วันนี้ (23 ธันวาคม 2568) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ตรวจพบโดรนต้องสงสัยขึ้นบินใกล้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีลักษณะคล้ายโมเดลยูเครนโจมตีฐานทัพรัสเซียกสทช.จึงบูรณาการร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง เพื่อร่วมกันประเมินความเสี่ยงที่อาจถูกลำเลียงซุกซ่อนเข้ามาทางบก ก่อนนำขึ้นบินภายในประเทศ พร้อมระบุว่า อาจเป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ซึ่งจำเป็นต้องดำเนินการสกัดตั้งแต่ต้นทาง
ทั้งนี้หน่วยงานความมั่นคงของไทยดำเนินการตรวจยึดโดรนต้องสงสัยจำนวน 2,500 และอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ด้าน พลตำรวจเอก ดร.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการ กสทช.ด้านกฎหมาย ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า กสทช.เคยมีประกาศหลักเกณฑ์เงื่อนไขการใช้คลื่นความถี่สำหรับโดรนมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
แต่เมื่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชารุนแรงมากขึ้น ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาและร้อยเอ็ดตรวจพบโดรนต้องสงสัย กสทช.จึงออกประกาศเพิ่มเติมเพื่อบังคับให้ร้านค้าเครื่องวิทยุโทรคมนาคม ห้ามส่งมอบโดรนให้ใครก็ตามที่มาขอซื้อหรือสั่งซื้อ จนกว่าผู้นั้นจะได้รับใบอนุญาตและขึ้นทะเบียนกับ กสทช.ให้เรียบร้อยก่อน เพื่อป้องกันเหตุการณ์คาดไม่ถึง
กรรมการ กสทช.ด้านกฎหมายยังประเมินเหตุการณ์พบฝูงโดรนใกล้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้วยว่า เคยมีแบบจำลองเหตุการณ์ตั้งแต่ยูเครนส่งโดรนกว่า 100 ลำเข้าไปโจมตีฐานทัพรัสเซีย ซึ่งใช้รถบรรทุกขนโดรนผ่านชายแดนเข้าไปจอดใกล้ๆ ฐานทัพ และเมื่อสบโอกาสก็บินโดรนขึ้นโจมตี
“ฝูงโดรน 40 ลำคาดว่าน่าจะซุกซ่อนเข้ามา และนำขึ้นบินจากพื้นที่ชั้นใน เนื่องจากเป็นไปไม่ได้ที่จะบินข้ามมาจากชายแดน แต่การขนส่งโดรนทางรถยนต์จากชายแดนเข้ามาสุวรรณภูมิถือว่าไม่ไกล เรื่องนี้จึงมีความเป็นไปได้ว่า อาจจะเป็นฝีมือของกลุ่มอื่นที่มีความเชี่ยวชาญการบังคับโดรน ซึ่งเป็นหน้าที่ของฝ่ายตำรวจในการสืบสวนหาเบาะแสต่อไป กสทช.พร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่” กรรมการ กสทช.ด้านกฎหมายกล่าว
ขณะที่ กิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมด้วย พลตำรวจโท วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ร่วมแถลงมาตรการความปลอดภัยเมื่อวานนี้ (22 ธันวาคม 2568) โดยยืนยันว่า ไม่ส่งผลกระทบต่อเที่ยวบินแต่อย่างใด โดยท่าอากาศยานไทย (ทอท.) มีมาตรการเฝ้าระวังด้านความปลอดภัย พร้อมดำเนินมาตรการรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐานสากลอย่างเข้มงวด
ขณะเดียวกัน ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังบูรณาการความร่วมมือกับกองทัพบก กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการติดตั้งและใช้งานอุปกรณ์ตรวจจับและต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ (Anti-Drone) และเพิ่มกำลังสายตรวจรถยนต์ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับสถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยเพิ่มความถี่และวงรอบการตรวจตรารอบแนวรั้วท่าอากาศยาน รวมถึงเฝ้าสังเกตการณ์ผ่านกล้อง CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง
Tags: ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, โดรน, ทหาร, สนามบิน, ความปลอดภัย, ความมั่นคง, สุวรรณภูมิ, ไทยกัมพูชา




