
ในยุคที่กระแส ‘Longevity’ หรือการมีอายุยืนยาวมาพร้อมกับการมีสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจ กำลังได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงเฉพาะกลุ่มวัยผู้ใหญ่หรือวัยกลางคนเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงกลุ่มคนหนุ่มสาวด้วยเช่นกัน
The Momentum ชวนพามาทำความรู้จักกับ ‘กิจกรรมปีนผาจำลอง’ ที่ ‘Stonegoat’ ซึ่งตั้งอยู่ภายในตึกเดอะ ปาร์ค (The PARQ) ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ สถานที่ที่เป็นมากกว่าที่ออกกำลังกาย แต่ยังเป็นพื้นที่ที่ทุกคนสามารถใช้เวลาร่วมกัน
ทันที่เดินทางมาถึงหน้า Stonegoat ก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกเป็นมิตรต่อผู้มาใช้บริการ รอยยิ้มต้อนรับจากเจ้าหน้าที่ หน้าผาจำลองที่มีหินจับสีสันสดใส เสียงเพลงสบายหูเปิดคลอไปทั่วทั้งพื้นที่ มินิคาเฟ่ โต๊ะพลู ที่นั่งส่วนกลางซึ่งถูกตกแต่งด้วยไฟประดับโทนอบอุ่นเพื่อให้เข้ากับเทศกาลปลายปี จนอดคิดไม่ได้ว่าสถานที่แห่งนี้คือ สถานที่สำหรับเล่นกีฬาแอดเวนเจอร์อย่างการปีนผาจริงหรือ

“เราอยากให้ Stonegoat เป็นพื้นที่ที่ทุกคนได้ทำกิจกรรมร่วมกัน มากกว่าแค่การปีนผา” สนธเยศ อัศวเหม หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Stonegoat บอกกับทาง The Momentum
เมื่อย้อนถามกลับไปถึงจุดเริ่มต้นของ Stonegoat สนธเยศเล่าว่า เขากับพาร์ตเนอร์อีก 2 คนคือ จัสติน ธารทอง และ กฤษกร ธงพานิช มีความหลงใหลในกิจกรรมปีนผาอย่างมาก
“หนึ่งเลยคือ กิจกรรมปีนผาทำให้เราได้ใช้กล้ามเนื้อทุกส่วน มันเป็น ‘Compound Movement’ ทำให้เราออกกำลังกาย โดยที่ไม่รู้สึกว่ากำลังออกกำลังกาย เพราะกำลังโฟกัสกับการพิชิตเส้นทาง” สนธเยศกล่าว
“สองคือ กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่ทำให้เราได้สังคมและรู้จักผู้คนเพิ่มมากขึ้น”
สนธเยศเล่าว่า กิจกรรมปีนผามีทั้งหมด 3 ประเภทคือ 1. Speed การปีนเร็ว 2. Sport Climbing การปีนสูงหรือการปีนแบบใช้เชือก และ 3. Bouldering การปีนที่ความสูงไม่มาก มีเบาะนิรภัยรองรับ เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น เนื่องจากไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เยอะและเรียนรู้ได้ง่าย ซึ่งก่อนหน้านี้การปีนผาจำลองในประเทศไทยมักไม่มียิมที่ออกแบบสำหรับการปีน Bouldering โดยเฉพาะ ทำให้ผู้ที่อยากจะเริ่มต้นเข้าถึงได้ยาก
สนธเยศและพาร์ตเนอร์มองเห็นช่องว่างในตลาด จึงก่อตั้ง Stonegoat ขึ้นในปี 2021 ซึ่งตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 69 ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีพระโขนงเพียงแค่ 300 เมตร ก่อนจะขยายสู่สาขาที่ 2 ในปีนี้ ณ ตึก The PARQ ใจกลางกรุงเทพฯ ติดกับ MRT ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
สาขาใหม่ถูกวางเป้าให้เป็นยิมปีนผาจำลองแบบ Bouldering ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครอบคลุมเส้นทางปีนมากกว่า 150 เส้นทาง ซี่งล้วนออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญจากนานาประเทศ เพื่อให้ผู้เล่นได้สัมผัสประสบการณ์ที่ท้าทายและได้มาตรฐานระดับสากล
ไม่ใช่แค่ปีนผา แต่คือพื้นที่สร้าง Community
เมื่อถามว่าจุดเด่นของ Stonegoat คืออะไร สนธเยศบอกว่า อุปกรณ์ทุกอย่างถูกนำเข้ามาจากต่างประเทศทั้งหมด และ Stonegoat ยังมีร้านขายอุปกรณ์สำหรับการปีนผาอย่างจริงจัง ซึ่งในอดีตประเทศไทยยังไม่เคยมี และเขาเชื่อว่า นี่จะเป็นอีกธุรกิจที่สามารถเติบโตได้ด้วยตัวเอง


