นับแต่ปีก่อตั้งเมื่อ 2008 มาวันนี้ก็สิบปีแล้วที่แพลตฟอร์มให้เช่าที่พักอาศัย แอร์บีแอนด์บี (Airbnb) ดำเนินธุรกิจมา ปัจจุบันแอร์บีแอนด์บีเติบโตอย่างรวดเร็ว มีที่พักในลิสต์มากถึง 4.5 ล้านแห่งใน 81,000 เมือง จาก 191 ประเทศทั่วโลก มีนักเดินทางเลือกใช้แอร์บีแอนด์บีมากกว่า 300 ล้านคน สร้างรายได้ให้เจ้าของที่พักรวมกันแล้วถึง 4.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 1.3 ล้านล้านบาท)

แต่ยุทธศาสตร์การทำธุรกิจย่อมมีวันเปลี่ยน ในสิบปีข้างหน้า Airbnb อยากไปอยู่ในจุดไหน พวกเขาอยากเป็นเพียงแพลตฟอร์มให้เช่าที่พักอาศัยอยู่อย่างเดิมอยู่หรือเปล่า

เรามีโอกาสได้คุยกับคริส เลเฮน หัวหน้าฝ่ายสื่อสารและนโยบายระดับสากลของแอร์บีแอนด์บี ในโอกาสที่เขามาเมืองไทยเป็นครั้งแรก พร้อมเผยโรดแมปของแอร์บีแอนด์บีในอีกสิบปีข้างหน้านี้  ลองจินตนาการถึงผู้ใช้งานหนึ่งพันล้านคน ว่ามันจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรมมากน้อยแค่ไหน

5 ความเปลี่ยนแปลงที่ทำให้แอร์บีแอนด์บีเติบโต

แอร์บีแอนด์บีถือเป็นกรณีศึกษาสำหรับสตาร์ตอัปและธุรกิจเกิดใหม่ในทศวรรษที่ผ่านมา เป็นความเติบโตในช่วงเวลาที่คนพูดกันว่าเป็นยุคของเศรษฐกิจแบ่งปัน (Sharing Economy) ที่มาพร้อมกับการพัฒนาอินเทอร์เน็ตและไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ถือว่าการเดินทางท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

คริส เลเฮน สรุปให้ฟังถึงความสำเร็จของแอร์บีแอนด์บีในรอบสิบปีที่ผ่านมาว่าเกิดขึ้นจากความเปลี่ยนแปลงห้าประการ ต่อไปนี้

1.เทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป

ปัจจุบันประชากรกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ ของโลกเข้าถึงอินเทอร์เน็ต 75 เปอร์เซ็นต์ใช้โทรศัพท์แบบสมาร์ตโฟน คาดการณ์ว่าในปี 2025 จะมีคนใช้งานอินเทอร์เน็ตถึง 4.7 พันล้านคน แม้ว่าจะมีประชากรทั่วโลกราว 1.1 พันล้านคนที่ยังอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตหรือไม่มีสมาร์ตโฟนใช้ แต่อีกไม่นานทุกคนจะเข้าถึงได้ ซึ่งจะทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้เพิ่มขึ้นมหาศาล

2. ผู้คนที่เปลี่ยนไป

ประชากรโลกทุกวันนี้ขับเคลื่อนด้วยคนเจนวายซึ่งมีอายุระหว่าง 18-35 ปี (เกิดระหว่างปี 1981-1997) และคนเจน Z ที่เกิดหลังปี 2000 พวกเขามองหาคุณค่าของชีวิต ไม่ได้ทำงานเพื่อเอาเงินไปซื้อบ้านหรือซื้อรถอีกต่อไป แนวโน้มของคนรุ่นใหม่นี้จะใช้จ่ายไปกับประสบการณ์ที่อยากได้มากกว่า เห็นชัดๆ คือความเปลี่ยนแปลงทีคนนั่งทำงานในออฟฟิศ แต่ตอนนี้คนจำนวนมากหันมานั่งทำงานใน  Co-working Space กันแล้ว

3. เศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป

โลกยุคเก่าขับเคลื่อนด้วยเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม เกิดความเป็นเมือง แต่หลังจากปี 2000 เป็นต้นไป โลกก็เข้าสู่ยุคดิจิทัล ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ตัวอย่างในปี 2001 บริษัทชั้นนำระดับโลก 5 อันดับแรก มีบริษัทด้านไอทีแค่บริษัทเดียว นั่นคือ ไมโครซอฟท์ ที่มีมูลค่า 365 พันล้านเหรียฐสหรัฐ ขณะที่บริษัทชั้นนำระดับโลก 5 อันดับแรกในปี 2018 กลายเป็นบริษัทด้านไอทีทั้งหมด เช่น แอปเปิล กูเกิล ไมโครซอฟท์ แอมะซอน และเฟซบุ๊ก

4. สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนไป

ด้วยสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวน อุณหภูมิโลกโดยเฉลี่ยสูงขึ้นทุกปี ประกอบกับอุทกภัยที่ไม่คาดคิด พายุ แผ่นดินไหว น้ำท่วม ความแห้งแล้ง ล้วนทำให้คนตระหนักแล้วว่าต้องใช้ทรัพยากรที่มีอย่างคุ้มค่าที่สุด หนึ่งในนั้นคือการแบ่งปันการใช้ทรัพยากร ทั้งในเรื่องการเดินทาง อาหาร ที่อยู่อาศัย เป็นต้น ขณะที่มีบ้านถูกทิ้งร้างเป็นจำนวนมาก ในเมืองจีนมีบ้านถูกทิ้งร้างอยู่ที่ 70 ล้านหลัง ในสหรัฐอยู่ที่ 13.3 ล้านหลัง ในญี่ปุ่นอยู่ที่ 8 ล้านหลัง ในบราซิลอยู่ที่ 6.1 ล้านหลัง และสเปนอยู่ที่ 3.4 ล้านหลัง

5. การเดินทางที่เปลี่ยนไป

การเดินทางคิดเป็น 10 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าเศรษฐกิจโลก ในปี 2017 มีคนเดินทางโดยเครื่องบินมากกว่าสามพันล้านคน  โดยราวหนึ่งพันล้านคนเดินทางภายในประเทศ ตัวเลขนี้เชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งช่วยส่งเสริมให้เศรษฐกิจในประเทศมีการเติบโต

Airbnb ในประเทศไทย

ความโดดเด่นด้านการท่องเที่ยวในประเทศไทยก็ส่งผลให้การดำเนินธุรกิจเช่าที่พักอาศัยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง คริส เฮเลนเปิดเผยตัวเลขในปี 2017 กับเราว่า เจ้าของที่พักในประเทศไทยมีรายได้รวมกันทั้งหมดสี่พันล้านบาท ที่พักมีรายได้เฉลี่ย 67,000 บาทต่อปี  มีนักท่องเที่ยวใช้บริการ 1.2 ล้านคน จากที่พักทั้งหมด 61,400 แห่ง

ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวสองเมืองใหญ่ คือ กรุงเทพฯ และภูเก็ต ถ้าแยกย่อยลงไปที่พักในกรุงเทพฯ มีรายได้รวมทั้งหมด 1.1 พันล้านบาท และเปิดบ้านรับนักท่องเที่ยวทั้งหมด 485,000 คน ขณะที่ภูเก็ตทำรายได้ทั้งหมด 995 ล้านบาท

นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวสองเมืองใหญ่ คือ กรุงเทพฯ และภูเก็ต

การเติบโตดังกล่าว น่าคิดว่ามันไม่ได้มาจากการให้เช่าที่พักอาศัยเท่านั้น แต่ยังมีการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้มาเช่าอยู่ เช่น การเน้นไปที่การท่องเที่ยวเชิงวิถีชุมชน เจ้าของบ้านหรือโฮสต์บางคนมีบริการรับส่งผู้ขอเช่าจากสนามบิน สอนทำอาหารไทย เรียนมวยไทย พาไปจ่ายตลาด หรือท่องเที่ยวตลาดน้ำ เป็นต้น

ตัวเลขในปี 2017 ระบุว่าแอร์บีแอนด์บีสามารถสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจในระดับชุมชนได้ถึง 2.2 พันล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากพอสมควร ลิสต์ที่พักของแอร์บีแอนด์บีมีความหลากหลาย กระจายตัวอยู่ในหลายพื้นที่ แม้แต่ในเมืองที่ไม่ใช่จุดท่องเที่ยวนัก

หากดูทิศทางการเติบโต พบว่าจากปี 2016 มีจำนวนที่พักแอร์บีแอนด์บีอยู่ที่ 40,000 แห่ง กระโดดมาเป็น 61,400 แห่งในปี 2017 ที่สำคัญที่พักแอร์บีแอนด์บีก็แตกต่างจากโรงแรมที่จะกระจุกตัวอยู่ในบริเวณที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว

