ดื่มด่ำรสชาที่ได้แรงบันดาลใจจากสีของประตูหน้าต่างไวนิลวินด์เซอร์ ที่ TE Time and Space

The Momentum ได้ไปร่วมคลาส ‘OMAKASE TEA By WINDSOR’ ที่จัดโดยวินด์เซอร์ ผู้นำตลาดประตูหน้าต่างไวนิลในเครือเอสซีจี พร้อมลูกค้าสถาปนิกของวินด์เซอร์ที่สนใจในเรื่องชา โดยจัดขึ้นที่ร้าน TE Time and Space ในซอยทองหล่อ 25 ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยบทสนทนาด้านการออกแบบเคล้าใบชา

รสชาติชาที่แตกต่างก็ให้อารมณ์ความรู้สึกที่ไม่เหมือนกัน เช่นเดียวกับการตกแต่งที่อยู่อาศัยให้เข้ากับไลฟ์สไตล์และตัวตนของเจ้าของบ้าน อย่างเช่นที่ TE Time and Space สามารถตอบโจทย์ทั้งบรรยากาศ และคอนเซ็ปต์ของ ‘วินด์เซอร์’ ผู้ผลิตประตูหน้าต่างไวนิล 

(คุณกิตติกรณ์ จาดเจริญ ผู้จัดการขายสินค้า Profiles)

ด้วยการรังสรรค์ชาหลากหลายแหล่งมาเบลนด์ในแบบพิเศษ โดยสามารถเลือกที่เหมาะกับแต่ละบุคคล เช่น หากคุณเป็นคนช่างเลือก มีสไตล์ แต่ต้องการผ่อนคลายในวันหยุด คุณอาจจะเลือกดื่มชาขาวเย็นที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ เหมือนได้กดปุ่ม refresh ตัวเองในบ้านที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาตินั่นเอง   

TE Time and Space ก่อตั้งโดย ‘ปลา’ – นันธิดา รัตนกุล และ ‘ณัฐ’ – ณัฐกิจ อุดมศรีรัตน์ ที่มีความโดดเด่นเรื่องการเบลนด์ชาที่นำชาหลากหลายแหล่งมาสร้างสรรค์เป็นเมนูใหม่ และมักจะเปิดเวิร์กช็อปให้คนทั่วไปหรือคนที่สนใจเรื่องชาได้มาเรียนรู้โลกของชากันมากขึ้น 

ตึกคูหาเดียวในซอยทองหล่อ 25 คือแหล่งเรียนรู้เรื่องชา หากเดินขึ้นบันไดไปชั้นสองจะเจอกับบาร์ชงชาที่รับคนได้ประมาณ 6-8 คน โดยมีฉากหลังเป็นกระปุกชาหลากหลายตั้งเรียงรายอยู่

“ชาเป็นรสนิยมส่วนบุคคล ชอบไม่ชอบ คือไม่ผิดเลย” ปลา นันธิดา เจ้าของร้าน TE Time and Space เอ่ยปากทักทายเรา ขณะวุ่นอยู่กับร้านเตรียมอุปกรณ์สำหรับคลาสพิเศษในครั้งนี้

การจัดงานร่วมกับวินด์เซอร์ ทำให้ ปลา นันธิดา ต้องตีความใหม่ในการสร้างสรรค์ชา โดยเป็นการเสิร์ฟชา 4 คอร์ส 4 โทนสี ให้เชื่อมโยงกับประตูหน้าต่างไวนิลวินด์เซอร์ ที่ไม่ได้มีแค่สีขาวแบบในอดีตแบบที่ใครๆ เข้าใจกันอีกแล้ว เพราะวินด์เซอร์ได้พัฒนาประตูหน้าต่างไวนิลสีอื่นๆ ให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น พร้อมตอบโจทย์ทุกรูปแบบงานดีไซน์ของสถาปนิกและไลฟ์สไตล์ของเจ้าของบ้าน

(บรรยากาศบริเวณชั้น 2 ของร้าน TE Time and Space )

