วันนี้ (15 ธันวาคม 2568) อนุทิน ชาญวีรกูล รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ในรายการ กรรมกรข่าว คุยนอกจอ โดยช่วงหนึ่งกล่าวถึงการจัดการสถานการณ์มหาอุทกภัยในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ทั้งกรณีที่มีการทักท้วงเรื่องการลงพื้นที่ไปผัดข้าว รวมถึงถูกระบุว่าจัดการสถานการณ์ไม่ดี เข้าขั้นรัฐล้มเหลว

อนุทินระบุว่า กรณีที่พบว่าตนลงพื้นที่ไปผัดข้าวในเขตประสบอุทกภัยหาดใหญ่นั้น ขอให้ “เรื่องผัดข้าวอย่าไปเอามาแซว” เพราะเวลาเดินผ่านประชาชนเรียกให้เข้าไปช่วยทำกับข้าว จึงเข้าไปช่วยทำอาหารเพื่อไม่ให้เป็นการเสียน้ำใจ และมองว่าในจังหวะนั้น หากเอาใจใครได้ก็อยากให้เอาใจ เพราะคนทำกับข้าวที่บ้านเขาก็น้ำท่วม แล้วยังต้องมาทำกับข้าวให้อีก จึงต้องทำให้เขาชื่นใจ

“ผมว่าคนที่ว่าผมโหดเหี้ยมมากนะ ผมไม่ได้ไปเที่ยว คนไม่เห็นหน้างานก็พูดไปเรื่อย” อนุทินกล่าวก่อนเสริมว่า ในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2568 ที่สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่เริ่มลดลง ก่อนกลับมาท่วมอีกระลอกใหญ่ ตนยังคงให้พื้นที่หาดใหญ่อยู่ในสถานการณ์ร้ายแรงไว้ก่อนที่น้ำจะทยอยมา ซึ่งเริ่มวางแผนไว้หมดแล้ว และในวันที่ 24 พฤศจิกายน ทุกอย่างไปถึงที่อำเภอหาดใหญ่ ก่อนประกาศภาวะฉุกเฉินในวันที่ 25 พฤศจิกายน

“รัฐไม่ล้มเหลวหรอกครับ ผมให้คำยืนยัน ถ้าล้มเหลวไม่จบแบบนี้ วันนี้ทุกอย่างภายใน 1 สัปดาห์ที่ผมบอก 7 วัน คนกลับบ้าน 14 วัน เมืองสะอาด ในวันนี้ถ้าคนจะหาเรื่องก็จะบอกว่านี่ไง มีเศษกระดาษอยู่ แล้วก็บอกว่ายังไม่สะอาด แต่ว่าภาพรวมมันได้ เพราะฉะนั้นการบริหารจัดการมันมี” อนุทินกล่าว

สำหรับสถานการณ์มหาอุทกภัยในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ มีการประกาศเตือนว่าน้ำจะท่วมสูงอีกครั้งในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 จึงมีการสั่งให้อพยพจากพื้นที่เสี่ยง ขณะที่เทศบาลนครหาดใหญ่ยกธงแดงเพื่อแจ้งเตือนให้ชุมชนต่างๆ เตรียมอพยพเข้าศูนย์พักพิง อย่างไรก็ตามมีเสียงวิจารณ์เป็นวงกว้างว่า การแจ้งเตือนของรัฐไม่ทันต่อสถานการณ์จริง เนื่องจากมีมวลน้ำทยอยท่วมสูงในหลายพื้นที่ เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางไปยังศูนย์พักพิง ขณะเดียวกันประชาชนบางส่วนไม่มีข้อมูลว่า ต้องอพยพไปที่ไหน

ด้านตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัยในจังหวัดสงขลามีจำนวน 229 ราย โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอหาดใหญ่มีผู้เสียชีวิต 145 ราย จากการจมน้ำและสาเหตุอื่นที่เกี่ยวข้องกับน้ำท่วม ขณะเดียวกันมีประชาชนกว่า 836,206 คนในจังหวัดได้รับผลกระทบ โดยหอการค้าจังหวัดสงขลาประเมินว่ามูลค่าความเสียหายอาจสูงถึง 2 หมื่นล้านบาท

ในส่วนของเงินชดเชยเยียวยาให้กับครัวเรือนผู้ประสบภัย จะได้รับหลังละ 9,000 บาท โดยมีการจ่ายเงินให้แล้วเฉพาะในเขตอำเภอหาดใหญ่ 172,919 ครัวเรือน ส่วนกรณีผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมจะได้รับเงินช่วยเหลือค่าปลงศพรายละ 2 ล้านบาท โดยมีการจ่ายเงินให้กับผู้เสียชีวิตไปแล้ว 11 รายในพื้นที่จังหวัดสงขลา

ที่มา: https://www.youtube.com/watch?v=Z5RE28cKQVA 

ภาพ: AFP

Tags: , , , , ,