4 บริการใหม่เพื่อเป้าหมายผู้ใช้งาน 1 พันล้านคน

ขณะที่โรดแมปในอีก 10 ปีข้างหน้านี้ ทาง Airbnb จะเปิดบริการใหม่ถึงสี่ด้านด้วยกัน  โดยใจความสำคัญคือ ต้องการมีโปรดักส์และบริการที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า โดยวางเป้าหมายไว้ว่าภายในปี 2028 จะมีผู้ใช้งานถึงหนึ่งพันล้านคน

1. ที่พัก 4 ประเภทใหม่

ก่อนหน้านี้ ผู้ใช้บริการของแอร์บีแอนด์บีค้นหาบ้านพักได้เพียงแค่สามประเภทหลัก ได้แก่ ห้องแบบแบ่งปันหรือแชร์สเปซ ห้องเดี่ยวส่วนตัว และบ้านทั้งหลัง

แต่ปัจจุบัน แอร์บีแอนด์บีจะเพิ่มบ้านพักอีกสี่ประเภทเข้ามาใหม่ ได้แก่ เวเคชั่น โฮม (Vacation Home) ยูนีค (Unique) บีแอนด์บี (B&B) และบูทีค (Boutiques) รวมทั้งหมดเป็นเจ็ดประเภทที่ให้บริการโดยเพิ่มทางเลือกด้านบ้านพักให้เหมาะสมกับผู้ใช้งาน

2. Airbnb Collection

บ้านพักที่สมบูรณ์แบบสำหรับทุกโอกาส และมีลักษณะเฉพาะมากขึ้น โดยมี Airbnb for Family และ Airbnb for Work ซึ่งในช่วงปลายปี ก็จะมีคอลเล็กชันสำหรับคู่แต่งงาน ฮันนีมูน เที่ยวแบบกลุ่ม และปาร์ตี้อาหารเย็น เพิ่มเข้ามา

3. เปิดตัวเทียร์ (Tier) ใหม่ เพิ่มคุณภาพที่พัก

เป็นการยกระดับบ้านพักให้เป็นระดับไฮเอนด์ มีการเปิดตัวเทียร์ใหม่ ได้แก่ Airbnb Plus  และ Beyond by Airbnb ซึ่งเป็นที่พักใหม่ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพและความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้บริการมั่นใจได้ว่า การมาพักแอร์บีเอ็นบีไม่มีผิดหวัง

4. ซูเปอร์โฮสต์ และซูเปอร์เกสต์

มีการยกย่องชมเชยสำหรับเจ้าของบ้านพักที่มีคุณภาพด้วยโปรแกรม ‘ซูเปอร์โฮสต์’ ที่จะได้สิทธิประโยชน์มากขึ้นกว่าเดิม โดยปัจจุบัน รวบรวมเจ้าของบ้านพักได้แล้ว 400,000 รายทั่วโลก ขณะเดียวกันก็เปิดตัว  ‘ซูเปอร์เกสต์’ สำหรับผู้ที่ใช้บริการบ้านพักของแอร์บีแอนด์บี

 

“นักท่องเที่ยวที่มองหาที่พักอาศัย เราได้ในเรื่องของราคา สถานที่ และความแปลกใหม่ แต่สิ่งสำคัญคือเรื่องของคุณภาพที่เราต้องรักษาไว้ให้ได้ ด้วยสี่บริการใหม่ที่เราเปิดตัวไป น่าตอบโจทย์นักท่องเที่ยวที่มีความคาดหวังที่หลากหลาย และจะเป็นช่องทางในการเพิ่มผู้ใช้งานแอร์บีเอ็นบีได้มากขึ้นอีก” คริส เลเฮน กล่าวทิ้งท้าย

Fact Box

แอร์บีแอนด์บี (Airbnb) ถือกำเนิดขึ้นในปี 2008 จากสองผู้ก่อตั้ง ไบรอัน เชสกี้ และ โจ เกมเบีย ที่ช่วยกันสูบลมเตียง 3 หลัง ในอพาร์ตเมนต์ของพวกเขาที่ซานฟรานซิสโก และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของแพลตฟอร์มที่พักอาศัยที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยจำนวนที่พักมากถึง 4.5 ล้านแห่งใน 81,000 เมืองใน 191 ประเทศ

ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการแอร์บีเอ็นบีมากกว่า 300 ล้านคน ในทุกๆ 2 นาทีจะมีผู้เข้าพัก 400 คน และเมื่อวันสิ้นปี 2017 เป็นวันที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดถึง 3 ล้านคนทั่วโลก

Tags: , , ,