หลังจากได้รับคำชมไปล้นหลามว่ารายการดีเบตการเมือง “ประชันวิสัยทัศน์ คนใหม่ การเมืองใหม่” ที่ออกอากาศทางช่อง 9 MCOT HD เมื่อวันที่ 28 ก.พ. มีเนื้อหาเข้มข้น  แต่ปรากฏว่าวันถัดมา อรวรรณ ชูดี กริ่มวิรัตน์กุล พิธีกรในรายการเขียนผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่าถูกสั่งปลดจากการทำหน้าที่แล้ว จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลกำลังแทรกแซงสื่ออย่างชัดเจน

วันที่ 2 มีนาคม 2562 สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยออกแถลงการณ์ว่า กรณีที่คณะกรรมการและผู้บริหารบริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) มีคำสั่งให้นางอรวรรณ ชูดี กริ่มวิรัตน์กุล ผู้จัดการส่วนสร้างสรรค์รายการข่าว สำนักข่าวไทย อสมท. ยุติการทำหน้าที่ผู้ดำเนินรายการ โดยระบุว่า มีการทำหน้าที่ในลักษณะชี้นำให้โจมตีรัฐบาล ทางสมาคมนักข่าวฯ เห็นว่า คำสั่งนี้เป็นการกล่าวอ้างเพื่อปิดกั้นเสรีภาพในการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน เข้าข่ายแทรกแซงเสรีภาพในการนำเสนอข่าว เป็นการคุกคามสื่อมวลชนโดยตรง และยังละเมิดสิทธิในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนด้วย

ทางสมาคมนักข่าวฯ จึงเรียกร้องให้ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์และบอร์ด อสมท. ทบทวนคำสั่งนี้ และย้ำว่าการทำหน้าที่สื่อมวลชนมีความสำคัญในการกระตุ้นให้ประชาชนตื่นตัวและตระหนักถึงการไปใช้สิทธิเลือกตั้ง การมีส่วนร่วมในการตรวจสอบนโยบาย

อสมท. เป็นเป็นองค์กรสื่อของไทยไม่กี่แห่งที่มีสหภาพแรงงาน กรณีนี้ สหภาพแรงงาน บมจ. อสมท. อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าคำสั่งที่ออกมานั้นจริงหรือไม่ หากไม่มีคำอธิบายที่มีเหตุผลเพียงพอ ก็มองได้ว่ามีขบวนการแทรกแซงการทำหน้าที่ตามจรรยาบรรณของสื่อสารมวลชน ทางสหภาพฯ จะเคลื่อนไหวออกแถลงการณ์เรียกร้องการคุ้มครองการทำงานตามกรอบวิชาชีพ

สำหรับผลการดำเนินงานของบมจ.อสมท ในปี 2561 มีผลขาดทุนสุทธิ 378 ล้านบาท ลดลงจากปี 2560 คิดเป็นร้อยละ 85 ส่วนรายได้ธุรกิจโทรทัศน์ของ บมจ.อสมท นั้น ในปี 2561 มีรายได้จากจากการขายโฆษณาให้กลุ่มลูกค้า เอเจนซีร้อยละ 48 และรายได้จากโครงการภาครัฐร้อยละ 39 แต่เมื่อพิจารณาเฉพาะไตรมาสสุดท้าย จะพบว่ารายได้จากโครงการภาครัฐเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 60 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2560

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีความเห็นจากบุคคลต่างๆ ที่ออกมาคัดค้านการแทรกแซงสื่อของบอร์ดอสมท. เช่น ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่, คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แคนนิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย, นารากร ติยายน ผู้ประกาศข่าว นอกจากนี้ ยังมีนักศึกษาที่เข้าร่วมในรายการออกมายืนยันเบื้องหลังการทำงานว่า การโหวตในห้องส่งนั้นมาจากความคิดของนักศึกษาโดยปราศจากการชี้นำใดๆ

สำหรับรูปแบบ-เนื้อหารายการ มีไอเดียสร้างสรรค์ที่ชวนนักศึกษา 100 คนจากทั่วประเทศตอบคำถาม 4 ข้อ ผลโดยรวมออกมาไม่ได้แสดงความพอใจต่อ คสช. คำถาม 4 ข้อนั้น มีอยู่ว่า

1) เห็นด้วยหรือไม่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ตัดสินใจไม่ร่วมการดีเบต (เห็นด้วย 6 ไม่เห็นด้วย 94)

2) เห็นด้วยหรือไม่ ที่รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ในบทเฉพาะกาล 5 ปีแรกให้ ส.ว. 250 คนร่วมโหวตเลือกนายกฯ  (เห็นด้วย 1 ไม่เห็นด้วย 99)

3) เห็นด้วยหรือไม่ เรื่องยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี จำเป็นสำหรับประเทศไทย  (เห็นด้วย 2ไม่เห็นด้วย 98)

4) เห็นด้วยหรือไม่ ว่าประเทศไทยจะมีการปกครองแบบประชาธิปไตยเต็มใบหรือครึ่งใบก็ได้ ถ้าทำให้ปากท้องประชาชนดีขึ้น  (เห็นด้วย 17 ไม่เห็นด้วย 83)

 

ดูคลิปรายการได้ทาง https://www.facebook.com/tnamcot/videos/2270279263260505/

อ้างอิง:

 

 

Tags: ,