เพื่อไทยขึ้นเวทีครบทีมกับการปราศรัยครั้งสุดท้าย ณ อาคารกีฬาเวสน์ 2 สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เปิดเกมด้วยการวิพากษ์วิจารณ์พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาอย่างเผ็ดร้อน เก็บตกทุกบาดแผลของ พลเอกประยุทธ์ ตั้งแต่รายการวันศุกร์ หมามุ่ย ยันดาวอังคาร อีกทั้งยังย้ำความสำคัญเรื่องปากท้อง ความตกต่ำของเศรษฐกิจ พร้อมเสนอข้อดีของพรรคในฐานะ ‘นักบริหารมืออาชีพ’ เน้นย้ำที่นโยบายสำหรับอนาคต และโครงการที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย
ทั้งสามหัวเรือหลักของพรรคเพื่อไทยขึ้นเวทีปราศรัยในครั้งนี้ โดย ‘หญิงหน่อย สุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ที่ขึ้นมาเรียกความรักและมอบกำลังใจกับพี่น้องประชาชน พลางเสนอนโยบายสลับกับหมัดเด็ดเพื่ออัดพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาโดยเฉพาะ โดยกล่าวว่า “5 ปีมานี้ รัฐบาลคสช. ใช้งบประมาณไป ‘13 ล้านล้านบาท’ มากที่สุดเท่าที่รัฐบาลไหนๆ เคยใช้มา แล้วถ้าใช้ดีๆ ไม่มีใครว่าเลย แต่ตอนนี้เศรษฐกิจเราเป็นยังไงคะ เขาอ้างความสงบ แต่มันเป็นความสงบที่เงียบสงัดเลยค่ะ”
“เราช่วยส่งเสียงให้พลเอกประยุทธ์ได้ยินได้ไหมคะ ว่าตอนนี้ยาเสพติดเต็มไปหมด เสียดาย ม.44 ที่มี ทำไมไม่เอามาปราบยาบ้า แต่ทำไม่ได้ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวเราก็ช่วยกันส่งกลับไป ดาว… (ผู้ฟัง: อังคาร!)”
“ก่อนมี คสช. เราก็เคยมี รสช. พอออกกติกาที่เอื้ออำนวยให้คนนอกเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีได้ คนออกมาค้านก็เกิดพฤษภาทมิฬ ผบ.ทบ. ตอนนั้น นามสกุลเดียวกับสมัยนี้ คนร่างรัฐธรรมนูญก็ชื่อเดียวกัน มีชัย”
ในส่วนของ ชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ที่ครั้งนี้ขึ้นเวทีด้วยน้ำเสียงแข็งขัน ทรงพลัง อัดแน่นไปด้วยเรื่องนโยบาย ย้ำความเป็นมืออาชีพในการบริหารประเทศของพรรค โดยกล่าวว่า “เราเป็นนักบริหารมืออาชีพ เราไม่ขู่ตะคอกประชาชน เราต้องเพิ่มการลงทุนในประเทศ เพราะที่ผ่านมา เขาไม่มั่นใจในรัฐบาล พวกที่มาขู่ๆ ว่าถ้าเพื่อไทยมาจะไม่สงบ ไม่จริง เรารู้ปัญหา เราอยากแก้ เราต้องเอาเศรษฐกิจกลับคืนมา ไอ้ที่ไม่สงบน่ะ ใครทำ มันทำกันเอง”
“คนชอบถามผม ว่าอนาคตหลังเลือกตั้งเป็นอย่างไร จริงๆ แล้วคำถามนี้ไม่ถูกต้อง เพราะอนาคตไม่ได้หยุดรอการเลือกตั้งของเรา อนาคตมันวิ่ง โลกมันวิ่ง เทคโนโลยีมันวิ่ง แต่เราหยุดมา 5 ปีแล้ว ดังนั้นคำถามคือ หลังเลือกตั้ง เราจะไล่ตามอนาคตให้ทันได้อย่างไร”
ขณะที่ ชัยเกษม นิติสิริ หนึ่งในสามแกนนำของพรรค ซึ่งพรรคยกให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ขึ้นปราศรัยโดยมีเป้าหลักเป็นเรื่องของกฎหมายที่ควรแก้ไข เพื่อให้ประเทศเดินหน้าได้ง่ายขึ้น แต่ก็ทิ้งท้ายไว้ที่ พลเอกประยุทธ์เช่นกัน เขากล่าวว่า “เราต้องไม่เอาเผด็จการ เพื่อไทยไม่เคยกลัว ไม่เคยหนี แต่ต้องขอความร่วมมือให้เลือกอย่างถล่มทลาย เพื่อสู้กับ ส.ว. 250 คน ลุงตู่แกคุยไปเยอะ อย่าไปเชื่อแกเลย แกพูดแล้วไม่ค่อยรักษาคำพูด เขาว่าทหารต้องรักษาสัตย์ แล้วนี่รักษาไหม”