ในยุคสภาวะโควิด-19 ‘Bonci’ (บอน-ชี่) คาเฟ่น้องใหม่ย่านสะพานควาย กล้าที่จะสวนกระแสเศรษฐกิจ ด้วยความเชื่อที่ว่า “ยังไงทุกคนก็ยังอยากออกจากบ้าน เราเองยังอยากออกมาเลย” หนึ่งในหุ้นส่วนของบอนชี่เล่าให้เราฟัง ขณะที่ผู้คนกำลังทยอยต่อคิวกันเข้ามาในร้านในเช้าวันแรกที่เปิดร้าน มีผู้คนมารออุดหนุนเข้าคิวหน้าร้านก่อนเวลาเปิดกันอุ่นหนาฝาคั่ง

หนึ่งในหุ้นส่วนของบอนชี่เล่าให้ฟังว่า คำว่า Bonci (บอน-ชี่) เกิดจากการเรียงตัวอักษร 5 ตัวที่ชอบ ซึ่งเป็นภาษาอิตาลี เดิมทีร้านเป็นตึกเช่าผนังสีขาว ได้ทำการรีโนเวตใหม่ โดยสร้างคอนเซ็ปต์จากการพิจารณาพื้นที่เดิมของร้านแล้วใส่ดีไซน์ตามรสนิยมความชอบ อย่างการใช้ผนังไม้สีน้ำตาลแดงกั้นโซน ตัดโทนด้วยพรมสีน้ำเงิน ใช้คู่กับเฟอร์นิเจอร์ดีไซเนอร์ในยุค mid-century แต่ทั้งนี้ก็ไม่อยากให้ร้านมีดีไซน์จัดจ้านจนเกินไป จะทำให้รู้สึกเบื่อง่าย เพราะอยากให้บอนชี่เป็นร้านที่สามารถเป็น everyday และมีราคาจับต้องได้

แหล่งรวมดีไซน์และเฟอร์นิเจอร์ชั้นดี

บอนชี่ถือเป็นแหล่งรวมเฟอร์นิเจอร์ดีไซเนอร์เอาไว้อย่างคับคั่ง อาทิ โปสเตอร์ The Danish Chair Poster Ant Chair, 1952 โปสเตอร์เก้าอี้คลาสสิกที่ออกแบบโดย Arne Jacobsen เพื่อใช้ในโรงอาหารของบริษัทยาที่เดนมาร์ก (Novo Nordisk Ant) ซึ่งตั้งชื่อตามความคล้ายคลึงกับร่างของมดที่ยกหัวขึ้น หรือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นแรกของร้านอย่างโคมไฟห้อยอะคริลิกใส VP Globe Pendant Light, 1969 ที่ออกแบบโดย Verner Panton ดีไซเนอร์ชาวเดนมาร์กที่ออกแบบเก้าอี้ดังอย่าง The Panton Chair, 1967 หรือแม้แต่ The Atollo Table Lamp, 1977 โคมไฟสีขาวตัวใหญ่ที่ตั้งตระการตาอยู่กลางร้าน

นอกจากนี้โทนของร้านก็เป็นอีกหนึ่งรายละเอียดที่เกิดจากความชอบแล้วลงมือทำการดีไซน์เองทั้งหมด บอนชี่เน้นใช้รูปสไมลีย์ในพื้นที่ส่วนต่างๆ ตั้งแต่ป้ายอะคริลิกหน้าร้าน ไฟนีนอนที่ดัดเป็นรูปหน้ายิ้มหรือแม้กระทั่งป้ายอะคริลิกเล็กๆ บนโต๊ะที่สร้างลูกเล่นได้เข้ากับสถานการณ์โควิด-19 ด้วยการใช้คำเน้นย้ำให้ social distancing อีกด้วย

ความจริงแล้วบอนชี่เป็นทั้ง Cafe & Bar แรกเริ่มเดิมทีมีแพลนจะเปิดพร้อมกัน แต่ด้วยสถานการณ์แบบนี้ที่มาตรการของรัฐประกาศห้ามขายแอลกอฮอล์ ทำให้โซนบาร์ซึ่งอยู่บนชั้นสองของร้านถูกเลื่อนวันเปิดออกไปก่อน ทั้งนี้อยากให้ติดตามกันไว้ เพราะหากสถานการณ์ดีขึ้น ร้านมีแพลนจะเปิดให้บริการเร็วๆ นี้

