคุณภาพอากาศเข้าไปในแอปพลิเคชันของทางโครงการได้เลย โดยเรายังมีแผนงานที่จะออกแบบและพัฒนาโซลูชันรวมถึงระบบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง