วันนี้ (18 กันยายน 2025) เจอร์รี กรีนฟิลด์ (Jerry Greenfield) ผู้ก่อตั้งร่วม Ben & Jerry’s แบรนด์ไอศครีมสัญชาติอเมริกัน ประกาศลาออกจากตำแหน่งแบรนด์แอมบาสเดอร์ เหตุเพราะไม่ลงรอยกับ Unilever บริษัทแม่เรื่องความคิดเห็นทาง ‘การเมือง’ คือ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซา ชี้การยืนหยัดเพื่อความยุติธรรมและความเสมอภาคสำคัญกว่า
Ben & Jerry’s ก่อตั้งโดย 2 นักเคลื่อนไหวอย่าง กรีนฟิลด์ และ เบน โคเฮน (Ben Cohen) ในปี 1978 มีถิ่นกำเนิดที่รัฐเวอร์มอนต์ และเป็นที่รู้จักในฐานะแบรนด์ไอศครีมขับเคลื่อนสังคม โดย Unilever เข้าซื้อกิจการในปี 2000 มูลค่า 326 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.03 หมื่นล้านบาท)
หลังจากก่อตั้งและอยู่คู่แบรนด์ไอศครีมที่มีอายุราว 50 ปี กรีนฟิลด์ก็ประกาศลาออกสายฟ้าแลบท่ามกลางความตกใจของทุกคน โดย เบน โคเฮน (Ben Cohen) ผู้ก่อตั้งร่วมอีกราย โพสต์จดหมายเปิดผนึกที่เขียนโดยกรีนฟิลด์ใน X ว่า คู่หูของเขาตัดสินใจเช่นนี้แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวดมาก แต่เพราะ Unilever ปิดปากไม่ให้บริษัทพูดถึงปัญหาในสังคมโลก โดยเฉพาะสถานการณ์ในกาซา
“การยืนหยัดเพื่อหลักคุณค่าอย่างความยุติธรรม ความเท่าเทียม และความมีมนุษยธรรมร่วมกันนั้นสำคัญกว่าสิ่งใด แต่ Ben & Jerry’s กลับถูกปิดปากและแยกตัวออกไป เพราะกลัวว่าจะไม่ถูกใจผู้มีอำนาจ
“Ben & Jerry’s เป็นมากกว่าไอศครีม แต่นี่คือหนทางการส่งต่อความรัก และเชิญชวนผู้คนสู้เพื่อความเท่าเทียม ความยุติธรรม และโลกที่ดีขึ้น”
ในแถลงการณ์ยังระบุอีกว่า แบรนด์ยืนหยัดต่อสู้กับหลักคุณค่าสากลมาตลอด โดยผู้ก่อตั้งทั้งสองคนมีบอร์ดบริหาร และอำนาจในการใช้แบรนด์ทำภารกิจเพื่อสังคม ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้เขาตัดสินใจขายกิจการให้ Unilever แต่กลับกลายเป็นว่า Ben & Jerry’s สูญเสียมันไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม โฆษกของ Unilever ออกแถลงการณ์ปฏิเสธว่า บริษัทไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นของกรีนฟิลด์ โดยพยายามเรียก 2 ผู้ก่อตั้งมาคุยกันเพื่อทำอย่างไรให้ Ben & Jerry’s รักษาคุณค่าเหล่านี้ไว้ได้ พร้อมกับย้ำว่า บริษัทแม่ยังคงยืดมั่นภารกิจของแบรนด์ไอศครีมที่ขับเคลื่อนสังคมไว้ และหลังจากนี้ Ben & Jerry’s จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของ Magnum บริษัทไอศกรีมใหม่ของ Unilever ซึ่งจะเข้าตลาดหลักทรัพย์เดือนตุลาคม เพื่อร่วมกันสร้างความสำเร็จ
ในช่วงที่ผ่านมา Ben & Jerry’s เคยทำแคมเปญต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนการเมืองและสังคม เช่น ออกรสชาติที่ชื่อว่า ‘รสความยุติธรรม’ โดยมีส่วนผสมซินนามอนและช็อกโกแลตในปี 2019 เพื่อสนับสนุนความเท่าเทียมทางเชื้อชาติ หรือเปลี่ยนชื่อรสไอศครีมจาก Chubby Hubby เป็น ‘Hubby Hubby’ เพื่อสนับสนุนการแต่งงานของเกย์ในปี 2009 รวมถึงทำไอศครีมรส Bernie’s Back เพื่อสนับสนุน เบอร์นีย์ แซนเดอร์ส (Bernie Sanders) แคนดิเดตประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต (Democratic Party) ในการเลือกตั้งสหรัฐฯ ปี 2020
ทว่าความสัมพันธ์ระหว่าง Unilever กับผู้ก่อตั้ง Ben & Jerry’s มาถึงจุดแตกหักในปี 2021 หลังเกิดสงครามอิสราเอล-ฮามาส ทำให้แบรนด์วางแผนว่า จะยุติการขายไอศครีมในเวสต์แบงก์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อิสราเอลยึดไว้ แต่สุดท้าย บริษัทแม่ก็ขายกิจการให้ชาวอิสราเอลโดยไม่ได้รับความยินยอม เป็นเหตุให้เกิดเรื่องฟ้องร้องตามมา แม้ว่าจะจบด้วยการยอมความก็ตาม
นอกจากนี้สองคู่หูผู้ก่อแบรนด์ยังแสดงออกถึงเหตุการณ์ ‘ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์’ ในกาซา โดยทำแคมเปญประณาม และประกาศยืนหยัดเคียงข้างกับกาซา ถือเป็นจุดยืนที่เกิดขึ้นได้ยากในสังคมอเมริกัน เห็นภาพได้ชัดเจนจากกรณี Microsoft ไล่พนักงาน 4 รายออก เพราะเรียกร้องให้บริษัทตัดความสัมพันธ์กับอิสราเอล และจ่ายค่าชดเชยให้ชาวปาเลสไตน์
ความขัดแย้งรุนแรงจนถึงขั้นผู้ก่อตั้ง Ben & Jerry’s ยื่นฟ้อง Unilever โดยอ้างว่าละเมิดเงื่อนไขการซื้อกิจการ คือ พยายามปิดปากไม่ให้สนับสนุนชาวปาเลสไตน์ และยุบบอร์ดบริหารคณะกรรมการทำภารกิจสังคม แต่ Magnum บริษัทไอศครีมของ Unilever อ้างว่า กรีนฟิลด์ไม่ใช่คู่ขัดแย้งในคดีนี้ ขณะที่ยังยื่นคำร้องให้ศาลยกคดีในช่วงต้นปี แต่ศาลยังไม่ได้พิจารณา
อ้างอิง
https://x.com/YoBenCohen/status/1968161740757119057/photo/1
https://www.wsj.com/business/ben-jerrys-sues-unilever-alleging-it-was-censored-over-gaza-3676abb4
https://edition.cnn.com/2019/08/02/politics/bernie-sanders-ben-and-jerrys-founders-trnd
Tags: การเมือง, สหรัฐอเมริกา, อิสราเอล, ปาเลสไตน์, ไอศกรีม, กาซา, Ben & Jerry, Unilever