และที่พลาดไม่ได้คือ Stonegoat มีโซนปีนผาสำหรับเด็ก ซึ่งสามารถเริ่มต้นปีนได้ตั้งแต่ 5 ขวบ เหมาะสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการออกกำลังกายและใช้เวลาร่วมกับลูกๆ
นอกจากนี้ Stonegoat ยังให้บริการพื้นที่ส่วนกลาง ไม่ว่าจะเป็นที่นั่งสำหรับทำงาน ร้านอาหารและคาเฟ่ โต๊ะพลู เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้ทำกิจกรรมอื่นๆ เพิ่มเติม ด้วยเหตุผลที่ว่า อยากทำให้ที่นี่เป็นมากกว่าแค่สถานที่ออกกำลังกาย
“เราต้องการสร้างคอมมูนิตี้ เราอยากให้ Stonegoat เป็นพื้นที่ที่ช่วยให้ความสุขกับทุกคนหลังเลิกงาน มาแล้วได้มากกว่าสุขภาพ และสุขภาพใจก็จะดีไปด้วย”

“เรามีที่นั่ง สำหรับคนที่เหนื่อยจากการปีนผาแล้ว แต่ยังอยากใช้เวลาอยู่กับเพื่อน มีโต๊ะพลู หรือแม้แต่มีร้านอาหารและคาเฟ่ให้รับประทานรอครอบครัวก็ได้ นอกจากนี้เรายังมีจัดอีเวนต์เพื่อให้ทุกคนได้เข้าร่วมอยู่เสมอ” สนธเยศกล่าว
สนธเยศยังได้อธิบายเพิ่มเติมอีกว่า หลังจากเริ่มต้นธุรกิจนี้ในปี 2021 จนมาถึงวันที่รู้สึกว่ามาถูกทางแล้ว ก็คงเป็นตอนที่ลูกค้าที่มาใช้บริการเรียกตัวเองว่า ‘Goat Fam’ หรือครอบครัว Stonegoat เราสามารถทำให้พวกเขารู้สึกว่าที่นี่คือบ้าน และทำให้เขารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับเราได้แล้ว
ทุกสีบนกำแพง คือสัญญาณนำทาง
ระหว่างการพูดคุย The Momentum ได้สังเกตเห็นหินจับสีสันสดใสบนกำแพงปีนผา จึงอดไม่ได้ที่จะถามว่า หินเหล่านี้ทำเพื่อความสวยงาม หรือซ่อนความหมายอะไรไว้
สนธเยศอธิบายว่า Stonegoat ได้กำหนดมาตรฐานความยากของเส้นทางการปีนผ่านการเลือกใช้สีรุ้ง โดยเริ่มต้นจากเส้นทางที่ง่ายที่สุดคือ สีแดง รองลงมาคือ สีแสด สีเหลือง ไปจนถึงสีดำและสีขาว ซึ่งเป็นสีที่ยากที่สุด
อย่างไรก็ตาม Stonegoat จะมีการเปลี่ยนแปลงเส้นทางการปีนทุกอาทิตย์ เพื่อสร้างความท้าทายให้กับผู้เล่นและให้ผู้เล่นได้ฝึกใช้กล้ามเนื้อทุกส่วนในตอนที่ปีน ซึ่งแน่นอนว่าเส้นทางเหล่านี้ถูกออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญทั้งสิ้น

เป้าหมายต่อไปของ Stonegoat
เมื่อถามถึงภาพในอนาคตของ Stonegoat ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ผู้บริหาร Stonegoat บอกว่า เขาอยากขยายครอบครัวของ Stonegoat ให้ใหญ่มากขึ้นกว่านี้ อยากให้ทุกคนมาเป็นส่วนหนึ่งกับที่นี่ ได้ทั้งออกกำลังกายและได้ทำกิจกรรมอื่นๆ กับสังคมใหม่ๆ “เราต้องการเจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ เช่น พนักงานออฟฟิศของตึก The PARQ หรือคนในย่านนี้ ซึ่งทุกอย่างกำลังไปได้ดี” สนธเยศกล่าว
สำหรับใครที่กำลังลังเล หรือหากิจกรรมที่ท้าทายพละกำลังของตัวเอง สนธเยศ ทิ้งท้ายไว้ว่า “อยากให้ทุกคนลองเปิดใจ สัก 1-2 ครั้งก็ได้ มันไม่ได้ยากอย่างที่คิด อย่างน้อยๆ ก็ได้เพื่อนใหม่ ได้รู้จักคนเพิ่ม มีคนรอบข้างพร้อมที่จะสอนและสนับสนุนเราเสมอ”
Fact Box
- Stonegoat The PARQ ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 The PARQ, 88 ถ. รัชดาภิเษก แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร
- เปิดทุกวันเวลา 10.00-22.00 น.
- สามารถเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน MRT สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ทางออก 2
- ค่าบริการ 495 บาท/วัน และ 1,980 บาท/เดือน