Glorious White

ชาคอร์สแรกที่เลือกเสิร์ฟ เป็นชาขาวเย็น ที่ผ่านการอินฟิวส์นาน 8-12 ชั่วโมง เบลนด์มากับดอกกุหลาบไวน์ยาร์ดซอง ทำให้มีกลิ่นหอมมากขึ้น เธอเลือกใช้ชาขาวจากเชียงราย ความพิเศษคือหายากและปริมาณจำกัด เพราะต้องเลือกเอาเฉพาะยอดใบชาเท่านั้น ซึ่งต้นชาแต่ละต้นก็มีไม่มากนัก เป็นเหตุให้ชาขาวค่อนข้างมีราคาแพง 

รสชาติของชาคอร์สแรกจะค่อนข้างจางๆ หอมกลิ่นดอกกุหลาบไวน์ยาร์ดซองแบบอ่อนๆ ดื่มแล้วให้ความรู้สึกรีเฟรช เรียบหรูดูดี เหมือนกับเจ้าของบ้านที่เลือกใช้ประตูหน้าต่างไวนิลสั่งทำสีขาวของวินด์เซอร์ สีคลาสสิกที่เข้ากับบ้านได้ทุกแบบทุกสไตล์ เพราะสีขาวจะให้ความรู้สึกสบายตา ผ่อนคลาย เหมือนได้นั่งพักผ่อนอยู่ในบ้านตลอดเวลา

Modern Grey 

เลือกใช้ชาข้าวเหนียวดำพันธ์ุข้าวลืมผัวนำมาผสมกับชาเขียวเก็นไมฉะ ทำเป็นเยลลีราดด้วยนม เสิร์ฟเย็นแบบของหวานกินคู่กับขนม ที่เปลี่ยนชาทรอปิคอลวันเดอร์แลนด์ออกมากลายเป็นขนม 4 แบบ คือ ขนมช่อม่วง มาการองไส้ครีมข้าวเหนียวดำ ขนมต้ม และทาร์ตไส้มะตูม

ชาคอร์สสองให้ความรู้สึกถึงโมเดิร์นด้วยหน้าตาของเมนูที่มีความร่วมสมัย เหมือนกับประตูหน้าต่างสีเทารุ่น Smart ที่เหมาะกับบ้านทุกสไตล์ เพราะประตูหน้าต่างสีเทาสามารถเข้ากับโทนสีของบ้านได้เกือบทุกสี สะท้อนคาแรกเตอร์ของเจ้าของบ้านที่ต้องการ ความเรียบง่าย แต่ยังมีความเท่ ทันสมัย และมีกลิ่นอายความอบอุ่น

Brilliant Black 

ชาดำ หรือ Black Tea เป็นองค์ประกอบหลัก ผ่านการตีความใหม่นำมาผสมกับช็อกโกแลต ในเมนูที่ชื่อว่า Starry Starry Night ชาร้อนที่มีส่วนผสมของชาดำ ชามินต์ เปลือกโกโก้ และเมล็ดโกโก้ ดื่มแล้วให้ความรู้สึกหอมมินต์ กับอีกเมนูคือ Guiltless Pleasure ชาเย็นที่มีความเป็นช็อกโกแลตนม

ทั้งสองเมนูเสิร์ฟมาพร้อมกับดาร์กช็อกโกแลต บง บง ที่เลือกใช้ช็อกโกแลตจากจันทบุรี และประจวบคีรีขันธ์, ส้มฉุน บง บง และขนมเบื้องที่มาในรูปแบบของบัตเตอร์ครันช์

ส่วนวิธีการกินก็เริ่มจาก Starry Starry Night กินคู่กับดาร์กช็อกโกแลต บง บง  ตามด้วย Guiltless Pleasure กินคู่กับส้มฉุน บง บง โดยขนมเบื้องบัตเตอร์ครันช์ กินกับชาตัวไหนก็ได้

