ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ นักการเมืองและแฟนบอลหนุน โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ (Mohammed Salah) นักเตะชาวอียิปต์จากสโมสรลิเวอร์พูล (Liverpool) หลังออกโรงวิจารณ์สหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป (Union of European Football Associations: UEFA) กรณีไว้อาลัยการจากไปของ สุไลมาน เอล โอเบด (Suleiman Al-Obeid) นักเตะชาวปาเลสไตน์วัย 41 ปี เจ้าของฉายา ‘เปเล่แห่งปาเลสไตน์’ แต่ไม่กล่าวถึงรายละเอียดว่า ต้นตอการเสียชีวิตเกิดจากอิสราเอลสังหารผู้คนในกาซา
วันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา สหพันธ์ฟุตบอลปาเลสไตน์ (Palestine Football Association: PFA) เปิดเผยว่า เอล โอเบด ถูกกองทัพอิสราเอลสังหาร ในระหว่างที่กำลังให้ความช่วยเหลือผู้คนในกาซา พร้อมไว้อาลัยว่า เขาเป็นหนึ่งในดาวนักเตะที่โดดเด่นในวงการฟุตบอลของชาติ ซึ่งที่ผ่านมาทำประตูได้มากกว่า 100 ลูกตลอดอาชีพ จนเป็นที่มาของฉายาว่า ‘เปเล่แห่งปาเลสไตน์’
ต่อมา UEFA เขียนไว้อาลัยสั้นๆ ว่า “ลาก่อน สุไลมาน เอล โอเบด เปเล่แห่งปาเลสไตน์ ผู้มีความสามารถที่ช่วยเหลือเด็กๆ นับไม่ถ้วน แม้แต่ในเวลาที่มืดมิดที่สุด” แต่หลังจากนั้น ซาลาห์ นักเตะลิเวอร์พูล ได้โพสต์ข้อความตั้งคำถามกับองค์กรฟุตบอลแห่งยุโรปว่า แล้วเหตุใด UEFA จึงเลี่ยงบาลี ไม่ระบุให้ชัดเจนว่า สาเหตุการเสียชีวิตของนักบอลปาเลสไตน์คืออะไร
“บอกผมหน่อยได้ไหมว่า เขาตายยังไง ที่ไหน และอย่างไร” ซาลาห์โพสต์ข้อความสั้นๆ ทั้งบน X และ Instagram โดยมีนักเตะจำนวนหนึ่งที่กดไลก์ข้อความดังกล่าวบน Instagram เช่น อิบราฮิม โกนาเต (Ibrahim Konate) กองหลังจากลิเวอร์พูล, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์ (Trent Alexander-Arnold) อดีตเพื่อนร่วมทีม และนักเตะสโมสรเรอัลมาดริด (Real Madrid) และ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ (Antonio Rudiger) กองหลังจากเรอัลมาดริด
ขณะที่ เจเรมี คอร์บิน (Jeremy Corbin) นักการเมืองฝ่ายซ้ายอังกฤษออกโรงสนับสนุนว่า นักเตะลิเวอร์พูลผู้นี้พูดถูกต้อง เช่นเดียวกับ แกรี่ ลินิเกอร์ (Gary Lineker) อดีตกองหน้าสัญชาติอังกฤษ และผู้ประกาศข่าวกีฬาส่งข้อความถึง UEFA ว่า เขาไม่ได้รับรู้เจตจำนงที่แท้จริงจากโพสต์นั้นเลย
นอกจากนี้แฟนบอลหลายทีมยังออกมาชื่นชมซาลาห์ ที่กล้าเสี่ยงใช้กระบอกเสียงของตนเองเรียกร้องความเป็นธรรม โดยเฉพาะกับ UEFA ที่ถูกมองว่า กำลังฟอกขาวความผิดอิสราเอลในเรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ผ่านกีฬา หลังยอมรับให้อิสราเอลเป็นประเทศผู้สมัครตำแหน่งกรรมการบริหารขององค์กร
“ผมเคารพเขาเพิ่มขึ้นอีกร้อยเท่า เขาไม่เหมือนนักฟุตบอลที่อ่อนแอคนอื่นๆ ผู้ปิดปากเพราะกลัวว่าจะเสียสปอนเซอร์ไปหมด” ขณะที่แฟนบอลบางส่วนถึงกับมองว่า การที่ซาลาห์ออกมาแสดงความคิดเห็นแบบนี้ เขาอาจหลุดจากเต็งหนึ่งรางวัลบัลลงดอร์ (Ballon d’Or) 2025 ก็ได้ เพราะวงการฟุตบอลฝรั่งเศสที่เป็นฝ่ายมอบรางวัลดังกล่าว เต็มไปด้วยการคอร์รัปชันและการเหยียดเชื้อชาติ แต่ถึงอย่างไร นี่แสดงให้เห็นถึงสปิริตของซาลาห์ที่มากกว่าวงการฟุตบอล
ขณะที่ บาสซิล มิกดาดี (Bassil Mikdadi) ผู้ก่อตั้งกลุ่ม Football Palestine ให้ความเห็นกับ Al Jazeera ว่า เขาไม่ได้คาดหวังที่ UEFA จะตอบสนองต่อแรงปะทะทางโซเชียลฯ เพราะเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่องค์กรไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องพวกนี้ พร้อมตั้งคำถามถึง ‘ความเงียบในวงการฟุตบอล’ ต่อสถานการณ์ในกาซา
ปัจจุบันข้อมูลจากทางการเปิดเผยว่า สงครามในกาซาทำให้บุคลากรในวงการฟุตบอลปาเลสไตน์ เสียชีวิตราว 321 คน ตั้งแต่ผู้เล่น โค้ช ผู้บริหาร กรรมการ และบอร์ดบริหาร
อ้างอิง:
– https://www.aljazeera.com/sports/2025/8/9/salah-criticises-uefa-tribute-to-palestinian-pele
Tags: ลิเวอร์พูล, Middle East, กาซา, UEFA, Liverpool, โม ซาลาห์, ฟุตบอล, premier league, อิสราเอล, เจเรมี คอร์บิน, ปาเลสไตน์, อังกฤษ