เมื่อวานนี้ (10 พฤศจิกายน 2025) ปราโบโว ซูเวียนโต (Prabowo Subianto) ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ออกมายกย่อง ซูฮาร์โต (Suharto) อดีตผู้นำเผด็จการทหารของอินโดนีเซีย ซึ่งเคยอยู่ในอำนาจนานถึง 30 ปี ให้เป็นวีรบุรุษแห่งชาติ เนื่องในวันวีรบุรุษแห่งชาติประจำปีของอินโดนีเซีย
ทั้งนี้ในวันที่ 10 พฤศจิกายนของทุกปี จะมีการมอบตำแหน่งวีรบุรุษแห่งชาติให้กับบุคคลสำคัญของอินโดนีเซีย เพื่อรำลึกถึงบุคคลที่สร้างคุณูปการให้กับประเทศ
สำหรับปีนี้ ซูฮาร์โตคือหนึ่งในบุคคลที่ได้รับยกย่องให้เป็นวีรบุรุษแห่งชาติ เช่นเดียวกับ อับดูร์ระฮ์มัน วาฮิด (Abdurrahman Wahid) อดีตประธานาธิบดีอินโดนีเซีย และมอชตาร์ กุสุมาตมัดจา (Mochtar Kusumaatmadja) อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รวมไปถึง มาร์ซินาร์ (Marsinah) นักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ถูกสังหารในสมัยที่ซูฮาร์โตอยู่ในอำนาจ
การประกาศยกย่องอดีตผู้นำทหารเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสต่อต้านจากบรรดานักวิชาการ นักประวัติศาสตร์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง รวมไปถึงกลุ่มสิทธิมนุษยชน ซึ่งรวมตัวกันเขียนจดหมายประท้วงต่อต้านตำแหน่งวีรบุรุษของซูฮาร์โต โดยมองว่าการกระทำดังกล่าว คือการฟอกขาวให้กับเผด็จการทหารของอินโดนีเซีย
ซูฮาร์โตคือใคร
ซูฮาร์โตดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 1965 ด้วยการรัฐประหารซูการ์โน (Sukarno) ประธานาธิบดีคนแรกของอินโดนีเซีย ซึ่งตรงกับช่วงที่กระแสสงครามเย็นกำลังร้อนระอุทั่วทั้งโลก
ภายหลังจากขึ้นสู่อำนาจ ซูฮาร์โตดำเนินการกวาดล้างผู้ต้องสงสัยว่าเป็นคอมมิวนิสต์อย่างรุนแรง โดยได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนและอาวุธจากสหรัฐฯ คาดการณ์ว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวมีประชาชนเสียชีวิตจากการกวาดล้างมากถึง 1 ล้านคน
ภายใต้การปกครองของซูฮาร์โต แม้ว่าเศรษฐกิจของอินโดนีเซียจะเติบโตได้อย่างรวดเร็วจากการสนับสนุนของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ประชาชนชาวอินโดนีเซียกลับถูกจำกัดเสรีภาพในการชุมนุมและแสดงความคิดเห็น มีการทรมานและละเมิดสิทธิมนุษยชนของชนกลุ่มน้อย สื่อถูกจำกัดเสรีภาพในการนำเสนอข่าวและแสดงความคิดเห็น ระบบเศรษฐกิจของประเทศถูกควบคุมโดยกองทัพทหาร ซูฮาร์โตยังแผ่ขยายอำนาจด้วยการรุกรานและครอบครองติมอร์ตะวันออกในปี 1975 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตจากการรุกรานในครั้งนี้มากกว่าแสนคน นอกจากนี้ซูฮาร์โตและครอบครัวยังถูกตั้งข้อสงสัยว่าสะสมทรัพย์สินอย่างผิดกฎหมายจำนวนหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตลอดช่วงเวลาที่อยู่ในอำนาจอีกด้วย
ในปี 1998 อินโดนีเซียตกอยู่ในภาวะความปั่นป่วนทางเศรษฐกิจ หลังเกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชีย (Asian Financial Crisis) ก่อให้เกิดการประท้วงจากกลุ่มนักศึกษา นำไปสู่เหตุการณ์นองเลือดในเดือนพฤษภาคม 1998 จนกระทั่งซูฮาร์โตต้องประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีหลังอยู่ในอำนาจมายาวนานกว่า 30 ปี ต่อมาซูฮาร์โตเสียชีวิตลงในปี 2008 ด้วยวัย 86 ปี
Suharto is not the hero!
ปฏิกิริยาจากกลุ่มนักเคลื่อนไหวทางการเมืองเกิดขึ้นก่อนที่จะถึงพิธีมอบตำแหน่งในวันที่ 10 พฤศจิกายน โดยรวมตัวกันประท้วงทั่วเมืองจาการ์ตา โดยถือป้ายประท้วงระบุข้อความต่างๆ เช่น ‘ซูฮาร์โตไม่ใช่วีรบุรุษ’, ‘หยุดการฟอกขาวฆาตกร’ และ ‘มีคนตายนับพัน แต่ประเทศเลือกที่จะลืม’
อันเดรส ฮาร์โซโน (Andreas Harsono) นักวิจัยชาวอินโดนีเซียของ Human Rights Watch กล่าวว่า ความล้มเหลวในการยกย่องซูฮาร์โตเป็นวีรบุรุษแห่งชาติ คือการบิดเบือนประวัติศาสตร์ ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อค่านิยมทางด้านประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนของอินโดนีเซีย ทั้งในปัจจุบันและอนาคต
กลุ่มสิทธิมนุษยชนแอมเนสตี้ (Amnesty) ยังมองว่า การมอบตำแหน่งวีรบุรุษแห่งชาติให้กับซูฮาร์โต แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างซูฮาร์โตกับปราโบโว ซึ่งนอกจากดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนปัจจุบันแล้ว เขายังเคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารในสมัยของซูฮาร์โต อีกทั้งปราโบโวยังเคยแต่งงานกับ ทิเทียก ซูฮาร์โต (Titiek Suharto) ลูกสาวของซูฮาร์โต ทำให้เขาเป็นอดีตลูกเขยของซูฮาร์โตอีกด้วย
นอกจากนี้ปราโบโวยังเคยถูกตั้งข้อสงสัยว่า มีส่วนเกี่ยวข้องในการลักพาตัวนักเคลื่อนไหวประชาธิปไตย และความพยายามในการขยายอำนาจของกองทัพทหารเข้าสู่พื้นที่การเมืองของอินโดนีเซีย ซึ่งทำให้อินโดนีเซียอยู่ใต้อิทธิพลของทหารอยู่นานหลายปี
ที่มา:
– https://edition.cnn.com/2025/11/11/asia/suharto-indonesia-national-hero-explainer-intl-hnk
Tags: Suharto, ซูฮาร์โต, เผด็จการ, ประวัติศาสตร์, รัฐประหาร, อินโดนีเซีย, ฟอกขาว




