เวียดนาม สิงคโปร์ทุ่มเงิน ขยาย Entertainment Complex หรือไทยกำลังเสียโอกาสครั้งใหญ่?

หลายวันที่ผ่านมามีข่าวในแวดวง Entertainment Complex หลายแห่งในภูมิภาคนี้ ไม่ว่าจะเป็น Marina Bay Sands เฟส 2 ที่ประเทศสิงคโปร์ ที่ Las Vegas Sands Corp (LVS) ประกาศลงทุน 8,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 2.6 แสนล้านบาท) เพื่อสร้างอาคาร 55 ชั้น ประกอบไปด้วย โรงแรม คาสิโน ภัตตาคารช็อปปิงมอลล์ และฮอลล์จัดอีเวนต์ระดับโลก

ขณะที่เวียดนามเพิ่งอนุมัติให้กลุ่ม Sun Group ลงทุนในโครงการ Van Don Integrated Casino & Tourism Complex มูลค่า 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 6.5 หมื่นล้านบาท) ที่เมืองแวนดอน ประเทศเวียดนาม ห่างจากกรุงฮานอย 211 กิโลเมตร เป็นการเปิดเมืองใหม่ กระจายความเจริญไปยังเมืองรองมากขึ้น

ในภูมิภาคเอเชีย Entertainment Complex กำลังขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่นก็ให้ MGM Grand ลงทุนสร้าง Entertainment Complex แห่งใหม่บนเกาะยูเมะชิมะ (Yumeshima) ของเมืองโอซาก้า สถานที่จัดงาน World Expo ขณะที่รายได้ของมาเก๊า (Macao) ก็มากอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

หากจำกันได้ วีนา-ปวีนา ซิงห์ Miss Universe Thailand 2025 เพิ่งประกาศสนับสนุนการสร้าง Entertainment Complex ในประเทศไทย ขณะประกวดรอบ Queen of Phuket ที่จังหวัดภูเก็ต เพราะเห็นว่าสิ่งนี้จะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยว และพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้ประเทศได้

คำตอบดังกล่าวและพลวัตจากอีกหลายประเทศที่กำลังก่อร่างสร้าง Entertainment Complex ชวนให้ย้อนกลับมามองนโยบายนี้อีกครั้งว่าในที่สุด หรือเราจะเสียโอกาสบางอย่างไป หากไม่ยอมเริ่มต้น Entertainment Complex ด้วยสาเหตุเดียวคือ เพราะมี ‘คาสิโน’ เป็นองค์ประกอบสำคัญ

คาสิโนถูกมองว่าเป็นสิ่งเลวร้าย เป็นสถานที่มอมเมาคนไทย และจะทำให้คนอีกจำนวนไม่น้อยสิ้นเนื้อประดาตัว ทั้งที่ประเทศรอบบ้านต่างก็มีคาสิโน ขณะที่ประเทศนี้ มีบ่อนเล็ก บ่อนใหญ่ เต็มไปหมดทุกหัวระแหง

ถามว่าเพราะเหตุใดต้องมีคาสิโน เรื่องสำคัญคือ Business Model ของ Entertainment Complex นั้น แม้จะมีคาสิโนเพียง 10% ของอาณาจักรทั้งหมด แต่เงินส่วนใหญ่จากคาสิโนคือเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงธุรกิจโรงแรม สวนสนุก สวนน้ำ สนามกีฬา การจัดแสดงโชว์ แทบจะเป็นเงินที่ ‘จ่ายตรง’ เพื่อหล่อเลี้ยงธุรกิจเหล่านี้

ขณะเดียวกันหากยึดมาเก๊าหรือลาสเวกัส สหรัฐอเมริกาเป็นต้นแบบ รายได้เกือบครึ่งหนึ่งจากคาสิโนคือรายได้ที่ต้องส่งเข้ารัฐบาล นั่นหมายความว่ารัฐจะมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล จากการจ่ายตรงของบรรดานักเล่นพนัน ยิ่งมากเท่าไร ก็ยิ่งออกแบบระบบนำเงินเหล่านี้มาใช้ เพื่อสาธารณประโยชน์ เพื่อสร้างระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานได้มากขึ้น

นั่นหมายความว่า เงินจากบ่อนการพนันที่อยู่ใต้ดินและเงินที่นักพนันไทยไปทิ้งไว้ที่ปอยเปต ชเวโก๊กโก่ รวมถึงสิงคโปร์ มาเก๊า จะเข้ามาหล่อเลี้ยงประเทศไทยโดยตรงมากขึ้น

กับอีกส่วนหนึ่งคือการเป็นพื้นที่ในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ ต้องยอมรับว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยกินบุญเก่ามานานมากจากท้องทะเล ภูเขา วัฒนธรรมไทย รวมถึงซอฟต์พาวเวอร์ที่หาชาติไหนแข่งลำบาก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีคู่แข่ง หลายปีที่ผ่านมา ตัวเลขนักท่องเที่ยวเริ่มไหลไปยังประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น และวันที่จีนมีปัญหา นักท่องเที่ยวจีนลดการเดินทางมาเที่ยวไทย ตัวเลขนักท่องเที่ยวไทยก็ลดตามไปอย่างมีนัยสำคัญ

ขณะเดียวกันคนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวต่างรู้ดีว่า การท่องเที่ยวไทยมีช่วง High Season และ Low Season โดยช่วง Low Season ก็โลว์จนน่าใจหาย พ่อค้าแม่ขายหลายคนนั่งตบยุง ราคาโรงแรมถึงลดลงครึ่งหนึ่งก็ยังเหลือห้องว่างเพียบ

แต่ถ้าประเทศไทยมี Man-made Destination มีสวนสนุกระดับโลกแบบที่ Resorts World Sentosa ของสิงคโปร์ดึง Universal Studios มาได้ มีสนามกีฬา มีอารีนาที่ไว้จัดโชว์คอนเสิร์ตระดับโลก ก็แปลว่าคนมาเที่ยวประเทศนี้ ไม่ว่าจะช่วงไฮหรือช่วงโลว์ ไม่จำเป็นต้องเที่ยววัด เที่ยววัง เที่ยวทะเล เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป

สำหรับสถานะ Entertainment Complex ของไทยขณะนี้ ยังคงอึมครึม รัฐบาลถอนร่างพระราชบัญญัติสถานบันเทิงครบวงจรออกจากการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ความหวังเรื่องนี้ริบหรี่ เพราะระบบการเมืองที่ไม่แน่นอน

แต่หากคนไทยเห็นพ้องกันว่าเรื่อง Entertainment Complex เป็น ‘โอกาส’ มากกว่าเป็นเรื่อง ‘มอมเมา’ เรื่องนี้ก็กลับมาได้

เพราะยิ่งเรื่องนี้ช้าเท่าไร ประเทศไทยก็เสียโอกาสไปมากเท่านั้น