และแน่นอนว่าชั้นสองก็สวยงามไม่แพ้ชั้นล่าง ด้วยพื้นที่กว้างขวาง ปูพรมสีน้ำเงินเต็มพื้นที่ ตัดกับผนังไม้ของเคาน์เตอร์ยาวสีน้ำตาลแดง เติมเต็มความรู้สึก good vibes และมีกลิ่นอายยูนิเซ็กซ์ได้อย่างลงตัว

พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส

จริงๆ แล้วบอนชี่เริ่มต้นโปรเจ็กต์เมื่อตุลาคมปีที่แล้ว เพราะสถานการณ์โควิด-19 เริ่มดีขึ้น มีจำนวนผู้ติดเชื้อน้อยลง เดิมทีตั้งใจจะเปิดช่วงปลายปี 2563 แต่เมื่อช่วงปีใหม่สถานการณ์กลับเลวร้ายขึ้น ทำให้เลื่อนมาเป็นวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา นอกไปจากนี้สร้างอีเวนต์เล็กๆ ให้คนอยากมาคาเฟ่มากขึ้นด้วยการร่วมมือกับ Sculpture Bangkok เกิดเป็นอีเวนต์โฟโต้บูธให้ถ่ายรูปเล่น จัดถึง 25 มกราคมนี้

เมื่อซื้อเครื่องดื่มและขนมถึง 550 บาท สามารถถ่ายรูปฟรี หรือหากต้องการถ่ายรูปเพียงอย่างเดียว มีค่าใช้จ่ายครั้งละ 150 บาท จะได้รูปขาวดำสามช็อตจำนวนสองใบ แนะนำให้จองคิวก่อนไป

ใส่ใจในทุกรายละเอียด

บอนชี่ให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็กๆ อย่างการปรึกษาคอนซัลต์และผ่านการทดสอบรสชาติ รังสรรค์ให้เกิดเป็นรสที่ถูกปากเป็นเอกลักษณ์ของร้าน รวมไปถึงเมล็ดกาแฟที่นำมาจากโรงคั่วจากเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งมีในลักษณะ 2 แบบด้วยกัน คือ

House Blend – เมล็ดกาแฟบราซิล ช็อกโกแลต มีรสชาติเข้มๆ หอมกลิ่นถั่ว

Special Blend – เมล็ดกาแฟบราซิลเอธิโอเปีย มีความฟรุตตี้ แต่ไม่เปรี้ยวมาก หอมกลิ่นบลูเบอร์รี

เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน

Bimbom Cream – ลาเต้ครีมชีส ที่มีการตีครีมข้างบน กาแฟเข้ากับครีมอร่อยอย่างลงตัว – 150 บาท

Bimbom Sour – กาแฟดำ ส้มยูซุ กลิ่นหอมสดชื่น – 150 บาท

Dirty – กาแฟที่มีความครีมมีเล็กน้อย – 130 บาท

Bimbom Cream

นอกจากนี้บอนชี่ยังมีตัวขนมที่เป็นซิกเนเจอร์สูตรฝีมือคุณน้า อย่างเค้กแครอตโฮมเมด – 100 บาท, ไอศกรีม Vanilla Soft Serve – 100 บาท และครัวซองต์ที่มีหลากหลายรสชาติ อาทิ รสบัตเตอร์, รสอัลมอนด์, ช็อกโกแลตลาวา, ไข่เค็มลาวา เป็นต้น

ทั้งนี้ หากไม่สะดวกเดินทางไปที่ร้าน บอนชี่มีบริการเดลิเวอรี สามารถสั่งได้ใน Grab

 

อ้างอิง

https://en.wikipedia.org/wiki/Ant_(chair)

https://en.wikipedia.org/wiki/Verner_Panton

Fact Box

Bonci (บอนชี่) ตั้งอยู่ที่ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร

(ร้านอยู่ตรงข้าม Big C สะพานควาย) ใกล้กับ BTS สะพานควาย

เวลาทำการ 10.00-18.00 น. ปิดทุกวันอังคาร

มีที่จอดรถหลังร้านเล็กน้อย

Instagram : hellobonci Facebook : Bonci

 

Tags: , ,