BP บริษัทพลังงานสัญชาติอังกฤษขนาดยักษ์ประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่าจะตัดจำหน่ายสินทรัพย์ในอุตสาหกรรมน้ำมันและแก๊สธรรมชาติมูลค่าราว 17.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสที่สอง โดยแบ่งเป็นสินทรัพย์ประเภทที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ มูลค่าราว 8 ถึง 11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และสินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสำรวจแหล่งน้ำมันใหม่อีก 8 ถึง 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

มูลค่าสินทรัพย์ที่ถูกตัดจำหน่ายคิดเป็นสัดส่วนที่สูงถึง 12 เปอร์เซ็นต์จากมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมดในอุตสาหกรรมน้ำมันและแก๊สธรรมชาติของบริษัท การตัดสินใจด้อยค่าสินทรัพย์ครั้งนี้เกิดจากราคาน้ำมันที่อ่อนตัวอย่างมากนับตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 และคงไม่มีโอกาสฟื้นตัวในระยะยาวเนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันอาจเข้าสู่จุดสูงสุด (Peak Oil) เร็วกว่าที่คาดไว้  โดยบริษัท BP ได้ปรับลดประมาณการราคาน้ำมันในระยะยาวราว 30 เปอร์เซ็นต์เหลือเพียง 55 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์มองว่าราคาน้ำมันที่อ่อนตัวจะเร่งให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดที่รวดเร็วยิ่งขึ้น นั่นหมายความว่าการพัฒนาโครงการสำรวจและผลิตแหล่งพลังงานฟอสซิลแห่งใหม่อาจไม่คุ้มค่าทางการเงินในอีกต่อไป นี่คือสาเหตุที่บริษัท BP ตัดสินใจตัดจำหน่ายโครงการในอ่าวเม็กซิโกและแคนาดาออกจากสินทรัพย์ เป็นการส่งสัญญาณว่าจะไม่มีการเดินหน้าโครงการเหล่านี้ในอนาคต

เบอร์นาร์ด ลูนีย์ (Bernard Looney) ประธานกรรมการบริหารคนปัจจุบันของบริษัท BP แสดงวิสัยทัศน์ต่อนักลงทุนตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่ผ่านมาว่าเขาจะยกเครื่องบริษัทใหม่โดยลดการลงทุนในน้ำมันและแก๊สธรรมชาติ แล้วเปลี่ยนมาลงทุนในพลังงานหมุนเวียนพร้อมกับตั้งเป้าหมายให้บริษัทเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ซึ่งหมายถึงการดำเนินงานทั้งหมดของบริษัทจะปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเท่ากับศูนย์ ภายใน ค.ศ. 2050

ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอยจากการระบาดของโควิด-19 เขาได้ส่งอีเมล์ถึงพนักงานทุกคนเมื่อวันที่ 8 มิถุนายนว่าสถานการณ์ดังกล่าว “ทำให้เราต้องปรับตัวให้รวดเร็วยิ่งขึ้น และเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกินกว่าที่ตั้งใจไว้” นำไปสู่การปลดพนักงานกว่า 10,000 ตำแหน่งหรือคิดเป็นราว 15 เปอร์เซ็นต์ของแรงงานทั้งหมด

แต่ BP ไม่ใช่ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานแห่งเดียวที่เริ่มตัดจำหน่ายสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันและแก๊สธรรมชาติ โดยคู่แข่งอย่าง Shell ก็เพิ่งประกาศตัดจำหน่ายสินทรัพย์มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เช่นเดียวกับ Chevron ที่ตัดจำหน่ายสินทรัพย์มูลค่า 10.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์จากบริษัท Morgan Stanley มองว่าราคาน้ำมัน 55 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลตามการคาดการณ์ของ BP ยังเป็นการ ‘มองโลกในแง่ดี’ เกินไป จากความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แรงกดดันจากภาคประชาสังคม รวมถึงข้อตกลงปารีส อาจทำให้สินทรัพย์ในอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิลอีกหลายแห่งมูลค่าเหลือศูนย์ในอนาคต

ที่มา:

https://www.nytimes.com/2020/06/15/business/energy-environment/bp-oil-gas-write-down.html

https://www.ft.com/content/2d84fc23-f38d-498f-9065-598f47e1ea09

https://news.trust.org/item/20200615093511-7t266/

ภาพ: BEN STANSALL / AFP