รสชาติของชาทั้งสองตัวจะเข้มข้นตัดกับความหวานของขนมที่จับคู่กันมาอย่างดี สะท้อนถึงความเท่ ดูโมเดิร์น มีสไตล์ที่ชัดเจน บ่งบอกถึงรสนิยมของผู้อยู่อาศัยที่ชอบความเรียบหรูดูดี เหมือนกับประตูหน้าต่างสีดำรุ่น Signature ของวินด์เซอร์ ที่ดีไซน์สวยงาม มีผิวสัมผัสที่พรีเมียม ไม่ซ้ำใคร เหมาะกับบ้านสไตล์โมเดิร์นที่ต้องการได้ประตูหน้าต่างโทนสีเข้ม แต่ก็ยังได้ฟังก์ชันการป้องกันเสียงรบกวนที่เป็นคุณสมบัติเด่นในของ UPVC 

ที่สำคัญ แม้จะเป็นสีดำ แต่ไม่อมความร้อน ด้วยเทคโนโลยีการผลิตวัสดุพิเศษที่ช่วยสะท้อนความร้อน ทนทานต่อสภาพอากาศของประเทศไทย พร้อมกับ Ultimate Protection ด้วย 5 มาตรฐานการป้องกันสูงสุด คือกันเสียง กันแดด กันน้ำ กันลม กันแรงปะทะ และกันการงัดแงะ

Signature Walnut

ชาสูตรพิเศษที่เบลนด์ขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับลูกค้าวินด์เซอร์ในงานนี้ ที่ต้องการสื่อถึงความอบอุ่นจากความเป็นไม้วอลนัต และสีน้ำตาลที่ให้อารมณ์เหมือนเดินในป่าที่มีความเย็นและชื้น จึงเลือกใช้ชาผูเอ่อร์ 16 ปี ผสมกับชาดำ และเพิ่มความเขียวจากใบชา โดยมีมะตูม ชะเอมเทศ เพิ่มความหวานชุ่มคอ 

กินคู่กับขนมหวานฝรั่งเศสอย่าง Savarin ที่ลักษณะเนื้อแป้งอยู่ตรงกลางระหว่างเค้กและขนมปัง มีความฟูจากยีสต์ เพิ่มความหวานจากลูกแพรเชื่อม

เมนูนี้ให้มูดแอนด์โทนสีน้ำตาลจากสีของชา และขนมที่กินคู่กัน สะท้อนถึงประตูหน้าต่าง รุ่น Signature สีวอลนัต สไตล์ทรอปิคอล โทนธรรมชาติ สีใหม่ล่าสุด ที่ตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการให้บ้านมีบรรยากาศผ่อนคลาย ใกล้ชิดธรรมชาติ และเพิ่มสุนทรีย์ในการใช้ชีวิตด้วยโทนสีและลวดลายเหมือนไม้จริง

ประสบการณ์ดื่มชาแบบโอมากาเสะ 4 คอร์ส ในครั้งนี้ ทำให้เราเข้าใจและสนุกกับไปวัฒนธรรมการดื่มชามากขึ้น ซึ่งขึ้นอยู่กับความชอบและรสนิยมส่วนบุคคล เหมือนกับประตูหน้าต่างไวนิลวินด์เซอร์ ที่มีมากกว่าแค่ประตูหน้าต่างไวนิลสีขาว แต่ยังมีสีดำ เทา และวอลนัต ทำให้มีความหลากหลายตอบโจทย์ทุกกลุ่มลูกค้า ทั้งในเรื่องของดีไซน์ ฟังก์ชันการใช้งานพร้อมกับเทคโนโลยีการผลิตและคุณสมบัติ Ultimate Protection ที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับสถาปนิกมากยิ่งขึ้น

สำหรับงาน OMAKASE TEA By WINDSOR ก่อนกลับบ้าน ทางวินด์เซอร์ยังมีของติดไม้ติดมือให้กับทุกคนที่มาร่วมงาน นั่นคือชา Brilliant Black และ Signature Walnut อีกด้วย

(ชุดหน้าต่างจากทาง Windsor ทั้ง 4 แบบ ที่ถูกหยิบมาเป็นแรงบันดาลใจในการรังสรรค์คอร์สชา)