เพื่อไทยตั้ง ‘จาตุรนต์’ คุมยุทธศาสตร์พรรค พร้อมขายจุดแข็งทำนโยบายได้จริง

วันนี้ (18 พฤศจิกายน 2568) ที่ทำการพรรคเพื่อไทย จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค ร่วมแถลงข่าวแต่งตั้ง จาตุรนต์ ฉายแสง สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเลือกตั้ง

จุลพันธ์เปิดเผยว่า คณะกรรมการยุทธศาสตร์จะประกอบไปด้วยแกนนำพรรคเพื่อไทย 17 คน ได้แก่ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์, ภูมิธรรม เวชยชัย, สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ, สมศักดิ์ เทพสุทิน, จาตุรนต์ ฉายแสง, ชูศักดิ์ ศิรินิล, นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว, สุทิน คลังแสง, วิสุทธิ์ ไชยณรุณ, นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช, เกรียง กัลป์ตินันท์, สรวงศ์ เทียนทอง, มนพร เจริญศรี, จิราพร สินธุไพร, ประเสริฐ จันทรรวงทอง, ชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ และลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์

หัวหน้าพรรคเพื่อไทยระบุว่า คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคมีบทบาทสำคัญคือ กำหนดทิศทางทางการเมือง แนวทางการต่อสู้ทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย โดยคณะกรรมการดังกล่าวจะทำหน้าที่สื่อสารมายังคณะกรรมการบริหารพรรคโดยตรง คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคจะเป็นหน่วยสำหรับการขับเคลื่อนพรรคให้ดำเนินตามยุทธศาสตร์ที่กำหนดไว้ เพื่อเข้าสู่การเลือกตั้งและเวทีทางการเมืองระบบรัฐสภา

ด้านจาตุรนต์ ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคกล่าวว่า ปกติยุทธศาสตร์ทางการเมืองเป็นเรื่องระยะยาว แต่คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมานี้อยู่ในช่วงเวลาที่ใกล้ถึงการเลือกตั้งทั่วไป เพราะฉะนั้นการทำงานจะผสมผสานการทำงานเชิงยุทธศาสตร์ของพรรคระยะยาว โดยเน้นไปที่เรื่องการวางยุทธศาสตร์เพื่อให้พรรคได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง

ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยระบุต่อว่า เมื่อวานนี้ (17 พฤศจิกายน 2568) มีการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์เป็นครั้งแรกเพื่อหารือในเรื่องของการทำงาน ตลอดจนการประเมินทิศทางและแนวทางการทำงานของพรรคในด้านต่างๆ เช่น นโยบาย เพื่อเตรียมพร้อมสู่การเลือกตั้ง 

ทั้งนี้จะนำจุดแข็งของพรรคเพื่อไทย คือการเป็นพรรคที่มีบทบาทในการสร้างประชาธิปไตย และพรรคการเมืองที่มีบทบาทในการสร้างนโยบายที่นำไปสู่การปฏิบัติจริง กลับมาทำให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น

“โพลที่ออกมาว่าความนิยมของพรรคตามหลังพรรคอื่น เป็นเรื่องที่เราไม่คุ้นสภาพนี้ เพราะว่าปกติเราเดินเข้าสู่การเลือกตั้งที่โพลความนิยมของพรรคนำอยู่ เพราะฉะนั้นต้องรีบค้นหาว่าปัญหาอยู่ตรงไหน จะปรับปรุงอย่างไร 

“เราเชื่อว่า ขีดความสามารถ ความรู้ ประสบการณ์ และความตั้งใจ รวมทั้งการใช้ระบบที่เป็นวิทยาศาสตร์และมีประสิทธิภาพ จะสามารถทำให้พรรคขยับกลับมาสู่จุดที่เคยเป็น คืออยู่ในจุดที่พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคในฐานะผู้เข้าแข่งขันที่สำคัญได้โดยเร็ว” จาตุรนต์กล่าว

จาตุรนต์ทิ้งท้ายว่า ตนมีความเชื่อว่า หากคณะกรรมการบริหารพรรคมีความตั้งใจจริงจัง ที่จะช่วยกันทำให้พรรคประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง และประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาประเทศ ก็เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะกลับมาเป็นกำลังสำคัญในการสร้างประชาธิปไตย และเป็นกำลังสำคัญในการคิดสร้างนโยบายเพื่อรับกับสถานการณ์ ที่ยากกว่าหลายการเลือกตั้งที่ผ่านมาได้